xs
xsm
sm
md
lg

ใบโพธิ์เชื่อสินเชื่อSMEไม่หลุดเป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยพาณิชย์รับสินเชื่อเอสเอ็มอี 4 เดือนแรกของปีทรงตัว มียอดชำระหนี้-ปล่อยกู้ใหม่ใกล้เคียงกัน แต่คาดช่วง 4 เดือนข้างหน้าเริ่มขยายตัวได้หลังภาคธุรกิจมีแนวโน้มลงทุนเพิ่ม และมั่นใจทั้งปีจะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าที่ 3 หมื่นล้านหรือโต 5%

นายวิวัฒน์ กิตติพงศ์โกศล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ธนาคารมียอดคงค้างของสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและย่อม(เอสอีเอ็ม)ในระดับที่ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงปลายปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากมีลูกค้าบางส่วนชำระหนี้คืนให้กับธนาคารในระดับที่ใกล้เคียงกับปริมาณสินเชื่อใหม่ที่ธนาคารปล่อยได้ โดยในปัจจุบันฐานสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านบาท

"ในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าธนาคารจะยังปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีได้บ้าง แต่เมื่อเศรษฐกิจหดตัว ก็จะส่งผลกระทบต่อการขยายธุรกิจ ทำให้มีการชำระคืนสินค้ามาส่วนหนึ่งเช่นกัน อาทิ ลูกค้าที่เป็นโรงสีข้าวก็มีการลดการใช้วงเงินลงและมีการชำระหนี้คืน จึงทำให้ฐานสินเชื่อเอสเอ็มอียังทรงตัว ไม่ได้ขยับเพิ่มหรือลดลงมากนัก"

สำหรับแนวโน้มในช่วงอีก 4 เดือนข้างหน้านั้น คาดว่าสินเชื่อเอสเอ็มอีจะสามารถกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ หลังจากที่ธุรกิจต่างๆเริ่มมีการขยับขยายการลงทุนกันบ้างแล้ว จะเห็นได้จากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆที่เคยปลดคนงาน เริ่มจะมีการกลับมาจ้างงานเหมือนเดิม เช่นโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ โรงงานผลิตรถยนต์ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการลดการผลิตยอดการสต็อกสินค้ามีจำนวนลดลง ทำให้ต้องผลิตเพิ่มเมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามา ส่งผลให้สัญญาณการจ้างงานดีขึ้น จากสัญญาณดังกล่าวจึงน่าจะทำให้สินเเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารขยายตัวขึ้นได้

"ธนาคารเชื่อว่าต่อจากนี้ไปยอดการเติบโตของสินเชื่อจะไม่ตกลงไปกว่านี้แล้ว และคิดว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกที่สินเชื่อเอสเอ็มอีทรงตัว แต่ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจแล้ว เนื่องจากยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารไม่ได้ติดลบเหมือนธนาคารอื่น"

อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ยืนยันว่ายังคงเป้าหมายอัตราการเติบโตสินเชื่อเอสเอ็มอีปีนี้ไว้ที่ 5% หรือคิดเป็นมูลค่าสินเชื่อใหม่ที่ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ เนื่องจากธนาคารยังมีการสนับสนุนสินเชื่อให้ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า โดยเฉพาะลูกค้าเก่าที่ธนาคารจะเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ ในสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้น หากลูกค้าดังกล่าวมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มธนาคารก็จะสนับสนุน แต่หากมีความลำบากในการชำระคืนเงินต้นธนาคารก็จะมีการพิจารณาปรับโครงสร้างการชำระหนี้ให้เป็นรายๆไป โดยเท่าที่ดูลูกค้าที่ขอสินเชื่อในปัจจุบันจะเป็นผู้ประกอบการที่มีธุรกิจอยู่แล้วแต่ขาดสภาพคล่อง

ส่วนกรณีที่สมาคมธนาคารไทยมีการหารือร่วมกันระหว่างธนาคารพาณิชย์เพื่องดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมลูกค้าที่มีการรีไฟแนนซ์ไปใช้บริการสินเชื่อกับธนาคารอื่นนั้น ในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ก็ให้ความร่วมมือที่จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกค้าโดยเฉพาะลูกค้าเอสเอ็มอี โดยมาตรการดังกล่าวมีระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน-ธันวาคม 2552 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงการทดลอง แต่เชื่อว่าลูกค้าจะมีความคล่องตัวมากขึ้นจากมาตรการดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น