ASTVผู้จัดการรายวัน – ตระกูลเตชะไกรศรีร่วมทุนอิสราเอล “ไอบีซี” ทุ่ม 14,000 ล้านบาทผุดโครงการซูเปอร์ลักชัวรี “มหานคร” ติด BTS สถานีช่องนนทรี ถนนสาทร ประกอบด้วยโรงแรม ดิ เอดิชั่น 150 ห้อง, คอนโดฯ 200 ยูนิตราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท พร้อมดึงเชนดัง “ ริทซ์-คาร์ลตัน” บริหาร และร้านค้าหรูอีก 8,000 ตร.ม. ฤกษ์เริ่มตอกเข็มไตรมาส 3 คาดใช้เวลาพัฒนา 4 ปี เชื่อศักยภาพเศรษฐกิจยังดี
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า เพซ ดีเวลลอปเมนท์เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มเตชะไกรศรี และบริษัทไอบีซี จำกัด จากประเทศอิสราเอล ด้วยทุนจดทะเบียน 4,500 ล้านบาท ในสัดส่วน 51 : 49 เพื่อพัฒนาโครงการ “มหานคร” ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ถนนสาทร
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเมื่อแล้วเสร็จมูลค่าสูงถึง 18,000 ล้านบาท ส่วนมูลค่าการลงทุน 14,000 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินลงทุนบางส่วน จะขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลายแห่ง หรือ รูปแบบปล่อยกู้ร่วม ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงิน โดยจะเริ่มก่อสร้างประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้ และจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ได้เช่าที่ระยะยาว 30 ปีกับมิสซังคาทอลิก และมีสัญญาต่ออายุได้อีก 3 ครั้งๆ 30 ปี รวมแล้วกว่า 100 ปี
สำหรับโครงการมหานครนี้ จะพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ บนเนื้อที่ 9 ไร่ ภายในประกอบด้วย โรงแรม ดิ เอดิชั่น บางกอก โรงแรมบูติกหรูขนาด 150 ห้อง บริหารโดย แมริออท กรุ๊ป, คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ราคา 250,000 บาท/ตร.ม. หรือเริ่มต้นที่ 30 ล้านบาท/ยูนิต นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับร้านค้าอีก 8,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) โดยจะมีร้านอาหาร, ร้านหนังสือแบรนด์ดังระดับโลกมาเปิด
ด้านงานบริหารโครงการ ทางบริษัทได้ตั้งบริษัทลูกขึ้นมา 3 แห่ง 1.เพซ โปรเจกต์ 1 บริหารงานโรงแรม, 2. เพซ โปรเจกต์ 2 บริหาร คอนโดมิเนียม และเพซ โปรเจกต์3 บริหารพื้นที่ร้านค้า
อนึ่ง บริษัทอินดัสเทรียล บิลดิ้งส์ คอร์ปอเรชั่น (ไอบีซี) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิสราเอล ในเครือ ฟิช แมน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนอิสระทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า สื่อและโทรคมนาคม ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิสราเอล
นายสรพจน์ กล่าวต่อว่า จุดขายหลักของโครงการมหานครคือ ความเป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพ โดยจะพัฒนาให้เป็นตึงสูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร โดยจะสร้างสูงกว่าตึกใบหยกทาวเวอร์ซึ่งมีความสูงที่ 304 เมตรนอกจากนี้ยังเป็นโครงการเดียวที่ชูจุดขายสินค้ากลุ่มลักชัวรี่ซึ่งในตลาดยังไม่มีสินค้ากลุ่มเดียวกันที่เป็นคู่แข่ง อีกทั้งโครงการอยู่ในโลเคชั่นชั้นดี ติดกับรถไฟฟ้าช่องนนทรี
“เราเชื่อว่าคอนโดมิเนียมจะได้รับความสนใจเพราะขณะนี้ดอกเบี้ยต่ำและตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวนในการลงทุน ดังนั้นอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับผลตอบแทนสูงกว่านอกจากนี้โครงการมหานครเป็นโครงการเดียวที่ทำตลาดลักชัวรีในเวลานี้”
ด้านนางดาลิท บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไอบีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุที่ทางกลุ่มนักลงทุนจากอิสราเอลเลือกลงทุนในไทย เพราะยังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจไทย จุดแข็งทางด้านงานบริการ และไทยยังเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยู่ อย่างไรก็ตาม โครงการมหานครต้องใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 ปีและเป็นโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นในระยะนี้จึงไม่มีนโยบายจะลงทุนในไทยเพิ่มเติม
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า เพซ ดีเวลลอปเมนท์เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มเตชะไกรศรี และบริษัทไอบีซี จำกัด จากประเทศอิสราเอล ด้วยทุนจดทะเบียน 4,500 ล้านบาท ในสัดส่วน 51 : 49 เพื่อพัฒนาโครงการ “มหานคร” ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ถนนสาทร
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเมื่อแล้วเสร็จมูลค่าสูงถึง 18,000 ล้านบาท ส่วนมูลค่าการลงทุน 14,000 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินลงทุนบางส่วน จะขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลายแห่ง หรือ รูปแบบปล่อยกู้ร่วม ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงิน โดยจะเริ่มก่อสร้างประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้ และจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ได้เช่าที่ระยะยาว 30 ปีกับมิสซังคาทอลิก และมีสัญญาต่ออายุได้อีก 3 ครั้งๆ 30 ปี รวมแล้วกว่า 100 ปี
สำหรับโครงการมหานครนี้ จะพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ บนเนื้อที่ 9 ไร่ ภายในประกอบด้วย โรงแรม ดิ เอดิชั่น บางกอก โรงแรมบูติกหรูขนาด 150 ห้อง บริหารโดย แมริออท กรุ๊ป, คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ราคา 250,000 บาท/ตร.ม. หรือเริ่มต้นที่ 30 ล้านบาท/ยูนิต นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับร้านค้าอีก 8,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) โดยจะมีร้านอาหาร, ร้านหนังสือแบรนด์ดังระดับโลกมาเปิด
ด้านงานบริหารโครงการ ทางบริษัทได้ตั้งบริษัทลูกขึ้นมา 3 แห่ง 1.เพซ โปรเจกต์ 1 บริหารงานโรงแรม, 2. เพซ โปรเจกต์ 2 บริหาร คอนโดมิเนียม และเพซ โปรเจกต์3 บริหารพื้นที่ร้านค้า
อนึ่ง บริษัทอินดัสเทรียล บิลดิ้งส์ คอร์ปอเรชั่น (ไอบีซี) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิสราเอล ในเครือ ฟิช แมน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนอิสระทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า สื่อและโทรคมนาคม ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิสราเอล
นายสรพจน์ กล่าวต่อว่า จุดขายหลักของโครงการมหานครคือ ความเป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพ โดยจะพัฒนาให้เป็นตึงสูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร โดยจะสร้างสูงกว่าตึกใบหยกทาวเวอร์ซึ่งมีความสูงที่ 304 เมตรนอกจากนี้ยังเป็นโครงการเดียวที่ชูจุดขายสินค้ากลุ่มลักชัวรี่ซึ่งในตลาดยังไม่มีสินค้ากลุ่มเดียวกันที่เป็นคู่แข่ง อีกทั้งโครงการอยู่ในโลเคชั่นชั้นดี ติดกับรถไฟฟ้าช่องนนทรี
“เราเชื่อว่าคอนโดมิเนียมจะได้รับความสนใจเพราะขณะนี้ดอกเบี้ยต่ำและตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวนในการลงทุน ดังนั้นอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับผลตอบแทนสูงกว่านอกจากนี้โครงการมหานครเป็นโครงการเดียวที่ทำตลาดลักชัวรีในเวลานี้”
ด้านนางดาลิท บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไอบีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุที่ทางกลุ่มนักลงทุนจากอิสราเอลเลือกลงทุนในไทย เพราะยังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจไทย จุดแข็งทางด้านงานบริการ และไทยยังเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยู่ อย่างไรก็ตาม โครงการมหานครต้องใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 ปีและเป็นโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นในระยะนี้จึงไม่มีนโยบายจะลงทุนในไทยเพิ่มเติม