วานนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ขณะที่ ร.ต.อ.วิโรจน์ รัตนตรัยเจริญ รองสว.สป.สน.มักกะสัน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดจู่โจมพิเศษ บก.น.1 (ปะฉะดะ) กำลังปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจอยู่บริเวณหน้าอาคารสราญรมย์แมนชั่น ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงและเขตห้วยขวาง ก็พบนายสุจินดา หรือหนึ่ง จุฬา อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 702/39 ซอยพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร ขี่รถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีไข่ไก่ หมายเลขทะเบียน รลม-355 กทม.ผ่านมาด้วยท่าทางพิรุธ จึงเรียกตรวจค้นภายในตัว ก็พบยาเค จำนวน 12 ขวดซุกซ่อนอยู่ในกล่องใส่ชาเย็นยี่ห้อลิปตัน และยาไฟฟ์ไฟฟ์ จำนวน 1แผง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ห้วยขวาง
จากการสอบสวนนายสุจินดา ให้การรับสารภาพว่า เรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 1 โรงเรียนพาณิชยการจำนงค์ แต่เพิ่งดร็อปเรียนเอาไว้ โดยก่อนหน้านี้มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งชื่อ บอย อายุประมาณ 20 ปี จ้างให้นำยาเคกับยาไฟฟ์ไฟฟ์ ไปส่งให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆมาแล้วประมาณเกือบ 10 ครั้ง ในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 1,000 กว่าบาท
นายสุจินดารับสารภาพต่อว่า ในวันนี้ นายบอย ได้นำยาเคกับยาไฟฟ์ไฟฟ์ ไปทิ้งไว้ย่าน ม.เกษตรศาสตร์ แล้วสั่งให้ตนขี่รถจยย.ไปเอามาส่งลูกค้าซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แมนชั่นดังกล่าว แต่ก็มาเจอตำรวจชุดปะฉะดะจับกุมเสียก่อน
"ผมยอมรับว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าในท้องที่ บก.น.1 มีตำรวจชุดปะฉะดะมาก่อน หากรู้คงระวังตัวมากว่านี้"นายสุจินดา รับสารภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการ"ปะ-ฉะ-ดะ "ดังกล่าว มีการนำรถจักรยานยนต์แพนทอม 18 คัน จัดเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว คัดเลือกเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนและสัญญาญาบัตรที่มีบุคลิก ร่างกายฉกรรจ์ แข็งแรงกำยำ มีความสูงไม่ต่ำกว่า 175 เซนติเมตร จาก 8 สน.ในพื้นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย สน.ดุสิต สน.สามเสน สน.มักกะสัน สน.พญาไท สน.ดินแดง สน.ห้วยขวาง สน.นางเลิ้ง และ สน.ชนะสงคราม จำนวน 18 นายที่เข้ารับการฝึกอบรมแผนเผชิญเหตุ การป้องกันระวังอาชญากรรม การจู่โจมช่วยเหลือตัวประกัน การเข้าระงับเหตุเฉพาะหน้า อาทิ คดีฉกชิงวิ่งราวลักวิ่งชิงปล้น รวมถึงการให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตามจุดต่างๆ ที่มาปัญหาการจราจรติดขัด อีกทั้งยังสามารถเข้าไปสืบสวนหาข่าวในชุมนุม ได้อย่างคล่องตัว
ส่วนการทำงานของชุดปฏิบัติการตามโครงการนี้จะทำหน้าที่ลักษณะ “ชุดจู่โจมปะฉะดะ” ตรวจตราความสงบเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบเปรียบเหมือน “นายอำเภอในต่างประเทศ” ที่ออกตรวจความเป็นอยู่ทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับ “หน่วยชอปเปอร์ระวังภัย” ชุดนี้ที่มีประสิทธิภาพการทำงานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และโครงการนี้ยังได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี ในการจัดซื้อรถจักรยายนต์พาหนะ 18 คัน พร้อมเครื่องแต่งกายควบชุดกว่า 2 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติหน้าที่จะแต่งกายในชุดสีดำลักษณะคล้ายชุดหมีมีป้ายชื่อ ยศ ตำแหน่ง และสัญลักษณ์โครงการติดที่หน้าอกอย่างชัดเจน สวมหมวกกันน็อกสีดำ แว่นตาดำ รองเท้าบู๊ต พร้อมอุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเบื้องต้นครบมือออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.ทุกวันรับผิดชอบท้องที่ละ 2 นายเน้นจุดที่มีประชาชนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก เช่น ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ถนนข้าวสาร ป้ายรถประจำทาง หน้าห้างสรรพสินค้าและสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ
จากการสอบสวนนายสุจินดา ให้การรับสารภาพว่า เรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 1 โรงเรียนพาณิชยการจำนงค์ แต่เพิ่งดร็อปเรียนเอาไว้ โดยก่อนหน้านี้มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งชื่อ บอย อายุประมาณ 20 ปี จ้างให้นำยาเคกับยาไฟฟ์ไฟฟ์ ไปส่งให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆมาแล้วประมาณเกือบ 10 ครั้ง ในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 1,000 กว่าบาท
นายสุจินดารับสารภาพต่อว่า ในวันนี้ นายบอย ได้นำยาเคกับยาไฟฟ์ไฟฟ์ ไปทิ้งไว้ย่าน ม.เกษตรศาสตร์ แล้วสั่งให้ตนขี่รถจยย.ไปเอามาส่งลูกค้าซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แมนชั่นดังกล่าว แต่ก็มาเจอตำรวจชุดปะฉะดะจับกุมเสียก่อน
"ผมยอมรับว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าในท้องที่ บก.น.1 มีตำรวจชุดปะฉะดะมาก่อน หากรู้คงระวังตัวมากว่านี้"นายสุจินดา รับสารภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการ"ปะ-ฉะ-ดะ "ดังกล่าว มีการนำรถจักรยานยนต์แพนทอม 18 คัน จัดเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว คัดเลือกเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนและสัญญาญาบัตรที่มีบุคลิก ร่างกายฉกรรจ์ แข็งแรงกำยำ มีความสูงไม่ต่ำกว่า 175 เซนติเมตร จาก 8 สน.ในพื้นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย สน.ดุสิต สน.สามเสน สน.มักกะสัน สน.พญาไท สน.ดินแดง สน.ห้วยขวาง สน.นางเลิ้ง และ สน.ชนะสงคราม จำนวน 18 นายที่เข้ารับการฝึกอบรมแผนเผชิญเหตุ การป้องกันระวังอาชญากรรม การจู่โจมช่วยเหลือตัวประกัน การเข้าระงับเหตุเฉพาะหน้า อาทิ คดีฉกชิงวิ่งราวลักวิ่งชิงปล้น รวมถึงการให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตามจุดต่างๆ ที่มาปัญหาการจราจรติดขัด อีกทั้งยังสามารถเข้าไปสืบสวนหาข่าวในชุมนุม ได้อย่างคล่องตัว
ส่วนการทำงานของชุดปฏิบัติการตามโครงการนี้จะทำหน้าที่ลักษณะ “ชุดจู่โจมปะฉะดะ” ตรวจตราความสงบเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบเปรียบเหมือน “นายอำเภอในต่างประเทศ” ที่ออกตรวจความเป็นอยู่ทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับ “หน่วยชอปเปอร์ระวังภัย” ชุดนี้ที่มีประสิทธิภาพการทำงานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และโครงการนี้ยังได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี ในการจัดซื้อรถจักรยายนต์พาหนะ 18 คัน พร้อมเครื่องแต่งกายควบชุดกว่า 2 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติหน้าที่จะแต่งกายในชุดสีดำลักษณะคล้ายชุดหมีมีป้ายชื่อ ยศ ตำแหน่ง และสัญลักษณ์โครงการติดที่หน้าอกอย่างชัดเจน สวมหมวกกันน็อกสีดำ แว่นตาดำ รองเท้าบู๊ต พร้อมอุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเบื้องต้นครบมือออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.ทุกวันรับผิดชอบท้องที่ละ 2 นายเน้นจุดที่มีประชาชนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก เช่น ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ถนนข้าวสาร ป้ายรถประจำทาง หน้าห้างสรรพสินค้าและสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ
