เอเอฟพี / เอเจนซี - หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า ผู้นำเกาหลีเหนือเตรียมตั้งบุตรชายคนเล็กให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจทางการเมืองแล้ว โดยมีการแจ้งหน่วยงานต่างๆ ของโสมแดงทั้งในและต่างประเทศ ให้จงรักภักดีต่อว่าที่ผู้นำคนใหม่ และมีการแต่งเพลงยกย่องให้เป็น"ท่านนายพลคิม"
ปาร์กจีวอน แกนนำพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเอสบีเอสเมื่อวาน(2) โดยระบุว่า เมื่อวันจันทร์(1) ทางสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้หรือ "เอ็นไอเอส" ได้เปิดเผยรายงานต่อที่ประชุมลับของรัฐสภาเกาหลีใต้ว่า คิมจองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือได้ตัดสินใจเลือก คิมจองอุน บุตรชายคนที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรคนสุดท้องของเขา ให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจทางการเมืองแล้ว โดยได้ออกคำสั่งให้มีการส่งอีเมลไปให้เจ้าหน้าที่การทูตเกาหลีเหนือในต่างประเทศเพื่อแจ้งให้มีความจงรักภักดีต่อว่าที่ผู้นำคนใหม่ผู้อยู่ในวัย26ปี
ด้านหนังสือพิมพ์ดองอา อิลโบของเกาหลีใต้ รายงานว่า ผู้นำเกาหลีเหนือวัย 67ปี ซึ่งกำลังป่วยด้วยอาการเส้นโลหิตในสมองอุดตันได้แจ้งเรื่องนี้ต่อทางกองทัพ รัฐสภา และบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตแล้ว ภายหลังเสร็จสิ้นการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน เมื่อวันที่ 25พฤษภาคมที่ผ่านมาและได้สั่งให้มีการแต่งเพลงเพื่อสดุดีว่าที่ผู้นำคนใหม่รวมทั้งสอนให้ประชาชนหัดร้องเพลงดังกล่าวแล้ว ซึ่งในเนื้อเพลงที่แต่งขึ้นใหม่นี้มีการเรียกคิมจองอุนว่าเป็น"ท่านนายพลคิม" และ"นายน้อยคิม"
ชุนแฮซอง โฆษกกระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ออกมาระบุว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่อาจยืนยันได้ว่า คิมจองอุนได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สืบทอดอำนาจของคิมจองอิลอย่างเป็นทางการแล้ว
ชองซองชาง ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือจากสถาบันวิจัยเซจอง กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวานนี้ว่า "เป็นที่ทราบกันดีว่า คิมจองอุนเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการเป็นทายาททางการเมืองของคิมจองอิล เพราะเขามีความเข้มแข้ง และมีนิสัยที่ไร้ความปราณีเช่นเดียวกับผู้เป็นบิดา"
ขณะที่ เคนจิ ฟูจิโมโต อดีตหัวหน้าพ่อครัวชาวญี่ปุ่น ซึ่งเคยมีหน้าที่ทำซูชิให้กับผู้นำเกาหลีเหนือและครอบครัวมาก่อน ได้ออกมาเปิดเผยว่าแต่เดิมคิมจองอิลเคยตั้งใจจะให้ คิมจองนัมบุตรชายคนโตซึ่งปัจจุบันมีอายุ 37 ปี เป็นผู้สืบทอดอำนาจทางการเมืองในฐานะผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือคนต่อไป แต่เนื่องจากบุตรผู้นี้มีพฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียหลายอย่างรวมทั้ง เคยถูกเนรเทศออกจากญี่ปุ่นเมื่อปี 2001 หลังพยายามจะเดินทางเข้าญี่ปุ่นโดยใช้หนังสือเดินทางปลอม ทำให้อนาคตทางการเมืองของเขาต้องดับวูบลง ขณะที่ คิมจองชุล บุตรชายคนรอง ซึ่งเคยถูกคาดหมายว่าอาจได้ขึ้นครองอำนาจต่อจากบิดาก็มีลักษณะที่"ไม่มีความเป็นชาย" และไม่สนใจการเมืองและการทหาร จึงทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือไม่กล้ายกกองทัพซึ่งมีกำลังพลอย่างน้อย 1.21 ล้านคนและใหญ่เป็นลำดับที่ 5 ของโลกให้อยู่ภายใต้การดูแลของเขา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า หากคิมจองอิลเสียชีวิต อำนาจต่อรองของเกาหลีเหนือต่อประชาคมโลกในฐานะของการเป็นชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธร้ายแรงในครอบครอง ก็คงหมดสิ้นไปด้วย และคิมจองอุนยังไม่มีบารมีมากพอที่จะควบคุมกองทัพได้ดังเช่นบิดาของเขา
ทั้งนี้ คิมจองอุน ซึ่งสามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมันได้อย่างคล่องแคล่ว เคยศึกษาที่วิทยาลัยนานาชาติในกรุงเบิร์นของสวิตเซอร์แลนด์ โดยเขาเป็นบุตรชายของโกยองฮี ภรรยาคนที่3ของผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งมีรายงานว่าเธอได้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งทรวงอกตั้งแต่ปี2004
ปาร์กจีวอน แกนนำพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเอสบีเอสเมื่อวาน(2) โดยระบุว่า เมื่อวันจันทร์(1) ทางสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้หรือ "เอ็นไอเอส" ได้เปิดเผยรายงานต่อที่ประชุมลับของรัฐสภาเกาหลีใต้ว่า คิมจองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือได้ตัดสินใจเลือก คิมจองอุน บุตรชายคนที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรคนสุดท้องของเขา ให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจทางการเมืองแล้ว โดยได้ออกคำสั่งให้มีการส่งอีเมลไปให้เจ้าหน้าที่การทูตเกาหลีเหนือในต่างประเทศเพื่อแจ้งให้มีความจงรักภักดีต่อว่าที่ผู้นำคนใหม่ผู้อยู่ในวัย26ปี
ด้านหนังสือพิมพ์ดองอา อิลโบของเกาหลีใต้ รายงานว่า ผู้นำเกาหลีเหนือวัย 67ปี ซึ่งกำลังป่วยด้วยอาการเส้นโลหิตในสมองอุดตันได้แจ้งเรื่องนี้ต่อทางกองทัพ รัฐสภา และบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตแล้ว ภายหลังเสร็จสิ้นการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน เมื่อวันที่ 25พฤษภาคมที่ผ่านมาและได้สั่งให้มีการแต่งเพลงเพื่อสดุดีว่าที่ผู้นำคนใหม่รวมทั้งสอนให้ประชาชนหัดร้องเพลงดังกล่าวแล้ว ซึ่งในเนื้อเพลงที่แต่งขึ้นใหม่นี้มีการเรียกคิมจองอุนว่าเป็น"ท่านนายพลคิม" และ"นายน้อยคิม"
ชุนแฮซอง โฆษกกระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ออกมาระบุว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่อาจยืนยันได้ว่า คิมจองอุนได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สืบทอดอำนาจของคิมจองอิลอย่างเป็นทางการแล้ว
ชองซองชาง ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือจากสถาบันวิจัยเซจอง กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวานนี้ว่า "เป็นที่ทราบกันดีว่า คิมจองอุนเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการเป็นทายาททางการเมืองของคิมจองอิล เพราะเขามีความเข้มแข้ง และมีนิสัยที่ไร้ความปราณีเช่นเดียวกับผู้เป็นบิดา"
ขณะที่ เคนจิ ฟูจิโมโต อดีตหัวหน้าพ่อครัวชาวญี่ปุ่น ซึ่งเคยมีหน้าที่ทำซูชิให้กับผู้นำเกาหลีเหนือและครอบครัวมาก่อน ได้ออกมาเปิดเผยว่าแต่เดิมคิมจองอิลเคยตั้งใจจะให้ คิมจองนัมบุตรชายคนโตซึ่งปัจจุบันมีอายุ 37 ปี เป็นผู้สืบทอดอำนาจทางการเมืองในฐานะผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือคนต่อไป แต่เนื่องจากบุตรผู้นี้มีพฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียหลายอย่างรวมทั้ง เคยถูกเนรเทศออกจากญี่ปุ่นเมื่อปี 2001 หลังพยายามจะเดินทางเข้าญี่ปุ่นโดยใช้หนังสือเดินทางปลอม ทำให้อนาคตทางการเมืองของเขาต้องดับวูบลง ขณะที่ คิมจองชุล บุตรชายคนรอง ซึ่งเคยถูกคาดหมายว่าอาจได้ขึ้นครองอำนาจต่อจากบิดาก็มีลักษณะที่"ไม่มีความเป็นชาย" และไม่สนใจการเมืองและการทหาร จึงทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือไม่กล้ายกกองทัพซึ่งมีกำลังพลอย่างน้อย 1.21 ล้านคนและใหญ่เป็นลำดับที่ 5 ของโลกให้อยู่ภายใต้การดูแลของเขา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า หากคิมจองอิลเสียชีวิต อำนาจต่อรองของเกาหลีเหนือต่อประชาคมโลกในฐานะของการเป็นชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธร้ายแรงในครอบครอง ก็คงหมดสิ้นไปด้วย และคิมจองอุนยังไม่มีบารมีมากพอที่จะควบคุมกองทัพได้ดังเช่นบิดาของเขา
ทั้งนี้ คิมจองอุน ซึ่งสามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมันได้อย่างคล่องแคล่ว เคยศึกษาที่วิทยาลัยนานาชาติในกรุงเบิร์นของสวิตเซอร์แลนด์ โดยเขาเป็นบุตรชายของโกยองฮี ภรรยาคนที่3ของผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งมีรายงานว่าเธอได้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งทรวงอกตั้งแต่ปี2004