xs
xsm
sm
md
lg

พิษศก.-การคุมเข้มตู้คอนเทนเนอร์ไปสหรัฐฯทำตู้สินค้าผ่านแหลมฉบังหาย 5 แสนทีอียู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัญหาทางเศรษฐกิจทำให้ตู้สินค้าขนถ่ายผ่านท่าเรือแหลมฉบังลดลงถึง 5 แสนทีอียูในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลจะเร่งเดินหน้าพัฒนาการขนส่งทางน้ำให้มากขึ้น
ศูนย์ข่าวศรีราชา –พิษเศรษฐกิจ และมาตรการสุ่มเอกซเรย์ตู้สินค้าที่จะส่งไปสหรัฐฯแบบถี่ยิบของกรมศุลกากร สหรัฐฯ ทำต้นทุนผู้ประกอบการและต้นทุนสินค้าพุ่ง จนส่งผลต่อราคาสินค้าที่จำหน่ายในต่างประเทศ ขณะที่ตัวเลขตู้คอนเทนเนอร์ ขนถ่ายยังท่าเรือแหลมฉบัง ช่วง 7 เดือน ปี 52 หายแล้วกว่า 5 แสนทีอียู ด้าน”อลงกรณ์”รับปากเจราจา รัฐบาลสหรัฐฯเพื่อขอปรับลดความเข้มงวดในการตรวจสอบตู้สินค้า ที่จะส่งไปยังอเมริกา

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะกรรมการลอจิสติกส์และพัฒนาการค้า ที่ประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและนำเข้า ลงพื้นที่ ICD ลาดกระบังและท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อพัฒนาความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนทัศนะกับผู้ประกอบการภาคเอกชน พร้อมรับฟังปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ รวมถึงสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

จากการลงพื้นที่ได้ข้อสรุปทั้งเรื่องการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกที่ใหญ่สุดของประเทศ แต่ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกทำให้เป้าหมายการส่งออกรถยนต์ผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ในปี 2552 ที่ตั้งไว้ 1 ล้านคัน อาจเหลือไม่ถึง 50%

ขณะที่การส่งออกโดยตู้คอนเทนเนอร์ในปี 2551 ที่เคยมียอดสูงถึง 5 ล้านทีอียู แต่ในปีงบประมาณ 2552 ตัวเลขการส่งออกโดยตู้คอนเทนเนอร์ในช่วง 7 เดือนพบมีเพียง 2.5 ล้านทีอียู ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 3 ล้านทีอียู ถึง 5 แสนทีอียู จึงคาดว่าในปีนี้ท่าเรือแหลมฉบังจะมีตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนส่งผ่านท่าลดลงกว่าปีที่ผ่านๆ มา โดยปัจจัยสำคัญที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการพัฒนาการค้าชายฝั่งและการขนส่งทางน้ำเ พื่อเชื่อมโยงการนำเข้าและส่งออก ก็คือการสุ่มเอกซเรย์ตู้สินค้าที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาของกรมศุลกากรที่มากจนเกินไป ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับต้นทุนการเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อการตรวจ สอบจนส่งผลต่อต้นทุนสินค้าที่ออกไปจำหน่ายทำให้เสียโอกาสทางการแข่งขัน

“ส่วนที่กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมาก จนทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ไปยังจุดตรวจพุ่งสูงขึ้น ภายใต้นโยบายใหม่ของสหรัฐฯ จากการนำของประธานา ธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งผ่านเหตุการณ์ 911 มานานแล้วอาจทำให้ มาตรการด้านความมั่นคงคลายลง ก็คือทางการไทยจะเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อขอลดระดับความเข้มงวดในการเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนที่ลดลง ”

นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงข้อเป็นห่วงถึงอนาคตในการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี หลังการเปิดดำเนินการของท่าเรือน้ำลึกเวียดนามว่า คณะกรรมการลอจิสติกส์แห่งชาติจะเร่งแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาศักยภาพด้านการขนส่งทางน้ำของไทย เพื่อลดข้อด้อยจากการที่ท่าเรือน้ำลึกเวียดนามมีขีดความสามารถในการขนส่งที่อาจสูงกว่า โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ถูกกว่าไทย เช่นเดียวกับการที่ประเทศมาเลเซีย ได้ผลักดันให้เกิดการขนส่งสินค้าฮาลาลแบบครบวงจร ซึ่งไทยจำเป็นต้องรักษาส่วนแบ่งตลาดสินค้าในส่วนนี้ ซึ่งการกำหนดแนวทางให้ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นฮาลาลพอร์ตก็จะหยิบยกให้เป็นวาระสำคัญในการพัฒนาต่อไป

“นอกจากนั้นยังจะพัฒนาท่าเรือกันตัง ให้เป็นท่าฮาลาลในฝั่งอันดามัน เพื่อให้เชื่อมต่อกับท่าเรือปีนัง ซึ่งจะเป็นการดำเนินการในลักษณะคู่ค้ามากกว่าคู่แข่ง ” นายอลงกรณ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น