ASTVผู้จัดการารายวัน – เพซดีเวลลอปเมนท์ ส่วนกระแสเศราฐกิจเปิดบริษัทลูก “วายอแลพี” ผุดคอนโดมิเนียมหรู ศาลาแดงเรสซิเดนเซส ซูปเปอร์ลักชัวรี่ ราคาเริ่มต้น10-100ล้านบาท จับกลุ่มเศรษฐี นักธุรกิจตระกลูดัง ย่านศีลม ศาลาแดง สาทร มูลค่าขาย 2,500 ล้านบาท ฟุ้งยอดขายกว่า30% สะท้อนความต้องการตลาดระดับยังต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี60-70% แจงธนาคารนครหลวงไทยสนับสนุนสินเชื่อกว่า700ล้านบาท
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บริษัทบริหารและให้บริการโครงการอสังหาริมทรัพย์ธุรกิจในตระกูลเตชะไกรศรี เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งบริษัท วายแอลพี จำกัด โดยตระกูลเตชะไกรศรีเป็นผู้ถือหุ้นหลัง70% ส่วนที่เหลืออีก30%เป็นการถือหุ้นของพันธมิตรของบริษัท และกลุ่มเพื่อน โดยมีทุนจดทะเบียน50ล้านบาท สำหรับบริษัท วายแอลพี จัดตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาโครงการ ศาลาแดง เรสซิเดนเซส โครงการคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี่ ซึ่งในช่วง2ปีก่อนหน้านี้ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ ได้เปิดตัวบริษัทชินคาร่า จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไฟคัสเลนในซอยสุขุมวิท44/1 ซึ่งปิดการขายแล้ว
ทั้งนี้ สาเหตุที่วางโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ โดยให้บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ เป็นบริษัทแม่และเปิดบริษัทลูกพัฒนาโครงการ เพื่อให้โครงสร้างการดำเนินงานที่เหมาะแก่การร่วมทุนในการพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งนโยบายของบริษัท จะไม่ดำเนินการพัฒนาโครงการแต่เพียงผู้เดียวเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง
สำหรับการจัดตั้งบริษัท วายแอลพี ขึ้นมาพัฒนาโครงการศาลาแดง เรสซิเดนเซส ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มซูปเปอร์ลักชัวรี่ เป็นกลุ่มมที่มีกำลังซื้อสูง โดยก่อนหน้าได้ว่าจ้างบริษัท DTZ จำกัด สำรวจความต้องการและซับพลายคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ ซึ่งพบว่าซับพลายในตลาดมีซับพลายอยู่ 5,700 ยูนิต แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มไฮเอนด์ 36% กลุ่มลักชัวรี่ 53% และกลุ่มซูเปอร์ลักชัวรี่ 11% ซึ่งกลุ่มสุดท้ายถือว่ามีซับพลายอยู่น้อยในขณะที่ความต้องการในตลาดยังมีอยู่ต่อเนื่อง
สำหรับโครงการศาลาแดงเรสซิเดนเซส มีพื้นที่การพัฒนา584 ตารางวา ซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการอาคารสูง 25ชั้น จำนวน132 ยูนิต มูลค่ารวม2,500ล้านบาท ขนาดพื้นใช้สอยเริ่มต้น 60-193ตารางเมตร ราคาขายต่อตารางเมตรเริ่มต้นที่ 160,000 -300,000บาท มูลค่าขายต่อยูนิตเริ่มต้นที่ 10 -100ล้านบาท สำหรับโครงการนี้จะมีห้องเพ้นเฮาส์ 3ห้อง โดยห้องที่มีราคาสูงสุดคือห้องเพ้นเฮาส์ในชั้นที่24 มีพื้นที่ใช้สอย 193 ตารางเมตร ราคา 100 ล้านบาท ส่วน2 ห้องที่เหลือราคาประมาณ 50ล้านบาท
ส่วนกลุ่มลูกค้าหลักของโครงการนี้เป็นกลุ่มนักธุรกิจและตระกูลดังๆ ที่อาศัยอยู่ในย่านศาลาแดง และสาทร ซึ่งกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและต้องการขยายครอบครัวแต่ต้องไม่ต้องการย้ายออกไปอยู่อาศัยในทำเลอื่น รวมถึงลูกค้าอีกลุ่มคือคนรุ่นใหม่รวม 60 % ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งบริษัทแบ่งสัดส่วนลูกค้าโครงการออกเป็น2ส่วนคือกลุ่มลูกค้าคนไทย 60% และ40%เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายแล้ว30% โดยในจำนวนยอดขายดังกล่าวเป็นคนไทย80% อีก 20% เป็นลูกค้าต่างชาติ โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 60-70% ทั้งนี้บริษัทใช้เงินลงทุนโครงการดังกล่าว300ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เงินกู้จากธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) 700ล้านบาท
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บริษัทบริหารและให้บริการโครงการอสังหาริมทรัพย์ธุรกิจในตระกูลเตชะไกรศรี เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งบริษัท วายแอลพี จำกัด โดยตระกูลเตชะไกรศรีเป็นผู้ถือหุ้นหลัง70% ส่วนที่เหลืออีก30%เป็นการถือหุ้นของพันธมิตรของบริษัท และกลุ่มเพื่อน โดยมีทุนจดทะเบียน50ล้านบาท สำหรับบริษัท วายแอลพี จัดตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาโครงการ ศาลาแดง เรสซิเดนเซส โครงการคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี่ ซึ่งในช่วง2ปีก่อนหน้านี้ บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ ได้เปิดตัวบริษัทชินคาร่า จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไฟคัสเลนในซอยสุขุมวิท44/1 ซึ่งปิดการขายแล้ว
ทั้งนี้ สาเหตุที่วางโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ โดยให้บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ เป็นบริษัทแม่และเปิดบริษัทลูกพัฒนาโครงการ เพื่อให้โครงสร้างการดำเนินงานที่เหมาะแก่การร่วมทุนในการพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งนโยบายของบริษัท จะไม่ดำเนินการพัฒนาโครงการแต่เพียงผู้เดียวเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง
สำหรับการจัดตั้งบริษัท วายแอลพี ขึ้นมาพัฒนาโครงการศาลาแดง เรสซิเดนเซส ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มซูปเปอร์ลักชัวรี่ เป็นกลุ่มมที่มีกำลังซื้อสูง โดยก่อนหน้าได้ว่าจ้างบริษัท DTZ จำกัด สำรวจความต้องการและซับพลายคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ ซึ่งพบว่าซับพลายในตลาดมีซับพลายอยู่ 5,700 ยูนิต แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มไฮเอนด์ 36% กลุ่มลักชัวรี่ 53% และกลุ่มซูเปอร์ลักชัวรี่ 11% ซึ่งกลุ่มสุดท้ายถือว่ามีซับพลายอยู่น้อยในขณะที่ความต้องการในตลาดยังมีอยู่ต่อเนื่อง
สำหรับโครงการศาลาแดงเรสซิเดนเซส มีพื้นที่การพัฒนา584 ตารางวา ซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการอาคารสูง 25ชั้น จำนวน132 ยูนิต มูลค่ารวม2,500ล้านบาท ขนาดพื้นใช้สอยเริ่มต้น 60-193ตารางเมตร ราคาขายต่อตารางเมตรเริ่มต้นที่ 160,000 -300,000บาท มูลค่าขายต่อยูนิตเริ่มต้นที่ 10 -100ล้านบาท สำหรับโครงการนี้จะมีห้องเพ้นเฮาส์ 3ห้อง โดยห้องที่มีราคาสูงสุดคือห้องเพ้นเฮาส์ในชั้นที่24 มีพื้นที่ใช้สอย 193 ตารางเมตร ราคา 100 ล้านบาท ส่วน2 ห้องที่เหลือราคาประมาณ 50ล้านบาท
ส่วนกลุ่มลูกค้าหลักของโครงการนี้เป็นกลุ่มนักธุรกิจและตระกูลดังๆ ที่อาศัยอยู่ในย่านศาลาแดง และสาทร ซึ่งกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและต้องการขยายครอบครัวแต่ต้องไม่ต้องการย้ายออกไปอยู่อาศัยในทำเลอื่น รวมถึงลูกค้าอีกลุ่มคือคนรุ่นใหม่รวม 60 % ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งบริษัทแบ่งสัดส่วนลูกค้าโครงการออกเป็น2ส่วนคือกลุ่มลูกค้าคนไทย 60% และ40%เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายแล้ว30% โดยในจำนวนยอดขายดังกล่าวเป็นคนไทย80% อีก 20% เป็นลูกค้าต่างชาติ โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 60-70% ทั้งนี้บริษัทใช้เงินลงทุนโครงการดังกล่าว300ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เงินกู้จากธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) 700ล้านบาท