“ชุมพล” ไม่หนำใจ สั่งทุกหน่วยงานในกระทรวงการท่องเที่ยวฯชงตัวเลขของบประมาณประจำปี 2553 อีกครั้งสัปดาห์หน้า หวังบีบรัฐบาลรีดงบเพิ่ม เหตุ ครม.หั่นงบไม่ไว้หน้าเหลือ 11,622 ล้านบาท จากที่ยื่นขอกว่า 28,000 ล้านบาท ด้านสพท.หน้าแตกโดนตัดงบพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเกลี้ยง ส่วนททท.ได้ 4,560 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 2.22%
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯไปปรับปรุงตัวเลขงบประมาณมาเสนอใหม่ โดยหากคิดว่าโครงการใดเร่งด่วนก็ให้ชี้แจงเพื่อจะได้ยื่นเหตุผลในการเสนอของบประมาณ
ขณะที่โครงการใดยังไม่จำเป็นก็ให้ปรับลดเพื่อให้เพียงพอกับตัวเลขงบประมาณปี 2553 ที่กระทรวงจะได้รับจัดสรรมา โดยนายชุมพล จะนำตัวเลขงบประมาณที่จะขอเพิ่มเติมนี้เข้าหารือในที่ประชุมครม.ในวันนี้(14 พ.ค.)ก่อนนำเข้าพิจารณาอย่างเป็นทางการในที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้เพราะล่าสุดคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เห็นชอบเบื้องต้นในกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2553 ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯที่ 11,622 ล้านบาท ลดลงจากปี 2552 ประมาณ 636 ล้านบาท หรือราว 5.19% จากที่เสนอขอไป 28,000 ล้านบาท โดยในส่วนของสำนักงานปลัดได้รับจัดสรร 674 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน17% โดยถูกปรับลดในส่วนของงบลงทุน เช่นการสร้างอาคาร สร้างสนามกีฬา เป็นต้น
ส่วนสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) ได้รับจัดสรร 704 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 10% โดยในส่วนของสพท.ที่ยื่นเสนอของบเพื่อใช้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดเกือบ 4,000 ล้านบาทถูกตัดออกทั้งหมด เหลือเพียง 18 ล้านบาทเพื่อใช้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเท่านั้น สำหรับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เป็นหน่วยงานเดียวของกระทรวงการท่องเที่ยวฯที่ได้รับจักสรรงบประมาณปี 2553 เพิ่มขึ้น คือได้ 4,560 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 2.22% โดยตั้งขอไปทั้งสิ้น 10,066 ล้านบาท
นางสาวศศิธารา กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานปลัด คาดว่าจะขอให้ ครม.พิจารณาเพิ่มวงเงินงบประมาณปี 2553 ในส่วนของโครงการศึกษาการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.ภูเก็ต เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินหน้าโครงการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว สำหรับงบประมาณที่ถูกตัดทิ้งของสำนักงานปลัดได้แก่ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มเยาวชน คนพิการ และผู้สูงอายุ วงเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2552 ที่ได้เริ่มโครงการเฟสแรกไปแล้วด้วยวงเงินงบประมาณที่ 153 ล้านบาท สำหรับพาเยาวชน ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ ท่องเที่ยวฟรี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศและถือเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ทางตรง
อย่างไรก็ตาม กรอบเบื้องต้นของตัวเลขงบประมาณปี 2553 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวจะได้รับจัดสรรดังกล่าวมาข้างต้นนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวก็พอใจ เพราะในภาวะที่รัฐบาลต้องควบคุมรายจ่าย และทุกกระทรวงก็ถูกปรับลดงบประมาณทั้งสิ้น ก็ถือว่ากระทรวงการท่องเที่ยวถูกปรับลดจากปีก่อนในตัวเลขที่ไม่มาก ขณะที่ททท.ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมท่องเที่ยวโดยตรงก็ยังได้เพิ่มขึ้น สะท้อนว่ารัฐบาลยังเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯไปปรับปรุงตัวเลขงบประมาณมาเสนอใหม่ โดยหากคิดว่าโครงการใดเร่งด่วนก็ให้ชี้แจงเพื่อจะได้ยื่นเหตุผลในการเสนอของบประมาณ
ขณะที่โครงการใดยังไม่จำเป็นก็ให้ปรับลดเพื่อให้เพียงพอกับตัวเลขงบประมาณปี 2553 ที่กระทรวงจะได้รับจัดสรรมา โดยนายชุมพล จะนำตัวเลขงบประมาณที่จะขอเพิ่มเติมนี้เข้าหารือในที่ประชุมครม.ในวันนี้(14 พ.ค.)ก่อนนำเข้าพิจารณาอย่างเป็นทางการในที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้เพราะล่าสุดคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เห็นชอบเบื้องต้นในกรอบวงเงินงบประมาณประจำปี 2553 ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯที่ 11,622 ล้านบาท ลดลงจากปี 2552 ประมาณ 636 ล้านบาท หรือราว 5.19% จากที่เสนอขอไป 28,000 ล้านบาท โดยในส่วนของสำนักงานปลัดได้รับจัดสรร 674 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน17% โดยถูกปรับลดในส่วนของงบลงทุน เช่นการสร้างอาคาร สร้างสนามกีฬา เป็นต้น
ส่วนสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) ได้รับจัดสรร 704 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 10% โดยในส่วนของสพท.ที่ยื่นเสนอของบเพื่อใช้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดเกือบ 4,000 ล้านบาทถูกตัดออกทั้งหมด เหลือเพียง 18 ล้านบาทเพื่อใช้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเท่านั้น สำหรับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เป็นหน่วยงานเดียวของกระทรวงการท่องเที่ยวฯที่ได้รับจักสรรงบประมาณปี 2553 เพิ่มขึ้น คือได้ 4,560 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 2.22% โดยตั้งขอไปทั้งสิ้น 10,066 ล้านบาท
นางสาวศศิธารา กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานปลัด คาดว่าจะขอให้ ครม.พิจารณาเพิ่มวงเงินงบประมาณปี 2553 ในส่วนของโครงการศึกษาการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.ภูเก็ต เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินหน้าโครงการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว สำหรับงบประมาณที่ถูกตัดทิ้งของสำนักงานปลัดได้แก่ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มเยาวชน คนพิการ และผู้สูงอายุ วงเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2552 ที่ได้เริ่มโครงการเฟสแรกไปแล้วด้วยวงเงินงบประมาณที่ 153 ล้านบาท สำหรับพาเยาวชน ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ ท่องเที่ยวฟรี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศและถือเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ทางตรง
อย่างไรก็ตาม กรอบเบื้องต้นของตัวเลขงบประมาณปี 2553 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวจะได้รับจัดสรรดังกล่าวมาข้างต้นนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวก็พอใจ เพราะในภาวะที่รัฐบาลต้องควบคุมรายจ่าย และทุกกระทรวงก็ถูกปรับลดงบประมาณทั้งสิ้น ก็ถือว่ากระทรวงการท่องเที่ยวถูกปรับลดจากปีก่อนในตัวเลขที่ไม่มาก ขณะที่ททท.ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมท่องเที่ยวโดยตรงก็ยังได้เพิ่มขึ้น สะท้อนว่ารัฐบาลยังเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
