ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ายังไปได้อยู่ แม้ปีนี้ผู้บริโภครัดเข็มขัด “พานาโซนิค” มองไทยเป็นตลาดสำคัญ แม้ยังกังวลปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ กางแผนรบสู้ มุ่งสินค้าอีโค เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน จับฐานลูกค้าระดับกลางถึงบน
นายฮิโรทากะ มุราคามิ ซีอีโอ กลุ่มบริษัท พานาโซนิค ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย ปีนี้เชื่อว่าจะทรงตัวเท่าปีก่อน ถึงแม้ว่าช่วงเดือน ต.ค.ปีก่อน จนถึงช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ตลาดจะค่อนข้างแย่ แต่หลังจากนั้น ก็เริ่มดีขึ้น เนื่องจากเดิมลูกค้าชะลอการใช้จ่ายเงิน เริ่มมีอารมณ์ในการใช้จ่ายเงินมากยิ่งขึ้น
โดยมองว่า โอกาสการเติบโตทั้งของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (HA) และกลุ่มภาพและเสียง (AV) จะอยู่ในสัดส่วน 50% เท่าๆ กัน กล่าวคือ ในกลุ่มภาพและเสียง จะสามารถขายจำนวนได้มากขึ้น แต่เฉลี่ยราคาต่อเครื่องตกลงเรื่อยๆ ขณะที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ถึงแม้ตลาดดูจะไม่หวือหวา แต่ก็ยังมีความต้องการอยู่ อีกทั้งราคาต่อหน่วยก็ไม่ตกลงดังนั้นโอกาสการเติบโตของทั้ง 2 กลุ่ม จึงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน
นายฮิโรทากะ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางกลุ่มพานาโซนิค ยังไม่มีการลงทุนใดๆ เพิ่มเติม หลังจากปีที่ผ่านมา มีการลงทุนครั้งใหญ่ในการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 10% ของถ่านไฟฉาย และกลุ่มจอภาพ แต่การดำเนินธุรกิจปีนี้ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าปีนี้เรื่องของการเมืองและเศรษฐกิจ จะสร้างความกังวลใจต่อการดำเนินธุรกิจก็ตาม แต่ทางกลุ่มพานาโซนิคยังมั่นใจในการทำธุรกิจ เพราะไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญ
อีกทั้งมองว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะสินค้าบางกลุ่ม ยังสามารถเปิดตลาดเข้ามาได้ เพราะเป็นสินค้าที่ยังมีผู้ใช้น้อยอยู่ ขณะเดียวกัน ปัจจุบันผู้เล่นในตลาดก็ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตขึ้นอีก ยกตัวอย่าง เช่น กลุ่มจอภาพและเสียง
ปัจจุบันคนไทยกว่า 80% ยังใช้โทรทัศน์จอโค้งอยู่ ดังนั้น ยังมีโอกาสอีกมากในการที่จะเปลี่ยนมาใช้โทรทัศน์จอแบน ซึ่งในปีนี้แนวโน้มของตลาดจอแบนก็มีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น ขณะที่กลุ่มสินค้าที่จะช่วยขับเคลื่อนตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้ มี 4 ตัว คือ โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น
ขณะที่ปีนี้ พานาโซนิค จะใช้สินค้าทั้ง 4 ตัว ในการขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศ พร้อมทั้งเปลี่ยนโฉมและมีนวัตกรรมเทคโนโลยีแบบอีโค หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจในปีนี้ โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะเปิดตัวถัดจากนี้ไป เช่น กลุ่มจอภาพ จะมุ่งในเรื่องของเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น รวมถึงดีไซน์ที่เข้ากับเทรนด์ในปัจจุบัน ตอบโจทย์ฐานลูกค้าระดับกลางถึงบนเป็นหลัก
นอกจากนี้ ทางกลุ่มพานาโซนิค ยังให้ความสำคัญกับการตลาดแบบซีเอสอาร์ โดยจะมุ่งเน้นในเรื่องการอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมโลก และเรื่องของการยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เน้นเรื่องของสิ่งแวดล้อม และเรื่องของการศึกษาไปพร้อมๆ กัน โดยภาพรวมของจำนวนโครงการและงบประมาณในการใช้ยังคงใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ล่าสุด เปิดตัวโครงการ “สร้างสรรค์ ฉลาดคิดผลิตข่าว กับ พานาโซนิค 2009” ปีที่ 6 เปิดโอกาสให้เยาวชนระดับมัธยมศึกษาอายุระหว่าง 12-17 ปี ร่วมแสดงความรู้ สร้างสรรค์ผลงานการผลิตข่าวชิงทุนการศึกษากว่า 50,000 บาท และเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าแข่งขันในระดับภาคพื้นเอเชียโอเชียเนีย และระดับโลกต่อไป
นายฮิโรทากะ มุราคามิ ซีอีโอ กลุ่มบริษัท พานาโซนิค ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย ปีนี้เชื่อว่าจะทรงตัวเท่าปีก่อน ถึงแม้ว่าช่วงเดือน ต.ค.ปีก่อน จนถึงช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ตลาดจะค่อนข้างแย่ แต่หลังจากนั้น ก็เริ่มดีขึ้น เนื่องจากเดิมลูกค้าชะลอการใช้จ่ายเงิน เริ่มมีอารมณ์ในการใช้จ่ายเงินมากยิ่งขึ้น
โดยมองว่า โอกาสการเติบโตทั้งของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (HA) และกลุ่มภาพและเสียง (AV) จะอยู่ในสัดส่วน 50% เท่าๆ กัน กล่าวคือ ในกลุ่มภาพและเสียง จะสามารถขายจำนวนได้มากขึ้น แต่เฉลี่ยราคาต่อเครื่องตกลงเรื่อยๆ ขณะที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ถึงแม้ตลาดดูจะไม่หวือหวา แต่ก็ยังมีความต้องการอยู่ อีกทั้งราคาต่อหน่วยก็ไม่ตกลงดังนั้นโอกาสการเติบโตของทั้ง 2 กลุ่ม จึงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน
นายฮิโรทากะ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางกลุ่มพานาโซนิค ยังไม่มีการลงทุนใดๆ เพิ่มเติม หลังจากปีที่ผ่านมา มีการลงทุนครั้งใหญ่ในการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 10% ของถ่านไฟฉาย และกลุ่มจอภาพ แต่การดำเนินธุรกิจปีนี้ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าปีนี้เรื่องของการเมืองและเศรษฐกิจ จะสร้างความกังวลใจต่อการดำเนินธุรกิจก็ตาม แต่ทางกลุ่มพานาโซนิคยังมั่นใจในการทำธุรกิจ เพราะไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญ
อีกทั้งมองว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะสินค้าบางกลุ่ม ยังสามารถเปิดตลาดเข้ามาได้ เพราะเป็นสินค้าที่ยังมีผู้ใช้น้อยอยู่ ขณะเดียวกัน ปัจจุบันผู้เล่นในตลาดก็ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตขึ้นอีก ยกตัวอย่าง เช่น กลุ่มจอภาพและเสียง
ปัจจุบันคนไทยกว่า 80% ยังใช้โทรทัศน์จอโค้งอยู่ ดังนั้น ยังมีโอกาสอีกมากในการที่จะเปลี่ยนมาใช้โทรทัศน์จอแบน ซึ่งในปีนี้แนวโน้มของตลาดจอแบนก็มีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น ขณะที่กลุ่มสินค้าที่จะช่วยขับเคลื่อนตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้ มี 4 ตัว คือ โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น
ขณะที่ปีนี้ พานาโซนิค จะใช้สินค้าทั้ง 4 ตัว ในการขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศ พร้อมทั้งเปลี่ยนโฉมและมีนวัตกรรมเทคโนโลยีแบบอีโค หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจในปีนี้ โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะเปิดตัวถัดจากนี้ไป เช่น กลุ่มจอภาพ จะมุ่งในเรื่องของเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น รวมถึงดีไซน์ที่เข้ากับเทรนด์ในปัจจุบัน ตอบโจทย์ฐานลูกค้าระดับกลางถึงบนเป็นหลัก
นอกจากนี้ ทางกลุ่มพานาโซนิค ยังให้ความสำคัญกับการตลาดแบบซีเอสอาร์ โดยจะมุ่งเน้นในเรื่องการอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมโลก และเรื่องของการยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เน้นเรื่องของสิ่งแวดล้อม และเรื่องของการศึกษาไปพร้อมๆ กัน โดยภาพรวมของจำนวนโครงการและงบประมาณในการใช้ยังคงใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ล่าสุด เปิดตัวโครงการ “สร้างสรรค์ ฉลาดคิดผลิตข่าว กับ พานาโซนิค 2009” ปีที่ 6 เปิดโอกาสให้เยาวชนระดับมัธยมศึกษาอายุระหว่าง 12-17 ปี ร่วมแสดงความรู้ สร้างสรรค์ผลงานการผลิตข่าวชิงทุนการศึกษากว่า 50,000 บาท และเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าแข่งขันในระดับภาคพื้นเอเชียโอเชียเนีย และระดับโลกต่อไป