กระบี่ -ผู้ประกอบการบางรายในกระบี่-เกาะลันตา เริ่มทยอยปิดโรงแรม หลังท่องเที่ยวเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซีนจากที่ยุโรปกลับประเทศหมดทำอัตราเข้าพักน้อยมาก บางแห่งถึงขั้นปิดปรับปรุงทั้งโรงแรม นายกสมาคมโรงแรมเร่งเครื่องโหมประชาสัมพันธ์ โครงการเที่ยวบาดตาราคาบาดใจดึงคนไทยเสริมช่วงหน้าฝน
นางพัชรา พูลโภคผล นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่เริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนตุลาคม ของทุกปี ซึ่งในช่วงนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของจังหวัดกระบี่ อย่างสแกนดิเนเวีย และยุโรป จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวน้อยมาก ผู้ประกอบการบางรายต้องปิดกิจการชั่วคราว เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็จะเป็นสถานประกอบการเล็กๆมีห้องพักไม่กี่ห้อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นสถานประกอบการ อ.เกาะลันตา ขณะที่บางรายที่ยังเปิดกิจการก็จะปรับลดวันการทำงานของพนักงาน เพื่อให้กิจการอยู่ได้จนเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวใหม่
นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ในช่วงหน้าโลว์ซีซัน แต่ละโรงแรมก็เริ่มมองถึงตลาดคนไทยมากขึ้น และจากโครงการ “เที่ยวบาดตาราคาบาดใจ” ก็ยังเป็นที่ถูกใจของนักท่องเที่ยวอยู่ โดยสมาคมฯได้เล็งกลุ่มจัดประชุมสัมมนาว่า จะทำอย่างไรที่จะดึงคนกลุ่มนี้เข้ามาจังหวัดกระบี่ให้มากที่สุด เพื่อมุ่งหวังให้คนไทยเที่ยวไทยด้วยกันเอง ซึ่งสมาคมฯจะเร่งประชาสัมพันธ์ด้านนี้ในทุกๆทาง ในขณะเดียวกันโรงแรมหลายแห่ง ที่เห็นว่า หลังจากทำประชาสัมพันธ์ ทำการตลาดเต็มที่แล้วแขกไม่มา ก็จะถือโอกาสนี้ปรับปรุงโรงแรม และก็ขณะเดียวกันจะจัดฝึกอบรมพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
“จากการได้สอบถามแต่ละโรงแรมก็อุ่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า แต่ละโรงแรมจะไม่มีการเลิกจ้างพนักงานเลย ที่มีปัญหาบ้างก็จะเป็นผู้ประกอบการที่เกาะลันตา รายเล็กๆส่วนโรงแรมใหญ่ๆคงจะไม่เลิกจ้างพนักงาน เพราะเขาทราบว่า พนักงานบริการพนักงานโรงแรมหายาก เพราะฉะนั้นถ้าเขาเลิกจ้างตอนนี้รับรองว่าในช่วงไฮซีซัน เขาจะคัดเลือกไม่ได้ เพราะฉะนั้นเข้าใจว่าการเลิกจ้างคงจะไม่มี หรือมีก็น้อยลง แต่จากทุกๆแหล่งท่องเที่ยวที่ได้สอบถามแล้วไม่มีการเลิกจ้างเลย”
นางพัชรา กล่าวด้วยว่า โรงแรมและสถานที่พักในจังหวัดกระบี่มีประมาณ 470 กว่าโรง มีห้องพักทั้งหมด 15,000 ห้อง ตลอดปีที่ผ่านมามีห้องพักเพิ่มขึ้นอีกประมาณสัก 2,000 ห้อง เป็นโรงแรมสร้างใหม่ ประมาณ 10- 15 โรง ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมเก่าๆที่เขาเพิ่มห้องพักขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประมาณ 30 -40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ประกอบการก็ยังพอเลี้ยงตัวเองต่อไปได้ แต่หลังจากนี้ไป ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และโรคระบาดรุมเร้า ก็ไม่สามารถคาดการณ์อะไรที่แน่ชัดได้
นางพัชรา พูลโภคผล นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่เริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนตุลาคม ของทุกปี ซึ่งในช่วงนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของจังหวัดกระบี่ อย่างสแกนดิเนเวีย และยุโรป จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวน้อยมาก ผู้ประกอบการบางรายต้องปิดกิจการชั่วคราว เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็จะเป็นสถานประกอบการเล็กๆมีห้องพักไม่กี่ห้อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นสถานประกอบการ อ.เกาะลันตา ขณะที่บางรายที่ยังเปิดกิจการก็จะปรับลดวันการทำงานของพนักงาน เพื่อให้กิจการอยู่ได้จนเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวใหม่
นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ในช่วงหน้าโลว์ซีซัน แต่ละโรงแรมก็เริ่มมองถึงตลาดคนไทยมากขึ้น และจากโครงการ “เที่ยวบาดตาราคาบาดใจ” ก็ยังเป็นที่ถูกใจของนักท่องเที่ยวอยู่ โดยสมาคมฯได้เล็งกลุ่มจัดประชุมสัมมนาว่า จะทำอย่างไรที่จะดึงคนกลุ่มนี้เข้ามาจังหวัดกระบี่ให้มากที่สุด เพื่อมุ่งหวังให้คนไทยเที่ยวไทยด้วยกันเอง ซึ่งสมาคมฯจะเร่งประชาสัมพันธ์ด้านนี้ในทุกๆทาง ในขณะเดียวกันโรงแรมหลายแห่ง ที่เห็นว่า หลังจากทำประชาสัมพันธ์ ทำการตลาดเต็มที่แล้วแขกไม่มา ก็จะถือโอกาสนี้ปรับปรุงโรงแรม และก็ขณะเดียวกันจะจัดฝึกอบรมพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
“จากการได้สอบถามแต่ละโรงแรมก็อุ่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า แต่ละโรงแรมจะไม่มีการเลิกจ้างพนักงานเลย ที่มีปัญหาบ้างก็จะเป็นผู้ประกอบการที่เกาะลันตา รายเล็กๆส่วนโรงแรมใหญ่ๆคงจะไม่เลิกจ้างพนักงาน เพราะเขาทราบว่า พนักงานบริการพนักงานโรงแรมหายาก เพราะฉะนั้นถ้าเขาเลิกจ้างตอนนี้รับรองว่าในช่วงไฮซีซัน เขาจะคัดเลือกไม่ได้ เพราะฉะนั้นเข้าใจว่าการเลิกจ้างคงจะไม่มี หรือมีก็น้อยลง แต่จากทุกๆแหล่งท่องเที่ยวที่ได้สอบถามแล้วไม่มีการเลิกจ้างเลย”
นางพัชรา กล่าวด้วยว่า โรงแรมและสถานที่พักในจังหวัดกระบี่มีประมาณ 470 กว่าโรง มีห้องพักทั้งหมด 15,000 ห้อง ตลอดปีที่ผ่านมามีห้องพักเพิ่มขึ้นอีกประมาณสัก 2,000 ห้อง เป็นโรงแรมสร้างใหม่ ประมาณ 10- 15 โรง ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมเก่าๆที่เขาเพิ่มห้องพักขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประมาณ 30 -40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ประกอบการก็ยังพอเลี้ยงตัวเองต่อไปได้ แต่หลังจากนี้ไป ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และโรคระบาดรุมเร้า ก็ไม่สามารถคาดการณ์อะไรที่แน่ชัดได้