ซันโย เดินหน้าลุยตลาดเต็มสูบ หลังพานาโซนิคควบกิจการ อัดฉีด 70 ล้านบาท โฟกัสกลุ่มไอที พลังงาน เครื่องใช้ไฟฟ้า ปักธงตลาดเชิงพาณิชย์ ระเบิดเครื่องเย็นหลายรุ่น ทะลวงคนตกงานแห่ทำธุรกิจขายเครื่องดื่ม ลั่นทวงบัลลังก์ทอปทรีตู้เย็นกวาดแชร์ 20% สิ้นปีโต 15% ได้รายได้พุ่ง 3,000 ล้านบาท
นายสึโตมุ โมริโมโตะ ประธานกรรมการ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าซันโย เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทพานาโซนิคได้ซื้อกิจการซันโยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยซันโยมีการปรับโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้มากนัก เนื่องจากทั้งสองบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงข้อกฎหมายในแต่ละประเทศด้วยว่า การควบรวมกิจการกันครั้งนี้จะไม่ได้เป็นการมีอำนาจเหนือตลาดในประเทศนั้น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะส่งผลให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
สำหรับนโยบายปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงใน 3 ด้าน คือ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และพอร์ตโฟลิโอ มุ่งเน้นธุรกิจเชิงพาณิชย์ โดยการทำตลาดท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น สำหรับซันโยไม่ได้มองว่าเป็นปัจจัยลบ แต่มองในเชิงบวกมากกว่า เพื่อพัฒนาและเตรียมความพร้อมของบริษัท รองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งปีนี้บริษัทมุ่งเน้น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้การทุ่มงบการตลาด 60-70 ล้านบาท ผ่านการทำบีโลว์เดอะไลน์เป็นหลัก
แผนการตลาดหมวดเครื่องเย็น เจาะตลาดในเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะตู้เย็นสำหรับเบียร์ ตู้ไอศกรีม ตู้เครื่องดื่ม ชูจุดเด่นด้านอุณหภูมิความเย็น เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มแฟรนไชส์ ร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านสะดวกซื้อ และจากการที่มีผู้ตกงานและหันมาประกอบอาชีพจำหน่ายเครื่องดื่ม คาดว่าเครื่อง เย็นปีนี้โต 78% กวาด 490 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 275 ล้านบาท และในปี 2554 ราว 1,200 ล้านบาท
ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริษัทคงตอกย้ำจุดแข็งการคงทนและคุณภาพของสินค้า โดยตู้เย็นนนำเสนอสินค้าใหม่โดยออกแบบให้ทันสมัย เน้นประโยชน์ใช้สอย และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ส่วนกลุ่มโทรทัศน์มุ่งจอบาง ขณะที่กลุ่มสินค้าไอที ในหมวดกล้องดิจิตอล ชูคอนเซปต์ทูอินวัน “ดูโอ คาเมร่า” มีด้วยกัน 3 รุ่น คือ VPC-WH1 และVPC-FH 1 เป็นต้น เจาะกลุ่มเป้าหมายวันรุ่นเป็นหลัก ส่วนโปรเจคเตอร์ เจาะตลาดสำนักงานและการศึกษา
สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 15% หรือราว 3,000ล้านบาท จากปี 2551 มีรายได้ 2,600ล้านบาท เติบโต 140% จากรายได้ปี 2550 ราว 1,820ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สัดส่วย 35% กลุ่มไอที 25% มีอัตราการเติบโตมากที่สุด โดยสินค้าหมวดตู้เย็น บริษัทตั้งเป้าทวงตำแหน่งผู้นำ 1 ใน 3 ของตลาด ด้วยการครองส่วนแบ่ง 20% ในสิ้นปีนี้
นายสึโตมุ โมริโมโตะ ประธานกรรมการ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าซันโย เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทพานาโซนิคได้ซื้อกิจการซันโยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยซันโยมีการปรับโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้มากนัก เนื่องจากทั้งสองบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงข้อกฎหมายในแต่ละประเทศด้วยว่า การควบรวมกิจการกันครั้งนี้จะไม่ได้เป็นการมีอำนาจเหนือตลาดในประเทศนั้น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะส่งผลให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
สำหรับนโยบายปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงใน 3 ด้าน คือ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และพอร์ตโฟลิโอ มุ่งเน้นธุรกิจเชิงพาณิชย์ โดยการทำตลาดท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น สำหรับซันโยไม่ได้มองว่าเป็นปัจจัยลบ แต่มองในเชิงบวกมากกว่า เพื่อพัฒนาและเตรียมความพร้อมของบริษัท รองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งปีนี้บริษัทมุ่งเน้น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้การทุ่มงบการตลาด 60-70 ล้านบาท ผ่านการทำบีโลว์เดอะไลน์เป็นหลัก
แผนการตลาดหมวดเครื่องเย็น เจาะตลาดในเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะตู้เย็นสำหรับเบียร์ ตู้ไอศกรีม ตู้เครื่องดื่ม ชูจุดเด่นด้านอุณหภูมิความเย็น เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มแฟรนไชส์ ร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านสะดวกซื้อ และจากการที่มีผู้ตกงานและหันมาประกอบอาชีพจำหน่ายเครื่องดื่ม คาดว่าเครื่อง เย็นปีนี้โต 78% กวาด 490 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 275 ล้านบาท และในปี 2554 ราว 1,200 ล้านบาท
ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริษัทคงตอกย้ำจุดแข็งการคงทนและคุณภาพของสินค้า โดยตู้เย็นนนำเสนอสินค้าใหม่โดยออกแบบให้ทันสมัย เน้นประโยชน์ใช้สอย และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ส่วนกลุ่มโทรทัศน์มุ่งจอบาง ขณะที่กลุ่มสินค้าไอที ในหมวดกล้องดิจิตอล ชูคอนเซปต์ทูอินวัน “ดูโอ คาเมร่า” มีด้วยกัน 3 รุ่น คือ VPC-WH1 และVPC-FH 1 เป็นต้น เจาะกลุ่มเป้าหมายวันรุ่นเป็นหลัก ส่วนโปรเจคเตอร์ เจาะตลาดสำนักงานและการศึกษา
สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 15% หรือราว 3,000ล้านบาท จากปี 2551 มีรายได้ 2,600ล้านบาท เติบโต 140% จากรายได้ปี 2550 ราว 1,820ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สัดส่วย 35% กลุ่มไอที 25% มีอัตราการเติบโตมากที่สุด โดยสินค้าหมวดตู้เย็น บริษัทตั้งเป้าทวงตำแหน่งผู้นำ 1 ใน 3 ของตลาด ด้วยการครองส่วนแบ่ง 20% ในสิ้นปีนี้
