ข่าวดีสำหรับคนรักกระเป๋าที่ติดหลุยส์ วิตตองหรือปราดา แต่มีงบประมาณจำกัดจากวิกฤตการเงิน เพราะห้างแห่งหนึ่งในมะนิลาได้เปิดให้บริการ ‘สมบัติผลัดกันชม’ รับซื้อขายกระเป๋าดีไซเนอร์ของแท้ในราคาสุดแสนโดนใจ
กลางเมืองหลวงของมะนิลา ร้านสินค้าหรูยังคงขายดิบขายดีไม่มีตก เพราะมีลูกค้ากลุ่มซูเปอร์ริชที่ไม่สะดุ้งสะเทือนกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เช่นเดียวกับยอดขายของแบ็กกาฮอลิกที่ตั้งอยู่ในโรงแรมนิวเวิลด์ ในย่านธุรกิจการเงินของมะนิลา ที่มีสินค้าหลากหลายให้เลือกตั้งแต่กระเป๋าหลุยส์ วิตตอง,บาเลนเซียกา ไปจนถึงชาเนล และกุชชี่ รุ่นต่างๆ
“ผู้หญิงทั่วไป โดยเฉพาะในเอเชียบ้ากระเป๋าดีไซเนอร์ไฮเอนด์ ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แบ็กกาฮอลิกจึงเป็นทางออกอย่างดี ฉันไม่ต้องซื้อกระเป๋าใหม่อีกแล้ว แต่ใช้ที่มีอยู่ที่นี่” กิกี้ เอซ็อก แบมบรอฟฟี เจ้าของร้านแบ็กกาฮอลิก บอก
แม้มีเว็บไซต์มากมายเสนอกระเป๋าดีไซเนอร์และแอกเซสเซอรีมือสอง แต่สำหรับแบ็กกาฮอลิกพิเศษตรงที่อนุญาตให้ลูกค้าลองใช้ก่อนซื้อ และต่างจากร้านของดีไซเนอร์ทั่วไปที่มักตั้งราคาตายตัว เพราะที่นี่ต่อรองราคาได้
กีกี้ขายกระเป๋าถือในราคาลดจากราคาของใหม่แกะกล่อง 30-70% ขึ้นอยู่กับคุณภาพและความนิยม
ตัวอย่างเช่น แอร์เมส เบอร์กิ้นที่ขายกันขณะนี้ที่สนนราคาครึ่งล้านเปโซ (10,600 ดอลลาร์) สามารถซื้อที่แบ็กกาฮอลิกได้เพียง 60,000 เปโซ (1,270 ดอลลาร์) เท่านั้น หรือหลุยส์ วิตตอง สปีดี้ สินค้าขายดีของร้านนี้ที่ขายในราคา 15,000 เปโซ (320 ดอลลาร์) จากราคาของใหม่ 40,000 เปโซ (850 ดอลลาร์)
“เราขายในราคาที่ใครๆ ก็อยากซื้อ เพราะแทนที่จะซื้อกระเป๋าได้แค่ใบเดียว เดี๋ยวนี้ฉันซื้อได้ถึงสามใบ และแทนที่จะต้องตัดใจเลือกเพียงสีเดียว ฉันก็ซื้อได้หลายสีมากขึ้น” แดเนียล ปาร์กเกอร์ นักธุรกิจหญิงที่พักนี้หันมาซื้อกระเป๋ามือสองมากกว่ากระเป๋าใหม่บอก
ด้วยข้อมูลจากหนังสือและประสบการณ์ของตัวเอง ทำให้กีกี้พัฒนาทักษะในการคัดของแท้ออกจากของเทียม เธอบอกว่ามีคนที่นำกระเป๋ามาขายแค่ 1 ใน 9 ที่เอาของก๊อปมาย้อมแมว
ลูกค้าขาประจำส่วนใหญ่ของแบ็กกาฮอลิกเป็นคนทำงานหรือไม่ก็มีสามีรวย บางคนอยากโละกระเป๋าที่ตกรุ่นแล้วและซื้อรุ่นล่าสุด ขณะที่อีกหลายคนไม่แคร์ว่าอาจเชยนิดหน่อยและซื้อรุ่นเก่ากลับไปถือ
กีกี้บอกว่าแปลกใจกับจำนวนผู้หญิงตากาล็อกที่ยินดีซื้อสินค้ามือสอง อย่างไรก็ตาม บูติกดีไซเนอร์ในมะนิลาไม่ได้มองว่าเธอเป็นคู่แข่ง แถมบางครั้งยังส่งลูกค้ามาให้อีกต่างหาก
“วิตตองส่งลูกค้ามาหาเราบ่อยๆ เพราะลูกค้าเหล่านั้นจะเอากระเป๋าใช้แล้วมาขายเราเพื่อกลับไปซื้อใบใหม่จากวิตตอง”
กีกี้ยังพบว่า อาการเสพติดกระเป๋าเริ่มต้นกันตั้งแต่แรกรุ่นเลยทีเดียว เพราะหนึ่งในลูกค้าของแบ็กกาฮอลิกเป็นเด็กสาวอายุแค่ 16 ปี ชื่อว่าแชม เควิต ที่มาพักเดียวหิ้วกระเป๋ากลับไปสี่ใบรวด
“คุณภาพโอเคเลย แถมยังดูใหม่มากเมื่อเทียบกับราคาแค่ 10,000 เปเซ เป็นทางเลือกที่คุ้มจริงๆ” แชมการันตีให้สินค้าของแบ็กกาฮอลิก
กลางเมืองหลวงของมะนิลา ร้านสินค้าหรูยังคงขายดิบขายดีไม่มีตก เพราะมีลูกค้ากลุ่มซูเปอร์ริชที่ไม่สะดุ้งสะเทือนกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เช่นเดียวกับยอดขายของแบ็กกาฮอลิกที่ตั้งอยู่ในโรงแรมนิวเวิลด์ ในย่านธุรกิจการเงินของมะนิลา ที่มีสินค้าหลากหลายให้เลือกตั้งแต่กระเป๋าหลุยส์ วิตตอง,บาเลนเซียกา ไปจนถึงชาเนล และกุชชี่ รุ่นต่างๆ
“ผู้หญิงทั่วไป โดยเฉพาะในเอเชียบ้ากระเป๋าดีไซเนอร์ไฮเอนด์ ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แบ็กกาฮอลิกจึงเป็นทางออกอย่างดี ฉันไม่ต้องซื้อกระเป๋าใหม่อีกแล้ว แต่ใช้ที่มีอยู่ที่นี่” กิกี้ เอซ็อก แบมบรอฟฟี เจ้าของร้านแบ็กกาฮอลิก บอก
แม้มีเว็บไซต์มากมายเสนอกระเป๋าดีไซเนอร์และแอกเซสเซอรีมือสอง แต่สำหรับแบ็กกาฮอลิกพิเศษตรงที่อนุญาตให้ลูกค้าลองใช้ก่อนซื้อ และต่างจากร้านของดีไซเนอร์ทั่วไปที่มักตั้งราคาตายตัว เพราะที่นี่ต่อรองราคาได้
กีกี้ขายกระเป๋าถือในราคาลดจากราคาของใหม่แกะกล่อง 30-70% ขึ้นอยู่กับคุณภาพและความนิยม
ตัวอย่างเช่น แอร์เมส เบอร์กิ้นที่ขายกันขณะนี้ที่สนนราคาครึ่งล้านเปโซ (10,600 ดอลลาร์) สามารถซื้อที่แบ็กกาฮอลิกได้เพียง 60,000 เปโซ (1,270 ดอลลาร์) เท่านั้น หรือหลุยส์ วิตตอง สปีดี้ สินค้าขายดีของร้านนี้ที่ขายในราคา 15,000 เปโซ (320 ดอลลาร์) จากราคาของใหม่ 40,000 เปโซ (850 ดอลลาร์)
“เราขายในราคาที่ใครๆ ก็อยากซื้อ เพราะแทนที่จะซื้อกระเป๋าได้แค่ใบเดียว เดี๋ยวนี้ฉันซื้อได้ถึงสามใบ และแทนที่จะต้องตัดใจเลือกเพียงสีเดียว ฉันก็ซื้อได้หลายสีมากขึ้น” แดเนียล ปาร์กเกอร์ นักธุรกิจหญิงที่พักนี้หันมาซื้อกระเป๋ามือสองมากกว่ากระเป๋าใหม่บอก
ด้วยข้อมูลจากหนังสือและประสบการณ์ของตัวเอง ทำให้กีกี้พัฒนาทักษะในการคัดของแท้ออกจากของเทียม เธอบอกว่ามีคนที่นำกระเป๋ามาขายแค่ 1 ใน 9 ที่เอาของก๊อปมาย้อมแมว
ลูกค้าขาประจำส่วนใหญ่ของแบ็กกาฮอลิกเป็นคนทำงานหรือไม่ก็มีสามีรวย บางคนอยากโละกระเป๋าที่ตกรุ่นแล้วและซื้อรุ่นล่าสุด ขณะที่อีกหลายคนไม่แคร์ว่าอาจเชยนิดหน่อยและซื้อรุ่นเก่ากลับไปถือ
กีกี้บอกว่าแปลกใจกับจำนวนผู้หญิงตากาล็อกที่ยินดีซื้อสินค้ามือสอง อย่างไรก็ตาม บูติกดีไซเนอร์ในมะนิลาไม่ได้มองว่าเธอเป็นคู่แข่ง แถมบางครั้งยังส่งลูกค้ามาให้อีกต่างหาก
“วิตตองส่งลูกค้ามาหาเราบ่อยๆ เพราะลูกค้าเหล่านั้นจะเอากระเป๋าใช้แล้วมาขายเราเพื่อกลับไปซื้อใบใหม่จากวิตตอง”
กีกี้ยังพบว่า อาการเสพติดกระเป๋าเริ่มต้นกันตั้งแต่แรกรุ่นเลยทีเดียว เพราะหนึ่งในลูกค้าของแบ็กกาฮอลิกเป็นเด็กสาวอายุแค่ 16 ปี ชื่อว่าแชม เควิต ที่มาพักเดียวหิ้วกระเป๋ากลับไปสี่ใบรวด
“คุณภาพโอเคเลย แถมยังดูใหม่มากเมื่อเทียบกับราคาแค่ 10,000 เปเซ เป็นทางเลือกที่คุ้มจริงๆ” แชมการันตีให้สินค้าของแบ็กกาฮอลิก