xs
xsm
sm
md
lg

"ชาติชาย"เกาะเก้าอี้แน่น ส.ส.ปชป.อัดรมต.เหลิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ชาติชาย"แถลงน้ำตาคลอเบ้า ยันไม่ลาออก พร้อมร่ายยาวผลงานช่วง 4 เดือน เผยเคลียร์"นายกฯ-เชวรัตน์" แล้วได้รับคำแนะนำที่ดีมาก เสียงอ่อยถึงเวลาเหมาะสม จะตัดสินใจเองว่าอยู่หรือไป ด้าน"มาร์ค" ปัดข่าวลูกพรรคกดดันปรับ ครม. ยันยังไม่มีพรรคไหนส่งรายชื่อมา ส่วนประชุม ส.ส.ปชป.ซัดกันหนัก อัดรัฐมนตรีมองไม่เห็นหัว ส.ส. ไม่รับฟังการสะท้อนปัญหาของประชาชน เตือนรัฐบาลจะพังถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนที่เลือกพรรคมา ด้านรัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยพัฒนา และ ภูมิใจไทย ยังเกาะเก้าอี้แน่น ลั่นไม่มีใครมาบีบให้ปรับได้

เมื่อเวลา13.30 น.วานนี้ นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดแถลงข่าว ที่หลังจากมีกระแสข่าวจะถูกพรรคภูมิใจไทย เสนอให้นายกรัฐมนตรีปรับออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรฯ โดนในช่วงต้น นายชาติชาย ได้แถลงถึงผลการเจรจาขยายตลาดพืชผลทางการเกษตรไทย และความร่วมมือการสหกรณ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ว่ามีความสำเร็จด้วยดี
จากนั้นนายชาติชาย ได้กล่าวถึงการที่ตนจะถูกปรับออกจากครม.ว่า ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ตนดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ได้ตระหนักดีว่าบทบาทหน้าที่ในตำแหน่ง ที่ได้รับโปรดเกล้าฯเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องของการเกษตร ประชาชนร้อยละ 40 ของทั้งประเทศ เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม ตนพยายามที่จะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
โดยมีเป้าหมายหลักคือ พยายามให้พี่น้องเกษตรกร ได้ทำสามารถทำอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างสมบูรณ์และมั่งคั่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีโครงการหลายโครงการที่พยายามแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่ดินทำกิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานในการแก้ไขปัญหา ตนก็ได้ผลักดันโครงการนี้ตามความต้องการของพี่น้องเกษตรกรที่เดือดร้อน นายกรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติโครงการมาเรียบร้อย งบประมาณถูกบรรจุเข้าไปในงบประมาณประจำปีหน้าแล้ว ซึ่งมีบางส่วนได้รับการประสานจาก เลขา สปก.ว่า จะมีบางส่วนสามารถจัดให้กับพี่น้องเกษตรกรได้ในช่วงเดือนก.ค.นี้
นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่เราเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่จะต้องทำการกระจายสินค้าเกษตรของเราโดยเฉพาะ พืช ผัก ผลไม้ ไปสู่ต่างประเทศ เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่าย และจากการไปเจรจาที่เมืองจีน ก็ได้รับความสำเร็จมา ขณะนี้เรื่องผ่าน ครม.แล้ว คือเรื่องการเปิดเส้นทาง R9 ซึ่งเป็นเส้นทางที่ถูกปิดมาปีเศษ ตรงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกที่จะนำไปขายยังประเทศจีน จะทำให้สามารถขายสินค้าได้เร็วขึ้น อีกทั้งนโยบายที่ตนให้กับผู้บริหารของกระทรวง ในเรื่องการผลักดันให้สหกรณ์ไปเวทีโลก
"ถ้าจะถามผมว่า วันนี้ผมจะทำอย่างไร ผมกราบเรียนกับพี่น้องสื่อมวลชนว่า ผมได้ตะหนักถึงบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่ถูกที่ควรว่า ผมต้องทำอะไร ผมได้พยายามลงพื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นความเดือดร้อน ปัญหาของพี่น้องเกษตรกรด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นภาคใด ผมลงพื้นที่หมด เพื่อต้องการไปเห็น ไปจับความรู้สึก ไปเห็นหน้าตา ไปเห็นแววตา ไปฟังสำเนียงฟังความรู้สึกของเขาว่าเกิดปัญหาอะไร มีความทุกข์อะไร ซึ่งหลายอย่างได้รับทราบมา เราก็พยายามมาแก้ไขด้วยตนเอง และให้กรมต่างๆได้แก้ไขปัญหาเหล่านั้น"
นายชาติชาย กล่าวต่อว่า บทบาทหน้าที่ที่ตนได้รับนั้น ตนได้พยายามทำอย่างดีที่สุด บางครั้งอาจไม่ได้ไปนั่งฟังด้วยตนเอง แต่พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและเกิดการประหยัดเรื่องการเดินทาง ตรงนี้ถือว่าทำหน้าที่ไปได้พอสมควร
"ถามว่ายังอาจจะมีข้อตำหนิ หรือข้อบกพร่องบ้าง ก็อาจจะเป็นข้อเสนอแนะหรือข้อชี้นำ ของผู้ใหญ่หลายๆท่านที่จะช่วยชี้แนะต่อไป คิดว่าปัญหาเกษตรกรยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข ผมยังคงจะทำหน้าที่ของรมช.เกษตรฯ เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ จากพี่น้องเกษตรกรและแก้ไขปัญหาไปอีกสักระยะหนึ่ง" นายชาติชาย กล่าวโดยมีน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชาติชาย กล่าวว่า ผู้ใหญ่หลายๆท่าน ได้ให้คำชี้แนะ คำเสนอแนะหลายๆอย่าง นายกรัฐมนตรีก็ให้คำแนะนำมาพอสมควร ให้ทำงานให้ดีที่สุด ซึ่งผู้ใหญ่หลายๆ ท่านให้ข้อแนะนำมาดี
เมื่อถามว่า ได้มีการเคลียร์ใจ กับนายสรรอรรถ กลิ่นประทุม และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือยัง นายชาติชาย กล่าวว่า ผู้ใหญ่หลายท่านก็ให้คำแนะนำที่ดีมา
เมื่อถามว่าเดิมจะมีการยื่นหนังสือลาออก แต่ผู้ใหญ่แนะนำให้ระงับไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายชาติชาย กล่าวว่า ไม่อยากใช้คำถาม และคำตอบนี้ ตนบกพร่องอะไรหรือเปล่าในตำแหน่งหน้าที่รัฐมนตรี ตรงนี้ต้องกราบเรียนว่าได้พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วง เพราะตนไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง พยามทำหน้าที่ดีที่สุด จนถึงเวลาที่เหมาะสม ก็คงจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย หรือยัง นายชาติชาย กล่าวว่า ได้พูดคุยแล้ว ได้ให้ข้อแนะนำที่ดี ชี้แนะมาก็รับฟัง เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่าไม่ใช่คนในพรรค นายชาติชาย กล่าวว่า ตนได้ทำความเข้าใจกับนายชวรัตน์ เรียบร้อยแล้ว และได้ให้คำแนะนำที่ดีมาก เมื่อถามว่าหากพรรคยืนยันจะปรับออก นายชาติชาย กล่าวว่า ขอให้เป็นดุลพินิจของผู้ใหญ่ หรือนายกรัฐมนตรี

ยังไม่มีรายชื่อปรับครม.ถึงนายกฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่พรรคภูมิใจไทย ต้องการเปลี่ยนตัวรมช.เกษตรฯว่า ยังไม่มีการเสนอมา และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆก็ไม่ได้เสนอมา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องการให้ปรับในส่วนของพรรคด้วยนั้น ตนเห็นแต่ในหนังสือพิมพ์
" ผมไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร เพียงแต่บอกว่าโดยกติกาการทำงาน ถ้าพรรคการเมืองไหนมีข้อเสนอจะเปลี่ยนแปลงก็เป็นเรื่องภายในของเขา มีเหตุผลรองรับในเรื่องการทำงาน ก็สามารถเสนอมาได้เท่านั้นเอง แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครเสนอมา" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ ส่วนกระแสข่าวว่า ส.ส.หน้าใหม่ของพรรคกว่า 40 คน เสนอให้ปรับครม.ด้วยนั้น ไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน เพราะไม่มี ส.ส.ของพรรคมาคุยกับตนในเรื่องนี้ ตอนนี้ภายในพรรคทุกอย่างเรียบร้อยดี เพราะตามปกตินั้น หากมีใครบ่นเรื่องในพรรคก็จะมาบ่นกับตน เพราะตนเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนอยู่แล้ว
เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่า ครม.เศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ ทำงานไม่ได้เรื่อง นายสุเทพ ยิ้มและกล่าวว่า แหม! แรงจังเลย รัฐมนตรีเศรษฐกิจของพรรคที่ช่วยงานนายกฯ มี 2 คน คือนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ และนายกรณ์ จาติกวณิช ซึ่งตนว่าทั้ง 2 คนก็ทำงานได้ดี เพียงแต่ว่าการประสานงานกันบางทีอาจตะกุก ตะกักบ้าง เพราะแปลความหมายของคำพูดผิดไปบ้าง และหากให้ประเมินนั้น ตนคิดว่า เขายังดีอยู่
เมื่อถามว่าในการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่ละพรรคให้ข้อแนะนำและความเห็น ในการทำงานร่วมกับนายกอร์ปศักดิ์ และนายกรณ์ไว้อย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ก็มีบ้างเป็นธรรมดาเพราะคนทำงานด้วยกันก็ต้องมีคนสะท้อนความเห็นมา ตนยังโดนคนต่อว่ามาเยอะแยะ เลยก็นำมาปรับปรุง
นายสุเทพกล่าวด้วยว่า ตลอดเวลา 4 เดือนเศษที่ผ่านมา ตนเห็นว่ารัฐมนตรีของพรรค ทำงานได้น่าพึงพอใจ แม้แต่คนที่ถูกพูดถึงว่าควรปรับออกอย่าง นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม หากให้ตนไปทำงานตรงนั้น ตนคิดว่าคงทำได้ยากมาก แต่นายธีระ ก็ทำได้ดี และถูกใจหลายเรื่อง ส่วนคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นั้น ตนคิดว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงนี้ คงไม่มีใครในพรรคเหมาะสมเท่าคุณหญิงกัลยา ขอยืนยัน ส่วนนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ก็ไม่มีเรื่องที่หย่อนยาน แต่พลาดท่าเสียทีนิดเดียวในการไปจับซีดี และสินค้าลิขสิทธิ์ ที่พัฒน์พงศ์ ก็ได้ปรับปรุงวิธีทำงานแล้ว ตนพูดกับนายอลงกรณ์ แล้วว่าไม่ควรไปจับแม่ค้า แต่ควรไปจับโรงงาน โดยนายอลงกรณ์ ก็เข้าใจและไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนกรณีนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นั้นหากไม่ยึดโยงกรณีที่นายกษิต เคยขึ้นเวทีคนเสื้อเหลือง ตนคิดว่านายกษิต ทำงานได้ดีมาก และเป็นกำลังสำคัญของรัฐบาล เพราะมันไม่ง่ายสำหรับเวลาตอนนี้ที่จะหาคนมาช่วยงาน นายกรัฐมนตรีในด้านงานต่างประเทศ และนายกษิต ก็ถือเป็นลูกหม้อกระทรวงนี้จริงๆ เพราะเป็นเอกอัครราชทูตประเทศสำคัญๆ หลายประเทศ และใกล้ชิดสนิทสนมกับนักการทูตประเทศต่างๆด้วย และการที่นายกษิต ได้เข้ามานั่งตำแหน่งนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นคนเลือกเองโดยไม่มีแรงผลักดันของใครเลย
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะดึงกลุ่ม 12 ส.ส.ของพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน มาร่วมรัฐบาลด้วย นายสุเทพ กล่าวว่าได้ยินข่าวนี้เช่นกัน แต่ข่าวก็คือข่าว และตนกับพล.ต.อ.ประชา ยังไม่เคยคุยกันในเรื่องนี้เลย
"หากรัฐบาลมีเสียงเพิ่มขึ้น ก็ดี แต่มันมีเงื่อนไขอื่นที่ไม่ใช่แค่จำนวนส.ส.เพียงอย่างเดียว เพราะตอนที่ผมไปเชิญพรรคต่างๆ มาร่วมตั้งรัฐบาลนั้น ก็ตกลงกันแล้ว และทุกอย่างจบแล้ว มันต้องเดินไปตามนั้น เว้นแต่ว่าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างมาก เช่น ยุบพรรคนั้นก็ต้องมาคุยกันใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรื่องภายในของพรรคต่างๆ หากเห็นความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรี ก็มาเรียนให้นายกฯ ทราบได้"นายสุเทพ กล่าว

ส.ส.อัดรัฐมนตรีกลางที่ประชุม
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุม ส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุม และมีรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมประชุมกันโดยพร้อมเพรียง รวมทั้งรัฐมนตรีที่มีชื่อเป็นข่าวว่าจะถูกปรับออก อาทิ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายกรณ์ จาติกวณิชย์ รวม.คลัง คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความเห็นอย่างเต็ม เพื่อสะท้อนปัญหา และการทำงานของรัฐมนตรีในรัฐบาล
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงหนึ่ง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า อยากให้รัฐมนตรีได้ทำงานใกล้ชิดกับสมาชิกพรรคมากขึ้น และมีอะไรก็นำมาบอกกับส.ส.พรรค เพื่อที่จะได้นำความคืบหน้าไปบอกกับประชาชนในพื้นที่ เพราะที่ผ่านรัฐมนตรีห่างเหินกับสมสชิกพรรคเป็นอย่างมาก และบางคนไม่ยอมเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น และการสะท้อนปัญหาของส.ส.ในพื้นที่ จึงทำให้การทำงานของรัฐมนตรีไม่ตรงจุด และขาดประสิทธิภาพ
ช่วงหนึ่งนายเฉลิมชัย ถึงกันระบุว่า เข้าใจว่ารัฐมนตรีหลายคนห่างเหินจากการเป็นรับมนตรีมานาน จึงยังไม่เข้าใจ และบางคนอาจจะเหลิงกับอำนาจหน้าที่ จึงอยากให้ลองฟังความเห็นของพรรค ของ ส.ส.ในระเขตเลือกตั้งบ้าง เพราะส.ส.เป็นความหวังของประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นปัญหาของประชานที่สะท้อนผ่านส.ส.มา ต้องได้รับการแก้ไข เพราะเป็นส.ส.รัฐบาล สุดท้ายแล้วจะกลายเป็นความผูกพันที่ชาวบ้านจะเป็นฐานให้ ส.ส. และจะทำให้ ส.ส.อยู่ได้ แต่ถ้า ส.ส.เขตไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก็ขอให้คิดว่า จะเป็นรัฐบาลไปทำไม
"ก่อนมาอยู่พรรคนี้ผมเรียนรู้มาว่าคนเราถ้าลงเรือลำเดียวกันแล้ว หากมันเกิดอะไรกับเรือลำนี้ ทุกคนก็ตายหมด แต่พอเมื่อมาอยู่ที่นี่แล้ว ผมก็เรียนรู้เพิ่มเติมอีกว่า ในบางกรณี ถ้าเรือล่มมันก็ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องตายหมด เพราะบางคนก็สามารถว่ายน้ำเอาตัวรอดได้ ซึ่งผมไม่อยากเป็นอย่างนั้น" แหล่งข่าวอ้างคำพูดของนายเฉลิมชัย
นายเฉลิมชัย ยังระบุด้วยว่า การพูดครั้งนี้ไม่ใช่เพราะอยากเป็นรัฐมนตรี แต่พูดเพื่อเป็นการรักษาพรรค สะท้อนให้ผู้บริหารพรรครู้ ความจริง ในพรรคมีคนอยากรัฐมนตรีมาก ความอยากของตนน้อยที่สุดในบรรดาของคนที่มีรายชื่ออยากเป็นรัฐมนตรี แต่ที่พูดเพื่อให้รัฐบาลอยู่ได้ พรรคก็ต้องอยู่ได้ ไม่ใช่รัฐบาลอยู่ได้ แต่พรรคอยู่ไม่ได้ การที่ตนพูดครั้งนี้ เพราะเห็นว่า ในพรรคมีคนเก่งมาก แต่ไม่มีคนกล้า ซึ่งตนอาจจะพูดมากจนคนในพรรคมองว่าตนเป็นกบถในพรรคไปแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่นายเฉลิมชัยพูดจบ สมาชิกพรรคต่างปรบมือ แสดงความพอใจที่มีคนกล้าสะท้อนปัญหา และกล้าพูดกับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีแบบตรงๆ ถึงขนาดนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ระบุ ว่าเป็นการดีที่ ส.ส.กล้าสะท้อนปัญหาให้กับผู้บริหารได้รับรู้ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหา หากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะมีสมาชิกพูดแบบนี้เรื่อยๆ
ในการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีในโควตาของพรรค ยังได้รายงานผลการทำงานให้ สมาชิกพรรคได้รับทราบ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่เป็นงานรูทีน ทั้งสิ้น นอกจากนี้ส.ส.ส่วนใหญ่ ยังได้แสดงความเป็นห่วงเรื่อง พ.ร.ก.กู้เงิน ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย การทำงานในสภาที่มีเสียงปริ่มน้ำ และพรรคฝ่ายค้านป่วนการประชุม
หลังจากสมาชิกได้แสดงความเห็นเสร็จ นายอภิสิทธิ์ กล่าวในที่ประชุมว่า อยากให้รัฐมนตรีทุกคนเข้ามาร่วมประชุม เพื่อจะได้รับฟังการสะท้อนปัญหาของส.ส.ในพื้นที่ เพื่อที่รัฐมนตรีจะได้นำไปปรับปรุงการทำงานให้ตรงกับปัญหาของแต่ละพื้นที่ ขนาดตนเป็นนายกรัฐมนตรี มีงานเป็นจำนวนมาก ก็ยังมีเวลาเข้าร่วมประชุมด้วย จึงอยากให้ รัฐมนตรีทุกคนได้ตระหนัก และเข้าร่วมประชุมพรรคอย่างพร้อมเพียง
หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น สมาชิกพรรคบางคน ถึงกับร้องเพลงล้อเลียนการทำงานภายในพรรคว่า "คนที่ไม่มีตังค์ ทำพังทุกเรื่องก็ได้ เหนื่อยนักทำงานเป็นส.ส. แต่ไม่ได้อะไรเลย อย่าคิดว่าอยู่อย่างนี้แล้วจะไม่ ถึงเวลาแล้วไปทั้งพวง..."

ชาติไทยพัฒนาไม่ปรับใคร
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่าในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา รัฐมนตรีทุกคนยังอยู่ตามปกติ ทุกคนทำงานได้ดี ยังไม่คิดที่จะปรับครม. หากพรรคอื่นจะปรับก็ถือเป็นสิทธิ ก็จัดการทำไปเอง ซึ่งอำนาจสุดท้ายขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี และไม่จำเป็นต้องเรียกประชุมพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯได้แสดงสปิริตว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนอยากจะปรับ ก็พร้อมให้ความร่วมมือ ถือเป็นเจตนาที่ดีของนายกฯเพื่อแก้ไขปัญหา
นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ตนคิดว่ายังไม่ถึงเวลาปรับครม. แต่บังเอิญมีกรณี นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรฯ ซึ่งเป็นโควต้าของพรรคภูมิใจไทย ที่กำลังมีปัญหากันอยู่ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการปรับเล็ก ไม่ได้ปรับทั้งชุด แต่ถ้าจะเอาแบบปรับชุดใหญ่ ก็ต้องให้โอกาสรัฐมนตรีทั้งหมดทำงานก่อน

เพื่อแผ่นดินยังเกาะเก้าอี้แน่น
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรื่อง รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวยืนยันว่าในส่วนของพรรค ยังไม่มีการปรับรัฐมนตรีอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาทำงานกันได้อย่างเหนียวแน่น และมีผลงาน จึงยังไม่คิดเรื่องปรับเปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น
ส่วนโควต้าของพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก 4 คน ก็มีการเชิญมาร่วมประชุมพรรคอยู่แล้ว มาทำงานเพื่อชาติ หมดเวลาแล้วที่จะไปอยู่ข้างนอก เพราะถ้ามาทำงานร่วมกัน เราก็คงจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอีก แต่ทั้งนี้ก็สุดแล้วแต่พรรคแกนนำของรัฐบาล
เมื่อถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ต้องการซื้อใจทั้ง 4 คน และให้โควตา จะทำให้มาเบียดโควตาของพรรคหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่ามันคงจะเป็นอย่างนั้นไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.ประชา หรือเป็นใครก็เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ทำการพรรคก็มีแห่งเดียว การประชุมของสมาชิกก็ต้องร่วมประชุมในฐานะเป็นผู้แทนราษฎร และเป็นสมาชิกของพรรค ฉะนั้น จะไปเจรจากับใครอื่นนั้นไม่ได้ จะต้องเป็นความเห็นของพรรคเท่านั้น
เมื่อถามว่าถ้านายสุเทพ มาบีบให้กลุ่มของพล.ต.อ.ประชา เข้ามาเป็นรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า จะเป็นใครก็บีบไม่ได้ เราเป็นพรรคเพื่อแผ่นดิน จะเป็นใครจะมากดดันเราไม่ได้ เรามีอิสระ สิทธิในการบริหารจัดการพรรคของเรา
เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ส.กลุ่มวังพญานาค เสนอเปลี่ยนตัว นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ไม่มีหรอกครับ นพ.พฤฒิชัย เป็นคนมีความตั้งใจสูง และก็มีผลงานด้วย ดังนั้นเราไม่มีแนวความคิดที่จะปรับเปลี่ยน เพราะเราคัดสรรคนมามีความเหมาะสมแล้ว
เมื่อถามว่า น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ ก็มาในโควตาเพื่อแผ่นดิน แต่ส.ส.กลุ่มภูมิใจไทย ก็ไปประชุมกับพรรคภูมิใจไทยแล้วจะมีการเอาโควต้านี้คืนหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ตนเรียนว่าตนเป็นผู้ใหญ่ของพรรค ตนอยากจะเรียนว่า มีอะไรก็มาคุยกัน ส่วนน.ส.นริศรา จะทำอย่างไรนั้น ตนถือว่าเป็นสมาขิกของพรรคในโควต้าของพรรคเพื่อแผ่นดิน
เมื่อถามว่า น.ส.นริศราได้เข้าร่วมประชุมพรรคบ้างหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า "คุณนริศราไม่เคยเข้าร่วมประชุม" เมื่อถามว่าจะเข้ากรณีเหมือน นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรฯ ของพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า อันนั้นพรรคเพื่อแผ่นดินไม่ได้คิด เพราะเรื่องของพรรคเราจะไม่เทียบเคียงกัน และแต่ละพรรคมีมาตรฐานของตนเอง แต่พรรคเราเปิดโอกาสให้คนทุกคนมาทำงานเพื่อชาติ
เมื่อถามย้ำว่า จะไม่มีการเอาโควตาคืนใช่หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า " อันนี้เป็นเรื่องที่เราจะต้องคุยกันเจรจากันต่อไป เราก็ทำงานต่อไปได้ โนพลอมแพลม"
เมื่อถามว่าถ้ามีการปรับจริงๆ มีการเตรียมคนนอกไว้บ้างหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ของเรามีคนพร้อมที่จะเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น เพราะพรรคของเรามีบุคคลสำคัญ มีคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่ขอย้ำว่า เพื่อแผ่นดินไม่ได้คิดเรื่องของการปรับ และใครจะมายุ่งก็ไม่ได้
เมื่อถามว่ามีการพูดว่า 6 เดือนปรับ นายชาญชัย กล่าวว่า อันนั้นใครพูดไม่รู้ แต่เราไม่มีเงื่อนเวลา เพราะทุกคนมีผลงาน และประชาชนให้คำตอบอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น