สมุย ทำเลทอง โรงแรมตบเท้าผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเชนใหญ่ระดับ 6 ดาวอย่าง ดับเบิลยู และนักลงทุนท้องถิ่น เหตุยอดนักท่องเที่ยวไม่มีตก เกาหลีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ “เดสทิเนชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา” มั่นใจ เปิดตัวเป็นทางการในอีก 2 เดือน เชื่อยอดพัก 60% แน่ คุ้มทุนใน 6 ปี
นางพิไลวรรณ ชวาลรัตน์ เจ้าของและกรรมการผู้จัดการ โรงแรม เดสทิเนชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย เปิดเผยว่า เกาะสมุย ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โชคดี เพราะไม่ว่าประเทศไทยจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมืองในประเทศ และปัญหาเศรษฐกิจโลก รวมถึงไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น ก็ไม่ได้ทำให้เกาะสมุยได้รับผลกระทบแต่อย่างไร
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวที่มาเกาะสมุย จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ระดับไฮเอนด์ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุโรป อย่าง อังกฤษ เยอรมัน ซึ่งพอถึงช่วงโลว์ซีซัน (มี.ค.-มิ.ย.) ที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กลับไป ก็จะเป็นช่วงไฮซีซันของทางเกาหลีที่จะมาพักที่เกาะสมุยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคู่แต่งงานใหม่ ที่มีมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้จากจำนวนห้องพักในเกาะสมุยที่รวมแล้วมีประมาณ 10,000 กว่าห้อง ถือว่ายังน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา โดยเฉลี่ยต่อวันสูงสุดอยู่ที่ 2,000-2,500 คน ต่อวัน (ข้อมูลจากจำนวนเที่ยวบิน) ขณะที่ในช่วงโลว์ซีซันอยู่ที่ 1,500-1,600 คน ต่อวัน ส่งผลให้เกาะสมุย จึงยังคงมีการลงทุนด้านการโรงแรม อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมระดับ 5 -6 ดาว ที่เป็นเชนระดับโลกอย่าง บีทู หรือ ดับเบิลยู รวมถึงบันยันทรี ซึ่งแต่ละโครงการมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีกว่า 5-6 โครงการ ที่จะเปิดให้บริการ 1-2 ปี หลังจากนี้ ขณะเดียวกันในกลุ่มนักลงทุนท้องถิ่นก็มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดยในส่วนของ เดสทิเนชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา ได้ลงทุนราว 450 ล้านบาท ซึ่งได้วางแผนในการลงทุนมากว่า 1-2 ปี บนพื้นที่ 6 ไร่ บริเวณหาดปลายแหลม เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่เน้นบริการแบบ 5 ดาว จำนวนห้องพักรวม 66 ห้อง โดยจำนวนดังกล่าวเป็นวิลล่า 10 ห้อง ราคาห้องพักที่ 7,000-8,000 บาท ต่อคืน ทดลองเปิดให้บริการมา 2 เดือน ได้รับการตอบรับที่ดี และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในอีก 2 เดือนข้างหน้า
ในส่วนของการทำตลาด และดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาพักนั้น จะเน้นขายแบบเหมา ผ่านทางเอเย่นต์ทั้งในและต่างประเทศ โดยทำสัญญากันแบบปีต่อปี เชื่อว่าหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะมีการเข้าพักที่ 60% ของจำนวนห้องก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ในฐานะที่เป็นโรงแรมเปิดใหม่ ซึ่งหากจำนวนนักท่องเที่ยวยังเดินทางมาเที่ยวเกาะสมุยอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะคุ้มทุนภายใน 6 ปี ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากปกติธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุย ส่วนใหญ่จะคุ้มใน 4 ปี
ล่าสุดในฐานะที่เดสทิเนชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นสมาชิกของกลุ่มกรีนไอแลนด์ จากการรวมตัวของหลายองค์กรบนเกาะสมุย เพื่อร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมกับทางไทยทีวีสีช่อง3 และพันธมิตรอีกหลายรายทั้ง ปูนซีเมนต์นครหลวง สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ร่วมกันจัดสร้างฝายจำนวน 80 ฝายขึ้น เพื่อช่วยชะลอน้ำ เพื่อใช้ในการสาธารณูประโภคต่อไป เนื่องจากปัจจุบันเกาะสมุย มีปัญหาขาดแคลนน้ำ เพราะมีจำนวนประชาชนที่ต้องการใช้น้ำมากกว่าน้ำที่มีอยู่ ดังนั้นจึงต้องช่วยกันรักษาแหล่งน้ำไว้ใช้
นางพิไลวรรณ ชวาลรัตน์ เจ้าของและกรรมการผู้จัดการ โรงแรม เดสทิเนชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย เปิดเผยว่า เกาะสมุย ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โชคดี เพราะไม่ว่าประเทศไทยจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมืองในประเทศ และปัญหาเศรษฐกิจโลก รวมถึงไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น ก็ไม่ได้ทำให้เกาะสมุยได้รับผลกระทบแต่อย่างไร
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวที่มาเกาะสมุย จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ระดับไฮเอนด์ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุโรป อย่าง อังกฤษ เยอรมัน ซึ่งพอถึงช่วงโลว์ซีซัน (มี.ค.-มิ.ย.) ที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กลับไป ก็จะเป็นช่วงไฮซีซันของทางเกาหลีที่จะมาพักที่เกาะสมุยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคู่แต่งงานใหม่ ที่มีมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้จากจำนวนห้องพักในเกาะสมุยที่รวมแล้วมีประมาณ 10,000 กว่าห้อง ถือว่ายังน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา โดยเฉลี่ยต่อวันสูงสุดอยู่ที่ 2,000-2,500 คน ต่อวัน (ข้อมูลจากจำนวนเที่ยวบิน) ขณะที่ในช่วงโลว์ซีซันอยู่ที่ 1,500-1,600 คน ต่อวัน ส่งผลให้เกาะสมุย จึงยังคงมีการลงทุนด้านการโรงแรม อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมระดับ 5 -6 ดาว ที่เป็นเชนระดับโลกอย่าง บีทู หรือ ดับเบิลยู รวมถึงบันยันทรี ซึ่งแต่ละโครงการมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีกว่า 5-6 โครงการ ที่จะเปิดให้บริการ 1-2 ปี หลังจากนี้ ขณะเดียวกันในกลุ่มนักลงทุนท้องถิ่นก็มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดยในส่วนของ เดสทิเนชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา ได้ลงทุนราว 450 ล้านบาท ซึ่งได้วางแผนในการลงทุนมากว่า 1-2 ปี บนพื้นที่ 6 ไร่ บริเวณหาดปลายแหลม เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่เน้นบริการแบบ 5 ดาว จำนวนห้องพักรวม 66 ห้อง โดยจำนวนดังกล่าวเป็นวิลล่า 10 ห้อง ราคาห้องพักที่ 7,000-8,000 บาท ต่อคืน ทดลองเปิดให้บริการมา 2 เดือน ได้รับการตอบรับที่ดี และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในอีก 2 เดือนข้างหน้า
ในส่วนของการทำตลาด และดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาพักนั้น จะเน้นขายแบบเหมา ผ่านทางเอเย่นต์ทั้งในและต่างประเทศ โดยทำสัญญากันแบบปีต่อปี เชื่อว่าหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะมีการเข้าพักที่ 60% ของจำนวนห้องก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ในฐานะที่เป็นโรงแรมเปิดใหม่ ซึ่งหากจำนวนนักท่องเที่ยวยังเดินทางมาเที่ยวเกาะสมุยอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะคุ้มทุนภายใน 6 ปี ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากปกติธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุย ส่วนใหญ่จะคุ้มใน 4 ปี
ล่าสุดในฐานะที่เดสทิเนชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นสมาชิกของกลุ่มกรีนไอแลนด์ จากการรวมตัวของหลายองค์กรบนเกาะสมุย เพื่อร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมกับทางไทยทีวีสีช่อง3 และพันธมิตรอีกหลายรายทั้ง ปูนซีเมนต์นครหลวง สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ร่วมกันจัดสร้างฝายจำนวน 80 ฝายขึ้น เพื่อช่วยชะลอน้ำ เพื่อใช้ในการสาธารณูประโภคต่อไป เนื่องจากปัจจุบันเกาะสมุย มีปัญหาขาดแคลนน้ำ เพราะมีจำนวนประชาชนที่ต้องการใช้น้ำมากกว่าน้ำที่มีอยู่ ดังนั้นจึงต้องช่วยกันรักษาแหล่งน้ำไว้ใช้