ลำปาง – โชวห่วยลำปางเล็งยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบทันที หากนายกเล็กนครลำปาง ลักไก่นำเรื่องแม็คโครเปิดสาขาเพิ่มเข้าสภา เพื่อหาช่องออกข้อบัญญัติท้องถิ่นที่ขัดหรือแย้งต่อกฎกระทรวง เปิดทางห้างใหญ่-ทุนยักษ์เปิดสาขา หลังเล่นกลใช้จังหวัดออกหน้าทำหนังสือเชิญชาวบ้านร่วมประชาพิจารณ์มาแล้ว
นายเกรียงเดช สุทธภักติ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง และที่ปรึกษาชมรมจตุรภัณฑ์ลำปาง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่ง (โชวห่วย) ในจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด -นายพินิจ จันทรสุรินทร์ เจ้าของที่ดินที่จะขายให้แก่บริษัทสยามแม็คโคร ได้ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตจัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในลำปาง ต่อการเปิดห้างค้าส่ง MAKRO ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมียอดผู้เข้าร่วมรับฟัง ประมาณ 700 คน ทั้ง 13 อำเภอ เป็นเพียงการสอบถามความเห็นของประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่แม็คโครจะเปิด และเมื่อเปิดแล้วชาวบ้านจะได้ประโยชน์อะไรเท่านั้น
“หากถามคำถามนี้กับตนก็เห็นว่าดี เพราะชาวบ้านจะได้ซื้อสินค้าถูก แต่ทั้งนี้ต้องไปก่อสร้างในพื้นที่ที่กำหนดให้ ไม่ใช่จะมาใช้วิธีแก้กฎหมายที่ห้ามไว้”
ในเรื่องนี้ชมรมฯ ก็จะรอดูว่านายกเทศมนตรีนครลำปาง จะนำเรื่องการขอออกข้อบัญญัติท้องถิ่น เพื่อเอื้อให้ห้างดังกล่าวก่อสร้างในพื้นที่ที่กฎกระทรวงห้ามไว้เข้าสภาหรือไม่
ทั้งนี้ หากมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมสภา ชมรมฯ ก็จะยื่นเรื่องดังกล่าวให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช. )ตรวจสอบทันที เนื่องจากเห็นว่าผิดกฎหมาย เพราะการที่จะนำเรื่องใดเข้าสภา เพื่อออกข้อบัญญัติที่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวง เรื่องนั้นๆ ต้องเป็นเรื่องที่จำเป็นหรือมีเหตุผลพิเศษเฉพาะท้องถิ่น
แล้วถามว่าลำปางมีความจำเป็นหรือมีเหตุผลพิเศษอะไรที่จะต้องให้ห้างใหญ่มาเปิดสาขาอีก ทั้งๆ ที่ตอนนี้ลำปางก็มีถึง 2 ห้าง แล้วหากไม่มีแม็คโครคนลำปางจะเดือดร้อนไหม ลำปางก็เพียงแค่ไม่มีห้างใหญ่เกิดขึ้นอีกหนึ่งแห่งเท่านั้น แต่ตรงกันข้ามหากมีแม็คโคร โชวห่วยลำปางอีกหลายร้านต้องตายแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมาห้างยักษ์ใหญ่ มีสายป่านยาวได้ใช้ความได้เปรียบเหล่านี้ ขายสินค้าในราคาต่ำมาก ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งเป็นคนลำปางจริงและประกอบการค้าขายแบบโชวห่วยมานานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ได้รับผลกระทบ จนเลิกกิจการไปแล้วนับร้อยราย และปัจจุบันห้างใหญ่ต่างก็ขยายสาขาเล็กสาขาน้อยเจาะลงไปในชุมชนต่างๆ ยิ่งทำให้ผู้ค้ารายเล็กย่ำแย่เข้าไปอีก ทางชมรมฯจึงไม่เห็นด้วยกับการเข้ามาของห้างใหญ่ดังกล่าว
“หากนายกเสนอ นายกก็ผิด หาก ส.ท.ยกมือสนับสนุน ส.ท. ก็ผิดด้วยเช่นกัน ซึ่งในเรื่องนี้ชมรมฯได้ประสานงานและขอคำแนะนำไปยัง ป.ป.ช. แล้ว”
นายเกรียงเดช กล่าวอีกว่า หากนายกปฏิเสธที่จะนำเรื่องเข้าสภา แต่แม็คโคร หรือ เจ้าของที่ต้องการใช้ช่องทางอื่น ก็สามารถทำได้ คือการเข้าชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและได้ไปใช้สิทธิ โดยไม่ขาดคุณสมบัติเข้าชื่อขอให้ออกเป็น พ.ร.บ. แต่ก็ต้องมีผู้เข้าชื่อถึงกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิทั้งหมดซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องยาก
ดังนั้น ชมรมฯเห็นว่าแม็คโครและเจ้าของที่ดิน น่าจะใช้วิธีแรก ดังนั้น ชมรมฯก็จะรอดูว่าเมื่อไหร่ที่นายกเทศมนตรีนครลำปาง นำเรื่องดังกล่าวเข้าสภา ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที
ด้านนายนิมิต จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่า เทศบาลนครลำปางกำลังจะเสนอสภา เพื่อแก้กฎหมายควบคุมอาคาร เปิดโอกาสให้มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางเมตรได้ โดยเอื้อประโยชน์ต่อการก่อสร้างห้างแม็คโคร และสนองความต้องการของเจ้าของที่ดินบนพื้นที่ก่อสร้าง ว่า ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมายังไม่มีผู้ใดมาสั่งการหรือได้รับการประสานงานจากหน่วยงานใดให้กระทำตามที่เป็นข่าว
นายนิมิต ระบุว่า ทุกอย่างต้องทำตามกรอบกฎหมาย การที่จะไปดำเนินการนอกเหนืออำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดย่อมกระทำไม่ได้ และตนจะไม่ดำเนินการโดยเด็ดขาด ที่ผ่านมามีการปล่อยข่าวและเสนอเงื่อนไขต่าง ๆมาให้ซึ่งตนรับไม่ได้
“เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้กฎหมายที่ท้องถิ่นมีอยู่ไปมีอำนาจเหนือกฎกระทรวง การจะแก้กฎหมายที่มีศักดิ์เหนือกว่า ต้องเป็นหน้าที่ของ ส.ส.และรัฐบาลกลาง เทศบาลหรือท้องถิ่นทำได้เฉพาะที่ กม.ให้อำนาจไว้เท่านั้น การจะทำประชาพิจารณ์เพื่อมากดดันให้เทศบาลดำเนินการในสิ่งที่ฝ่าฝืนกฎหมายย่อมไม่อาจทำได้ และถ้าเป็นการดำเนินการเพื่อมากดดันให้ผมดำเนินการในสิ่งที่ขัดต่อกฎหมาย ผมยอมไม่ได้เด็ดขาด”
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระดับสูงของจังหวัดเปิดเผยว่า สำหรับการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า จังหวัดลำปาง ได้รับการประสานจาก นายประสิทธิ์ หรรษ์หิรัญ ประธานสภาเทศบาลนครลำปาง ห้างแม็คโคร และนายพินิจ จันทรสุรินทร์ ขอให้จังหวัดเป็นผู้ออกหนังสือให้แก่ผู้ดำเนินการคือ ม.ราชภัฏสวนดุสิต เพื่อเชิญมวลชน ผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้เสียในจังหวัดลำปาง รวม 13 อำเภอ โดยวิธีดำเนินงาน จังหวัดลำปางไม่ได้เป็นผู้ประสานงานกับมวลชน หรือผู้ที่จะเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด จังหวัดเป็นผู้ออกหนังสือเชิญให้เท่านั้น