xs
xsm
sm
md
lg

คลื่นใต้น้ำในปชป.ซัดมาร์ค“ชาติชาย”ดอดพบ“กอร์ปศักดิ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ”ชาติชาย” ไม่สนถูกบีบพ้น ครม.เดินหน้าทำงาน ดอดพบ ”กอร์ปศักดิ์” อ้างถกแต่เรื่องแก้ลิ้นจี่ราคาตก “ชวรัตน์” รับ รมช.เกษตรฯ ต่อรองขออยู่ถึงสิ้น พ.ค. แต่ยังไม่เซ็นหนังสือลาออก ”มาร์ค” รับ ส.ส.ปชป.ไม่พอใจการทำงานของ รมต.แนะให้ปรับปรุงการทำงาน ส่วนปัญหาในพรรคภูมิใจไทยรอ”ชวรัตน์-ชาติชาย” คุยกันเอง ย้ำไม่มีปรับโควตา รมต.ให้กลุ่ม ”ประชา” ขณะที่คลื่นลมใน ปชป.ยังไม่สงบ ปูดข่าวย้ายพรรคซบ ภูมิใจไทย-พันธมิตรฯ หวังกดดันปรับ ครม. ด้านแกนนำพรรคส่ง ไตรรงค์ ผนึกกำลังรองหัวหน้าพรรคแต่ละภาคกล่อม ส.ส.ในสังกัด ส่วน”ประชา” ยันไม่รับตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ จากพรรคภูมิใจไทย ถูกแกนนำพรรคเคลื่อนไหวเพื่อปรับออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเจ้าตัวขอเวลาทำงานจนถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยอ้างว่ามีงานที่รับผิดชอบต้องสะสางให้เสร็จก่อน ล่าสุด วานนี้ (20 พ.ค.) นายชาติชาย ได้เดินทางเข้าพบ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจที่ทำเนียบรัฐบาล
นายชาติชาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า มาพบนายกอร์ปศักดิ์ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร ก่อนขอตัวเข้าพบรองนายกรัฐมนตรี
หลังการเข้าพบนายกอร์ปศักดิ์ ประมาณ 1 ชั่วโมง นายชาติชายจึงเดินทางกลับ พร้อมกับกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มาพบนายกอร์ปศักดิ์เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ โดยเฉพาะลิ้นจี่
ส่วนที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ได้พูดคุยกับนายชาติชายแล้ว โดยจะขออยู่ทำงานจนถึงสิ้นเดือน พ.ค.นั้น รมช.เกษตรฯ ได้ยกมือไหว้ผู้สื่อข่าวพร้อมกับกล่าวว่า ขอไม่พูดเรื่องการเมือง ขอทำงานดีกว่านะครับ เมื่อถามว่าเป็นเพราะมัวแต่ทำงานหรือไม่ จึงทำให้ไม่มีเวลา ไปพบปะส.ส.ในพรรคเลย นายชาติชาย ไม่ตอบ แต่ได้พูดตัดบทว่า ขอบคุณมากครับ ผมขออนุญาตทำงานดีกว่าครับ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าการพูดคุยกับ นายชวรัตน์ มีเงื่อนไขที่จะอยู่ถึงสิ้น พ.ค.นี้จริงหรือไม่ นายชาติชายกล่าวพร้อมกับยกมือไหว้สื่ออีกว่า  ขออนุญาตไม่พูดเรื่องการเมืองได้ไหม ขอบคุณมาก ตอนนี้ขอทำงานก่อน โดยเฉพาะเรื่องของสหกรณ์ที่จะต้องผลักดันให้เกิดความเข้มแข็งของเกษตรกร เข้าถึงประชาชนได้ทุกพื้นที่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกเข็ดเขี้ยวกับการเมืองหรือไม่ นายชาติชาย หัวเราะ ไม่ตอบคำถามสื่อ แต่บอกว่า ขอบคุณมาก
ด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายชาติชาย มาพบไม่ได้คุยกันถึงเรื่องการเมือง แต่เป็นการมารายงานการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าตกต่ำ โดยเฉพาะลิ้นจี่
ส่วนที่มีข่าวว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กดดันให้ปรับตนออกจาก ครม.นั้น ตนพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกพรรค และจะชี้แจงต่อไป

** “ชวรัตน์”ยันมีชื่อรมต.แทนชาติชายแล้ว
ด้าน นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ล่าสุดยังไม่ได้โทรศัพท์คุยกับนายชาติชาย ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. เรื่องนี้ภายในพรรคได้พูดคุยกันหลายรอบแล้ว ครั้งสุดท้ายท่านก็บอกว่าจะต้องโทรฯ มาหาตน แต่ก็ยังไม่โทรฯมา
ผู้สื่อข่าวถามว่าต่อไปการทำงานจะราบรื่นหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ราบรื่นไม่มีปัญหา เมื่อถามว่านายชาติชายยืนยันว่าจะไม่ลาออกทางพรรคจะมีมติเรื่องนี้หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ต้องฟังที่นายชาติชายพูดให้จบ โดยเฉพาะตอนสุดท้ายที่ระบุว่าจะมีการขยับอะไรสักอย่าง ก็ต้องไปฟังกันดู เมื่อถามว่าจะให้นายชาติชายอยู่ถึงสิ้นเดือน พ.ค.ใช่หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ครับ ที่คุยไว้เป็นอย่างนั้น แต่ยังไม่มีการเซ็นใบลาออก
ส่วนในการประชุมพรรคภูมิใจไทยวันนี้ (21พ.ค.) จะมีมติเรื่องนี้หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าการประชุมมีวาระนี้หรือไม่ แต่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะท่านคุยกับตนรู้เรื่องดี เมื่อถามว่าคนที่มาแทนนายชาติชายเป็นใคร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มีแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ แต่เป็นโควตาของพรรค

*** “มาร์ค”ให้รมต.ปรับการทำงาน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิจารณ์การทำงานของรัฐมนตรีภายในพรรคประชาธิปัตย์ว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ได้มีการประชุมและพูดคุยกันภายในพรรคพอสมควร และในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ จะมีการสัมมนาพรรคที่เกาะสมุย และจะเดินทางไปด้วยกันคงไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามความจริงแล้วไม่มีอะไร ส.ส. มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบประเมินการทำงานของรัฐบาลถือว่า ต่างคนต่างทำหน้าที่กันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาดูเหมือนว่ามีมาตั้งแต่ต้นจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เป็นเรื่องเดียวกันเสมอไป ปัญหาแต่ละช่วงแต่ละขณะไม่เหมือนกัน อันไหนที่เป็นปัญหาการทำงานของรัฐมนตรีท่านใดเมื่อรับฟังอะไรไปและปรับปรุงได้ ก็ควรไปปรับปรุง เมื่อถามว่าได้กำชับรัฐมนตรีที่ส.ส.ระบุว่าผลงานยังไม่ดีให้ปรับปรุงการทำงานหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คุยกันตลอดเวลา
***ให้ภูมิใจไทยไปคุยกันเอง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการปรับ ครม.นั้น ขณะนี้ยังไม่มีพรรคไหนเสนอมา ส่วนการได้พบกับ นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ จากพรรคภูมิใจไทย ที่มีปัญหาในพรรคจนอาจจะถูกปรับออกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ามีปัญหาในส่วนของพรรคใดก็ให้พรรคนั้นไปคุยกันเอง กรณี รมช.เกษตรฯ ก็ให้ท่านไปคุยกันในพรรคของท่าน เป็นเรื่องที่ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับนายชาติชาย ไปคุยกันเอง

**ไม่เกลี่ยโควตาให้กลุ่ม“ประชา”
สำหรับพรรคเพื่อแผ่นดินในซีกของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เตรียมขยับขอปรับ ครม.เกลี่ยโควตาของพรรคด้วยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องโควตา แต่ตอนลงมติไม่ไว้วางใจเป็นครั้งหนึ่งที่มาลงคะแนนสนับสนุนรัฐบาล
ส่วนที่พรรคเพื่อแผ่นดินมองว่า พรรคภูมิใจไทยมีจำนวนส.ส. ไม่ได้มากน้อยกว่ากัน แต่มีรัฐมนตรีเยอะ หากจะขอเพิ่มโควตาบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าคิดตามโควตา พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเพิ่มขึ้นเยอะ เมื่อถามว่า หากมีการ ปรับครม. ยังยืนยันว่า แต่ละพรรคยังจะนั่งกระทรวงเดิมใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องการเปลี่ยนแปลงกระทรวง แม้แต่การปรับครม.ยั
งไม่มีพรรคไหนเสนอมา

** “สุเทพ”ชี้รมต.ของปชป.ทำดี
ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าไม่มีแรงกระเพื่อมหรือแรงกดดันในพรรคให้มีการปรับ ครม. อย่างไรก็ตาม ในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ตนติดปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี จึงไม่ได้เข้าร่วมด้วย แต่ได้รับรายงานจากประธานส.ส.ว่าไม่มีกรณีอย่างที่เป็นข่าว มีเพียงการแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแก้วิกฤติ การนำงบประมาณไปใช้ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส.ส.กังวลใจว่าไม่รวดเร็วอย่างที่ควร ยืนยันว่าไม่มีการปรับครม.แน่นอน ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ลูกพรรคอยากให้ปรับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจนั้น ก็ไม่เป็นความจริง และในพรรคคงไม่ต้องคุยอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องปรับทิศทางการทำงานหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เดินทิศทางนี้ก็มาถูกทางแล้ว แต่เรื่องการอธิบายกับผู้คนก็จำเป็นที่จะต้องปรับปรุง ตั้งแต่การพูดจากับสมาชิกพรรค ประชาชน เพราะในสถานการณ์อย่างนี้ ต้องทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจ
”ผมจะประชุมพูดคุยกับบรรดาเพื่อนรัฐมนตรีให้บ่อยขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องหาเวลาถ่ายทอดสิ่งที่รัฐบาลทำให้สมาชิกพรรครับรู้ให้มากขึ้นบ่อยขึ้น และคงต้องขอให้รัฐมนตรีทั้งหลายพูดจาประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ ในกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไป เพื่อให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นไปอย่างใกล้ชิด”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องควานหากลุ่ม 40 ส.ส.ของพรรคที่ออกมา เคลื่อนไหวหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีนี่ครับ ถ้ามีผมต้องเป็นคนแรกที่รู้ เชื่อผมสิ เมื่อถามว่ามี ส.ส.บางคนอึดอัดใจกับการทำงานของรัฐมนตรี นายสุเทพ กล่าวว่า บางคนใช่ แต่ไม่ใช่กลุ่ม 40 ส.ส.
 
*** “สาทิตย์”รับส.ส.วิจารณ์รมต.พรรค
ส่วนนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในพรรคทุกคนเข้าใจกันดีว่ารัฐบาลเข้ามาทำงานในภาวะวิกฤตและมีปัญหาอยู่เยอะ และในที่ประชุมเป็นการเสนอความเห็นและเปิดโอกาส ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์เต็มที่ แต่เนื้อหาทั้งหมดก็ไม่ได้นำไปสู่ข้อเสนอว่าต้องปรับ ครม.แต่เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ และเพื่อให้รัฐมนตรีได้ทราบเสียงสะท้อนของส.ส.ในพรรคว่า เป็นอย่างไร เรื่องที่สงสัยก็ชี้แจง และนำไปปรับปรุงตัวเอง และในที่ประชุมไม่มีการเรียกร้อง กดดัน หรือพูดคุยเรื่องปรับใครออก ส่วนเรื่องการปรับครม. ต้องขึ้นอยู่กับอำนาจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.บ่นว่า รัฐมนตรีบางคนติดต่อยาก นายสาทิตย์ กล่าวว่า มีทุกสมัยอยู่แล้ว ขึ้นอยู่ที่ใครจะวิพากษ์วิจารณ์ และก่อนที่ใครจะมาเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องผ่านการโหวตของสมาชิกในพรรคก่อน
ส่วนที่มองกันว่าที่ส.ส.ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เพราะไม่เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้พูด หรือไม่ช่วยดูแล ส.ส. นายสาทิตย์ กล่าวว่า เราก็เปิดโอกาสทุกอาทิตย์ ส่วนจะเป็นแรงกระเพื่อมจากคนที่ต้องการตำแหน่งหรือไม่นั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า สื่อหลายสื่อมักสรุป ว่าเป็นแรงกระเพื่อม แต่ในที่ประชุม มีเป็นความห่วงใย ในเรื่องการทำหน้าที่และนโยบายมากกว่าและยืนยันว่า ไม่มีเรื่องกระเพื่อมกดดันใครออกและไม่มีเสียงเรียกร้องให้ใครออกทั้งแม้แต่ นายกอร์ศักดิ์ สภาวสุ ก็มีคนชมว่าทำงานดี

** ส่ง”ไตรรงค์”เคลียร์ส.ส.กับรมต.
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 19 พ.ค. หลังเสร็จสิ้นการประขุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.พรรคกว่า 60 คน เดินทางไปร่วมฉลองวันคล้ายวันเกิดนายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร กับ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กทม.และผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร้านอาหารนางกวัก ย่านทองหล่อ ซอย 10 โดยนายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้จัดเลี้ยงฉลองให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลี้ยงฉลองครั้งนี้ มีแกนนำพรรคจาก กทม. ภาคกลาง ภาคใต้ และรัฐมนตรีเข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และรองหัวหน้าพรรค นพ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และกรรมการบริหารพรรค โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน มีการร้องเพลง
มีรายงานว่า ในงานดังกล่าวสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ยังได้ถือโอกาสปรับทุกข์และแลกเปลี่ยนเรื่องการทำงานของรัฐมนตรีของพรรค ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่ยังคงไม่พอใจการทำงานของรัฐมนตรีที่ทำงานไม่เห็นหัวสมาชิกพรรค ที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ โดยนายชุมพล รับปากว่าจะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรค พร้อมยืนยันว่าขณะนี้พรรคได้มอบหมายให้ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน ในฐานะผู้อาวุโสของพรรค ทำงานร่วมกับรองหัวหน้าพรรคในแต่ละภาค เพื่อทำความเข้าใจกับ ส.ส.ในพื้นที่ เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกับรัฐมนตรีของแต่ละกระทรวง โดยจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันอีกครั้งในการสัมมนาพรรคที่ เกาะสมุย ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค.นี้

**ปูดข่าวส.ส.อกหักขู่ย้ายพรรค
อย่างไรก็ตาม การพูดคุย ส.ส.ส่วนใหญ่เห็นว่าจะให้โอกาสรัฐมนตรีได้ทำงาน ไปสักระยะหนึ่งก่อน หากไม่มีความคืบหน้าจะร่วมกันออกมาทวงสัญญากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อีกครั้ง เนื่องจาก ส.ส ส่วนใหญ่เห็นกันกับแนวคิดของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ที่เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยอมให้กับพรรคร่วมมากเกินไป จนทำให้พรรคเสียจุดยืน และจะไม่ยอมเจียดโควตารัฐมนตรีให้กับพรรคร่วมอีกแล้ว
ข่าวแจ้งว่า ในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครั้งนี้ยังมีส.ส.หนึ่งในแกงค์อกหักออกมา ปล่อยข่าวในสมาชิกพรรคว่า หากไม่มีการปรับ ครม.ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้จะมี ส.ส.จำนวนหนึ่งย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย อาทิ กลุ่มของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรค ที่เคยพลาดเก้าอี้รัฐมนตรีใน ครม.อภิสิทธิ์ 1 ที่มี ส.ส.ในสังกัดร่วม 20 คน รวมไปถึงนายสกลธี ภัททิยกุล ส.ส.กทม.บุตรชายของ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีต เลขาธิการ คมช.นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวส.ส.ประชาธิปัตย์ในซีกที่ใกล้ชิดกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่านายไกรศักดิ์ ชุณหะวัน ส.ส.สัดส่วน และรองหัวหน้าพรรคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายสมเกียรติ พงศ์ไพบูลย์ ส.ส สัดส่วน หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคพันธมิตรที่เตรียมตั้งขึ้นมาใหม่

** “เฉลิมชัย-สกลธี-สมเกียรติ”ปัดย้ายพรรค
นายเฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าในหลักการไม่มีการย้ายพรรคแน่นอน เพราะตนร่วมพัฒนาพรรคนี้มานานกว่า 10 ปี ทำพื้นที่ทุกอย่างในจ.ประจวบคีรีขันธ์ จนกลายเป็นประจวบโมเดล พรรคเดียวทีมเดียวทั้งจังหวัด จะเปรียบไปแล้ว เหมือนการกินข้าว ถ้ามาถามว่าวันนี้กินข้าวกับอะไรตนก็ตอบได้ แต่ถ้ามาถามว่าพรุ่งนี้ หรือในอนาคตอีก 3-4 เดือนจะกินข้าวกันอะไร ก็ตอบไม่ได้ เพราะต้องเห็นกับข้าวก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าพูดเช่นนี้เป็นการสะท้อนนัยยะว่าอาจจะมีการย้ายในอนาคต หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ยืนยันผมไม่จำเป็นต้องย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ถ้าไปผมตั้งพรรคเองจะดีกว่า วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ก็ต้องช่วยกันประคับประคองรัฐบาลต่อไป
ด้านนายสกลธี ออกมายืนยันว่า ขณะนี้ยืนยันว่ายังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนตัวตกใจเหมือนกันว่ามีกระแสข่าวเรื่องการย้ายพรรคเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
ขณะที่ นายสมเกียรติ กล่าวว่า ได้ยินข่าวมาอย่างหนาหูเหมือนกันว่าจะมีส.ส. ย้ายพรรค แต่คงไม่เกี่ยวกับการปรับ ครม.แน่นอน เชื่อว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมือง ส่วนตัวขณะนี้ยังไม่ย้ายพรรคอย่างแน่นอน เพราะการตั้งพรรคพันธมิตรฯ ยังอีกยาวนาน และยังไม่รู้ว่าจะตั้งได้จริงหรือไม่

** “ประชา”นำทีมยันมีส.ส.ในกลุ่ม12คน
วันเดียวกัน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วย ส.ส.ในกลุ่ม ประกอบด้วย นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ม.ร.ว.กิตติวัฒนา ไชยยันต์ นายสมเกียรติ ศรลัมภ์ ส.ส.สัดส่วน และนพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน ร่วมกันแถลงถึงกรณีที่นายอลงกต มณีกาศ โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน ระบุว่า ส.ส.ในกลุ่ม พล.ต.อ.ประชา มีอยู่เพียง 3 คน
โดยพล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ส.ส.ในกลุ่มยังคงเหนียวแน่นอยู่ทั้ง 12 คน และมีจุดยืนว่าอยากให้รัฐบาลบริหารประเทศไปได้ด้วยดีและเกิดความสมานฉันท์ ตนไม่หวังตำแหน่ง แต่หากจะใช้บุคลากรในกลุ่มของตนเพื่อประโยชน์กับประชาชน ก็พร้อมสนับสนุน

**แนะปรับครม.มองคนในกลุ่มบ้าง
ด้านนพ.แวมาฮาดี กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า อยากเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ให้คำนึงถึงความรู้ความสามารถของคนในพรรคเพื่อแผ่นดินเป็นหลักด้วย ทั้งพล.ต.อ.ประชา นพ.วัลลภ และนายสมเกียรติ ที่มีความรู้ความสามารถ แต่รัฐบาลยังไม่ได้ใช้บุคลากรเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นก็น่าเป็นห่วงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ที่รัฐมนตรีไม่มีสิทธิโหวต
ด้านนพ.วัลลภ กล่าวว่า ไม่ว่ารัฐบาลจะปรับ ครม.ในทางใด กลุ่มตนพร้อมสนับสนุน ซึ่งพล.ต.อ.ประชาได้แสดงสปิริตว่า หากมีการปรับ ครม.จะไม่ขอรับตำแหน่ง และหากไม่ใช่งานที่ตนถนัด ตนจะไม่รับตำแหน่งเช่นกันเพราะในกลุ่มยังมีคนที่สามารถ ทำหน้าที่ได้ ทั้งนายสุรเดช ยะสวัสดิ์ นายสมเกียรติ และ น.พ.แวมาฮาดี เมื่อได้นายกรัฐมนตรีที่ตั้งใจทำงานแล้ว ก็อยากได้คณะรัฐมนตรีที่มีประสิทธิภาพด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น