xs
xsm
sm
md
lg

“พินิจ”เคลียร์สื่อลำปาง-อ้าง“แม็คโคร”เปิดดีพิรุธจัดประชาพิจารณ์ไม่เชิญโชวห่วยท้องถิ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.พนิดา เตชะสกุลมาศ ประธานชมรมจตุรภัณฑ์ลำปาง พร้อมด้วยสมาชิกชมรมฯ 4 คน ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง เพื่อให้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เรื่องการปลอมแปลงเอกสารและปลอมแปลงการลงลายมือชื่อ ในการทำหนังสือยินยอมให้มีการก่อสร้างห้าง ในเขตเทศบาลฯ
ลำปาง – “พินิจ จันทรสุรินทร์” เปิดหน้าเคลียร์สื่อท้องถิ่นลำปาง เรียกเข้าร่วมโต๊ะแจงข้อดี “แม็คโคร” ทุนใหญ่-ห้างยักษ์เปิดสาขาในพื้นที่ หึ่ง ! คนเข้าร่วมได้ซองติดมือ พร้อมเตรียมเปิดประชาพิจารณ์วันนี้ (15 พ.ค.) แต่กลับส่อพิรุธ ใช้คนจากพื้นที่ฐานเสียงเข้าร่วมเต็มจำนวน 400 คน ทั้งที่ตามหลักต้องทำในสัดส่วน 80 %ของประชากรทั้งจังหวัด หรือ 80,000 คน ขณะที่กลุ่มโชวห่วย ขึ้นโรงพักแจ้งความคนลักไก่ทำหนังสือยินยอม – ปลอมลายเซ็น

รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า หลังจากกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยในนามชมรมจตุรภัณฑ์ลำปาง นำโดย น.ส.พนิดา เตชะสกุลมาศ ประธานชมรมฯ เข้าพบนายนิมิต จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง เพื่อคัดค้านการแก้ไขกฎกระทรวงเอื้อให้ห้างแม็คโคร เข้ามาเปิดสาขาในเขตตัวเมืองลำปาง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ค้าปลีกรายย่อยในท้องถิ่น เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่จะยื่นหนังสือเรื่องเดียวกันต่อโยธาธิการและผังเมืองลำปาง และผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว

ในครั้งนั้นนายนิมิต ได้นำหนังสือแสดงความยินยอมให้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เข้ามาเปิดสาขาในพื้นที่ตัวเมืองลำปางของชมรมจตุรภัณฑ์ โดยมี “ลายเซ็น” ของประธานชมรมฯ – ที่ปรึกษาชมรมฯ ปรากฏในหนังสือนั้นด้วยมาแสดง แต่ น.ส.พนิดา ยืนยันว่า ไม่ใช่หนังสือของชมรมฯ และตัวเธอเองไม่เคยเซ็นในหนังสือยินยอมดังกล่าวนั้น

ปรากฏว่า หลังจากนั้นบรรดาบรรณาธิการ – เจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และผู้สื่อข่าวหลายคนในจังหวัดลำปาง ได้รับการประสานงานจากอดีตประธานชมรมผู้สื่อข่าวนครลำปาง ว่า ขอเชิญเข้าพบนายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่มีชื่อติดอยู่ในบ้านเลขที่ 111 หรือที่รู้จักกันในนาม “เจ้าของอาณาจักรดอยเงิน แห่งนครลำปาง” ที่เป็นเจ้าของที่ดินตรงข้ามห้างบิ๊กซี สาขาลำปาง ที่จะขายให้แก่บริษัทแม็คโครฯ เพื่อใช้เปิดสาขา ในราคาสูงไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป โดยผู้ประสานงานอ้างว่า เพื่อเข้ารับฟังข้อเท็จจริงและซักถามข้อข้องใจ

จากการสอบถามผู้สื่อข่าวหลายคนที่เข้าร่วมรับฟังข้อมูลจากนายพินิจ ณ บ้าน นายประเสิร์ฐ รัตนไพศาลศรี ประธานมูลนิธิลำปางสงเคราะห์ ได้รับการชี้แจงว่า นายพินิจ ได้พยายามชี้แจงถึงข้อดีของการที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เข้ามาเปิดสาขาในพื้นที่ โดยเฉพาะกรณีของห้างแม็คโคร จะไม่แข่งขันกับโชวห่วย เพราะ 1.กลุ่มลูกค้าหลักของแม็คโครเป็นผู้ประกอบการไม่ใช่ผู้บริโภคทั่วไป 2.ขายสินค้าในระบบสมาชิก 3.ขายสินค้าราคาขายส่ง ในราคาถูกเพื่อให้สมาชิกขายต่อ หรือนำไปใช้ในการประกอบการ เป็นต้น

นอกจากนี้ นายพินิจ ได้ระบุอีกว่า ขณะนี้แม็คโคร ได้ให้บริษัทเอกชน ดำเนินการสอบถามประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับความต้องการไปแล้วหนึ่งครั้ง โดยประชาชนเห็นด้วยกับการเข้ามาของห้างดังกล่าว และวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ จังหวัดลำปาง ได้ให้ สวนดุสิตโพล จัดทำประชาพิจารณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในจังหวัดลำปาง เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง โดยจะใช้สถานที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เป็นสถานที่ทำประชาพิจารณ์ และได้ส่งหนังสือให้แก่ร้านค้าโชวห่วย ได้รับทราบเพื่อเข้าร่วมประชาพิจารณ์ดังกล่าวแล้ว
ว่ากันว่า หลังเสร็จสิ้นการชี้แจง ผู้เข้าร่วมหลายคนได้รับซองค่าเสียเวลา 6,000 บาทด้วย

อย่างไรก็ตาม “ASTVผู้จัดการรายวัน” ได้สอบถามน.ส.พนิดา เตชะสกุลมาศ ประธานชมรมจตุรภัณฑ์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าส่ง-ค้าปลีกลำปาง ได้รับการชี้แจงว่า เธอเพิ่งทราบว่า มีการทำประชาพิจารณ์วันนี้( 15 พ.ค.)และจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สมาชิกชมรมฯทุกคน ก็ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญดังกล่าวเลย ดังนั้นจะหารือกับสมาชิกชมรมจตุรภัณฑ์อีกครั้ง และดูว่าผลการประชาพิจารณ์เป็นอย่างไร จึงจะกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวอีกครั้ง

ในส่วนของ นายเกรียงเดช สุทธภักติ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าส่ง-ค้าปลีก กล่าวว่า เขาก็ไม่ได้รับหนังสือเชิญ และจากการตรวจสอบข้อมูลในการทำประชาพิจารณ์ดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ก็ไม่ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการทำประชาพิจารณ์ตามที่นักการเมืองกล่าวอ้าง

นายเกรียงเดช ได้ให้เหตุผลว่า การดำเนินการดังกล่าวน่าจะเป็นของห้าง ที่เข้ามาทำประชาพิจารณ์ โดยผ่านบริษัทเอกชนร่วมกับเจ้าของที่ดิน ซึ่งตามกฎกระทรวงที่มีบังคับอยู่ในขณะนี้ ห้างที่จะก่อสร้างขนาดใหญ่และเกินที่กำหนด จะทำในเขตผังเมืองรวมไม่ได้ แต่หากจะดำเนินการได้ ต้องทำประชาพิจารณ์และนำผลของการทำประชาพิจารณ์ เสนอต่อเจ้าของพื้นที่คือเทศบาลนครลำปาง เพื่อออกเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่นโดยผ่านสภาฯ ถึงจะมีผลบังคับได้

ดังนั้นการที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเร่งทำประชาพิจารณ์ ก็คงต้องการนำผลดังกล่าวไปลักไก่เพื่อให้เทศบาลฯแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าว

จากการตรวจสอบล่าสุด ตนพบว่าร้านโชวห่วย ไม่ได้รับหนังสือเชิญแม้แต่รายเดียว และรายชื่อผู้ที่เข้าร่วมทำประชาพิจารณ์ ก็เป็นประชาชนที่อยู่รอบนอก ทั้งยังเป็นคนในเขตพื้นที่ฐานคะแนนของนักการเมืองด้วย และมีจำนวนเพียง 400 คนเท่านั้น ซึ่งหากมีการทำประชาพิจารณ์จริงต้องรับฟังความเห็นของประชาชนในสัดส่วน 80%ของทั้งจังหวัดคือประมาณ 80,000 กว่าคน ถึงจะถือว่าเป็นประชาพิจารณ์ได้ ดังนั้น การทำประชาพิจารณ์ดังกล่าว เห็นว่าไม่ชอบธรรม และเป็นการลักไก่ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้คนเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ผมและผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยลำปาง จะเดินทางไปคัดค้านในวันประชาพิจารณ์ด้วย” นายเกรียงเดช กล่าว

ล่าสุดเช้าวานนี้(14 พ.ค.) น.ส.พนิดา พร้อมด้วยสมาชิกชมรม จำนวน 4 คน ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง เพื่อให้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เรื่องการปลอมแปลงเอกสารและปลอมแปลงการลงลายมือชื่อ ในการทำหนังสือยินยอมให้มีการก่อสร้างอาคาร เกินพิกัดที่กำหนด ตามเอกสารที่ได้รับจากเทศบาลนครลำปาง ที่นายนิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง แจ้งแก่สมาชิกชมรมฯว่า เอกสารยินยอมดังกล่าวได้รับมาจากนายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีต ส.ส.ลำปาง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ที่แจ้งว่า ชมรมฯไม่ขัดข้องในการก่อสร้างของห้างใหญ่ที่เข้ามาแล้ว

น.ส.พนิดา กล่าวย้ำว่า การเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ เพื่อให้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่า เธอเองไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสารยินยอมฉบับดังกล่าว หากมีผู้หนึ่งผู้ใด นำเอกสารฉบับนั้นไปใช้ แล้วทำให้เธอ และชมรมฯ หรือผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง ได้รับความเสียหาย ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ส่วนการทำประชาพิจารณ์ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (15 พ.ค.) ชมรมฯ ได้คุยกันแล้วว่าไม่เข้าร่วม เนื่องจากไม่ได้รับการติดต่อและเห็นว่าเป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง หากเข้าไปจริงอาจเกิดการกระทบกระทั่งกันได้
กำลังโหลดความคิดเห็น