เอเอฟพี – รัฐบาลเยอรมนีออกหน้ารับประกันว่า พนักงาน โอเปิล เรือนหมื่นจะยังมีงานทำ ถึงแม้เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) จะยื่นขอล้มละลายตามคาดหมายในวันนี้ (1) กระนั้น การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ในการนำเงินภาษีของประชาชนมาค้ำจุนโอเปิล ก็อาจกลับมาหลอกหลอนผู้นำหญิงเมืองเบียร์ในภายหลัง และสุดท้ายโอเปิลอาจไปไม่รอดอยู่ดี ทั้งนี้เป็นความเห็นของนักวิเคราะห์หลายๆ ราย
“ทั้งหมดที่ตกลงกันนี้ดูจะวางอยู่บนพื้นฐานที่เปราะบางอย่างยิ่ง เอาเป็นว่ามีโอกาสถึงราว 60-70% ทีเดียว ที่มันจะไปไม่รอด” เจอร์เกน พีเพอร์ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมรถยนต์แห่ง เมตซ์เลอร์ แบงก์ กล่าวให้ความเห็นถึงอนาคตของกิจการของจีเอ็มในยุโรป ที่มีโอเปิลเป็นกิจการซึ่งทรงความสำคัญที่สุด
ในความพยายามครั้งใหญ่ที่กินเวลานานนับเดือนและมาสิ้นสุดลงเมื่อนาฬิกาย่างเข้าสู่วันเสาร์(30) เบอร์ลินก็ได้ตกลงสนับสนุนแผนเทกโอเวอร์โอเปิล โดยกลุ่มกิจการที่มี “แม็กนา” ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากแคนาดาเป็นแกนนำ
ภายใต้ข้อตกลงนี้ จีเอ็มจะยังเหลือหุ้นในโอเปิล 35%, พนักงานถือ 10%, แม็กนา 20% และสเบอร์แบงก์ ของรัฐบาลรัสเซียถือ 35%
แหล่งข่าวในรัฐบาลเผยว่า เยอรมนีจะเข้าไปเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้มูลค่า 3,000 ล้านยูโร (4,200 ล้านดอลลาร์) และยังให้เงินกู้ฉุกเฉินเองอีก 1,500 ล้านยูโร แก่โอเปิลที่อยู่ในมือเจ้าของใหม่
ขณะเดียวกัน แม็กนาที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็นที่รู้จักนักนอกวงการรถ ตกลงอัดฉีดเงินให้ 300 ล้านยูโรเพื่อให้โอเปิลที่ขาดแคลนเงินสด เดินเครื่องได้ต่อไปในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ และยังรับปากว่าจะรักษาโรงงานโอเปิลในเยอรมันไว้ รวมถึงปลดพนักงานเพียง 2,500 คน
แต่สำหรับยุโรปโดยรวม ที่จีเอ็มว่าจ้างพนักงานราว 50,000 คนนั้น แม็กนาเผยว่ามีแผนปลดพนักงาน 1 ใน 5
สัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีถูกกดดันจากอังกฤษและเบลเยียม ไม่ให้พยายามรักษาตำแหน่งงานในเมืองเบียร์ โดยที่พนักงานในประเทศอื่นต้องถูกสังเวยแทน และเมื่อวันเสาร์ สหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของเมืองผู้ดีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของวอกซ์ฮอลล์ บริษัทในเครือจีเอ็มซึ่งตั้งอยู่ในอังกฤษ
นอกจากนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าแม็กนาตั้งใจจะเริ่มการผลิตรถโอเปิล ในโรงงานในรัสเซียของโอเลก เดริปาสกา ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานผลิตโลหะมีค่าและบริษัทรถยนต์แก๊ซ (GAZ)หรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ย่อมหมายความว่าการดำเนินงานด้านการผลิตบางส่วน จะถูกโยกย้ายออกจากสหภาพยุโรป
การมีส่วนร่วมของรัสเซียยังทำให้หลายฝ่ายเริ่มจับจ้องด้วยความไม่สบายใจ เนื่องจากเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แน่นหนาอยู่แล้ว โดยเฉพาะในการผลิตก๊าซ ระหว่างเบอร์ลินกับมอสโก โดยมีผู้วิจารณ์ว่าเยอรมันยอมอ่อนข้อให้เครมลินมากเกินไป
สำหรับนักวิเคราะห์มองว่า การเลือกตั้งของเยอรมนีที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนเป็นเหตุผลสำคัญให้แมร์เคิลยอมเปิดทางให้รัสเซียเข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้
ทั้งนี้ แม็กนาและผู้สนับสนุนจากแดนหมีขาวยังมีงานหนักในการทำให้ข้อตกลงนี้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากโอเปิลนั้นเผชิญความท้าทายใหญ่หลวงตั้งแต่ก่อนที่เศรษฐกิจโลกจะลื่นไถลถอยหลังเมื่อปีที่แล้วเสียอีก
แฟรงก์ ชวอป นักวิเคราะห์ของนอร์ดแอลบี แบงก์ของเยอรมนี คาดการณ์ว่าแม้นักลงทุนแคนาดา-รัสเซียจะพยายามทุกอย่าง แต่ก็จะประสบความล้มเหลว และโอเปิลจะล้มละลายภายใน 2-3 ปี
ที่สำคัญ แม็กนายังไม่มีประสบการณ์ในการผลิตรถยนต์ ไม่เหมือนกับเฟียตที่อยากได้โอเปิลเช่นเดียวกัน แต่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป
แมร์เคิลยอมรับเมื่อวันเสาร์ว่า ข้อตกลงระหว่างโอเปิลและแม็กนายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และหนทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์บอกว่าแม้ในที่สุดโอเปิลต้องล่มสลายไปไม่ถึงฝัน แต่ก็ถือว่าภารกิจของแมร์เคิลและพันธมิตรในรัฐบาลลุล่วง เนื่องจากจะไม่กลายมาเป็นประเด็นปัญหาขัดขวางชัยชนะในการเลือกตั้งเดือนกันยายนนี้อีกแล้ว
“ทั้งหมดที่ตกลงกันนี้ดูจะวางอยู่บนพื้นฐานที่เปราะบางอย่างยิ่ง เอาเป็นว่ามีโอกาสถึงราว 60-70% ทีเดียว ที่มันจะไปไม่รอด” เจอร์เกน พีเพอร์ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมรถยนต์แห่ง เมตซ์เลอร์ แบงก์ กล่าวให้ความเห็นถึงอนาคตของกิจการของจีเอ็มในยุโรป ที่มีโอเปิลเป็นกิจการซึ่งทรงความสำคัญที่สุด
ในความพยายามครั้งใหญ่ที่กินเวลานานนับเดือนและมาสิ้นสุดลงเมื่อนาฬิกาย่างเข้าสู่วันเสาร์(30) เบอร์ลินก็ได้ตกลงสนับสนุนแผนเทกโอเวอร์โอเปิล โดยกลุ่มกิจการที่มี “แม็กนา” ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากแคนาดาเป็นแกนนำ
ภายใต้ข้อตกลงนี้ จีเอ็มจะยังเหลือหุ้นในโอเปิล 35%, พนักงานถือ 10%, แม็กนา 20% และสเบอร์แบงก์ ของรัฐบาลรัสเซียถือ 35%
แหล่งข่าวในรัฐบาลเผยว่า เยอรมนีจะเข้าไปเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้มูลค่า 3,000 ล้านยูโร (4,200 ล้านดอลลาร์) และยังให้เงินกู้ฉุกเฉินเองอีก 1,500 ล้านยูโร แก่โอเปิลที่อยู่ในมือเจ้าของใหม่
ขณะเดียวกัน แม็กนาที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็นที่รู้จักนักนอกวงการรถ ตกลงอัดฉีดเงินให้ 300 ล้านยูโรเพื่อให้โอเปิลที่ขาดแคลนเงินสด เดินเครื่องได้ต่อไปในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ และยังรับปากว่าจะรักษาโรงงานโอเปิลในเยอรมันไว้ รวมถึงปลดพนักงานเพียง 2,500 คน
แต่สำหรับยุโรปโดยรวม ที่จีเอ็มว่าจ้างพนักงานราว 50,000 คนนั้น แม็กนาเผยว่ามีแผนปลดพนักงาน 1 ใน 5
สัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีถูกกดดันจากอังกฤษและเบลเยียม ไม่ให้พยายามรักษาตำแหน่งงานในเมืองเบียร์ โดยที่พนักงานในประเทศอื่นต้องถูกสังเวยแทน และเมื่อวันเสาร์ สหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของเมืองผู้ดีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของวอกซ์ฮอลล์ บริษัทในเครือจีเอ็มซึ่งตั้งอยู่ในอังกฤษ
นอกจากนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าแม็กนาตั้งใจจะเริ่มการผลิตรถโอเปิล ในโรงงานในรัสเซียของโอเลก เดริปาสกา ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานผลิตโลหะมีค่าและบริษัทรถยนต์แก๊ซ (GAZ)หรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ย่อมหมายความว่าการดำเนินงานด้านการผลิตบางส่วน จะถูกโยกย้ายออกจากสหภาพยุโรป
การมีส่วนร่วมของรัสเซียยังทำให้หลายฝ่ายเริ่มจับจ้องด้วยความไม่สบายใจ เนื่องจากเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แน่นหนาอยู่แล้ว โดยเฉพาะในการผลิตก๊าซ ระหว่างเบอร์ลินกับมอสโก โดยมีผู้วิจารณ์ว่าเยอรมันยอมอ่อนข้อให้เครมลินมากเกินไป
สำหรับนักวิเคราะห์มองว่า การเลือกตั้งของเยอรมนีที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนเป็นเหตุผลสำคัญให้แมร์เคิลยอมเปิดทางให้รัสเซียเข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้
ทั้งนี้ แม็กนาและผู้สนับสนุนจากแดนหมีขาวยังมีงานหนักในการทำให้ข้อตกลงนี้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากโอเปิลนั้นเผชิญความท้าทายใหญ่หลวงตั้งแต่ก่อนที่เศรษฐกิจโลกจะลื่นไถลถอยหลังเมื่อปีที่แล้วเสียอีก
แฟรงก์ ชวอป นักวิเคราะห์ของนอร์ดแอลบี แบงก์ของเยอรมนี คาดการณ์ว่าแม้นักลงทุนแคนาดา-รัสเซียจะพยายามทุกอย่าง แต่ก็จะประสบความล้มเหลว และโอเปิลจะล้มละลายภายใน 2-3 ปี
ที่สำคัญ แม็กนายังไม่มีประสบการณ์ในการผลิตรถยนต์ ไม่เหมือนกับเฟียตที่อยากได้โอเปิลเช่นเดียวกัน แต่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป
แมร์เคิลยอมรับเมื่อวันเสาร์ว่า ข้อตกลงระหว่างโอเปิลและแม็กนายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และหนทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์บอกว่าแม้ในที่สุดโอเปิลต้องล่มสลายไปไม่ถึงฝัน แต่ก็ถือว่าภารกิจของแมร์เคิลและพันธมิตรในรัฐบาลลุล่วง เนื่องจากจะไม่กลายมาเป็นประเด็นปัญหาขัดขวางชัยชนะในการเลือกตั้งเดือนกันยายนนี้อีกแล้ว
