รอยเตอร์ – โดนัลด์ โคห์น รองประธานเฟดเชื่อ เอฟโอเอ็มซีมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยในอัตราใกล้ 0% ไว้อีกระยะ ขณะที่เศรษฐกิจส่อเค้าฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
โคห์น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันเมื่อวันเสาร์ (23) ว่าเวลานี้เศรษฐกิจเพียงกำลังเริ่มเห็นสัญญาณการกลับคืนสู่เสถียรภาพ และสภาพเช่นนี้ย่อมมีแนวโน้มว่างบดุลของพวกกิจการการเงินการธนาคารและของภาคครัวเรือน จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงน่าจะส่งผลให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ใช้เวลาอีกระยะก่อนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ที่ผ่านมา เฟดลดดอกเบี้ยนโยบายมาหลายครั้งจนอยู่ใกล้ระดับ 0% ในขณะนี้ และยังจัดตั้งกองทุนก้อนใหญ่เพื่อปล่อยสินเชื่อและซื้อหลักทรัพย์ ภายใต้เป้าหมายในการเยียวยาตลาดการเงินและดึงเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะถดถอยที่ยาวนานที่สุดนับจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงในทศวรรษ 1930
โคห์นเสริมว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังอยู่ในสภาพเปราะบาง และมีแนวโน้มว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะ แต่เฟดต้องเตรียมกรอบโครงเพื่อดึงเงินกู้ที่ปล่อยไปคืนมา เมื่อถึงเวลาต้องควบคุมความกดดันจากเงินเฟ้อ
เฟดกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่ายินดีขยายขอบเขตการซื้อพวกหลักทรัพย์ที่อิงกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย และพันธบัตรคลังประเภทที่มีระยะเวลาไถ่ถอนยาวขึ้นกว่าเดิมอีก ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวที่เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น
“หลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้ว่าโครงการดังกล่าวของเราได้ผลเป็นอย่างดี และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวลดลง 1%”
โคห์นสำทับว่า เฟดประเมินว่าโครงการนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีนับจากนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่เพียงทำให้ประชาชนมีสวัสดิการทางเศรษฐศาสตร์ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้รัฐบาลกลางมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นถึงราว 175,000 ล้านดอลลาร์
ไมเคิล เฟอโรลี นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน อิโคโนมิกส์ ตีความคำพูดของโคห์นว่า เฟดกำลังจะซื้อหลักทรัพย์ระยะยาวเพิ่ม
โคห์น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันเมื่อวันเสาร์ (23) ว่าเวลานี้เศรษฐกิจเพียงกำลังเริ่มเห็นสัญญาณการกลับคืนสู่เสถียรภาพ และสภาพเช่นนี้ย่อมมีแนวโน้มว่างบดุลของพวกกิจการการเงินการธนาคารและของภาคครัวเรือน จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงน่าจะส่งผลให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ใช้เวลาอีกระยะก่อนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ที่ผ่านมา เฟดลดดอกเบี้ยนโยบายมาหลายครั้งจนอยู่ใกล้ระดับ 0% ในขณะนี้ และยังจัดตั้งกองทุนก้อนใหญ่เพื่อปล่อยสินเชื่อและซื้อหลักทรัพย์ ภายใต้เป้าหมายในการเยียวยาตลาดการเงินและดึงเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะถดถอยที่ยาวนานที่สุดนับจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงในทศวรรษ 1930
โคห์นเสริมว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังอยู่ในสภาพเปราะบาง และมีแนวโน้มว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะ แต่เฟดต้องเตรียมกรอบโครงเพื่อดึงเงินกู้ที่ปล่อยไปคืนมา เมื่อถึงเวลาต้องควบคุมความกดดันจากเงินเฟ้อ
เฟดกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่ายินดีขยายขอบเขตการซื้อพวกหลักทรัพย์ที่อิงกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย และพันธบัตรคลังประเภทที่มีระยะเวลาไถ่ถอนยาวขึ้นกว่าเดิมอีก ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวที่เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น
“หลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้ว่าโครงการดังกล่าวของเราได้ผลเป็นอย่างดี และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวลดลง 1%”
โคห์นสำทับว่า เฟดประเมินว่าโครงการนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีนับจากนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่เพียงทำให้ประชาชนมีสวัสดิการทางเศรษฐศาสตร์ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้รัฐบาลกลางมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นถึงราว 175,000 ล้านดอลลาร์
ไมเคิล เฟอโรลี นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน อิโคโนมิกส์ ตีความคำพูดของโคห์นว่า เฟดกำลังจะซื้อหลักทรัพย์ระยะยาวเพิ่ม