xs
xsm
sm
md
lg

ตามคาดดัชนีเชื่อมั่น SMEs เม.ย.ลดลงทั้งปัจจุบัน และคาดการณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน -สสว. เผยดัชนี TSSI SMEs ประจำเดือนเมษายน ลดลงทั้งปัจจุบันและคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าเป็น 40.4 และ 41.1 และเป็นการลดลงทุกภาคธุรกิจ สาเหตุสำคัญมาจากความรุนแรงทางการเมืองในช่วงเดือนเมษายน ความไม่แน่นอนเศรษฐกิจประเทศและเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น

นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index : TSSI) ประจำเดือนเมษายน เมื่อเปรียบเทียบกับมีนาคม 2552 พบว่า ดัชนีรวมภาคการค้าและบริการ ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 40.4 จากระดับ 41.6 ซึ่งเป็นการลดลงทุกภาคธุรกิจ โดยภาคการค้าส่ง ภาคการค้าปลีกและภาคบริการ ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 40.1 39.8 และ 41.1 จากระดับ 41.7 40.5 และ 42.7 เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อธุรกิจตนเอง ที่ค่าดัชนีปรับตัวลดลงอยู่ที่ 32.1 จาก 34.7 ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศ ค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 24.4 จาก 22.1

“สาเหตุผลมาจากสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในช่วงกลางเดือนเมษายน ประกอบกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจประเทศและเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลทั้งต่อต้นทุนการประกอบการและค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ค้าปลีกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบริการโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ บังกะโล นับเป็นกลุ่มที่ค่าดัชนีลดลงในระดับสูง” นายภักดิ์ กล่าว

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 41.1 จากระดับ 43.5 และเป็นการลดลงทุกประเภทกิจการ สำหรับดัชนี TSSI SMEs รวม 5 ภูมิภาค ในเดือนเมษายน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 37.2 จากระดับ 42.3 (ลดลง 5.1) รองลงมาคือภาคใต้ ลดลงอยู่ที่ 48.1 จากระดับ 51.2 (ลดลง 3.1) และ กรุงเทพฯ ปริมณฑล ลดลงอยู่ที่ 37.6 จากระดับ 39.0 (ลดลง 1.4) ขณะที่ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30.6 จากระดับ 28.4 (เพิ่มขึ้น 2.2) และภาคเหนือ เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 43.2 จากระดับ 41.0 (เพิ่มขึ้น 2.2)

“ค่าดัชนีความเชื่อมั่นทั้งในปัจจุบันและคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่เชื่อว่าปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อกิจการในระดับสูงที่สุด ได้แก่ ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจประเทศ และอำนาจซื้อของประชาชน “ นายภักดิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น