เอเอฟพี/ เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับขึ้นเหนือระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันอังคาร (12) ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 6 เดือน ก่อนจะร่วงลงมาเล็กน้อยในวันพุธ (13) ทั้งนี้เนื่องจากนักลงทุนมองการณ์แง่บวกว่า เศรษฐกิจที่มีสัญญาณการฟื้นตัว น่าจะกระตุ้นดีมานด์ความต้องการพลังงาน นอกจากนั้นแล้วยังมีแรงซื้อที่เข้ามาเพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงจากการที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
เมื่อวันอังคาร (12) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบไลท์สวีตครูดของสหรัฐฯ ขยับขึ้น35 เซ็นต์ ปิดที่ 58.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยช่วงหนึ่งระหว่างการซื้อขายราคาขยับขึ้นถึง 60.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว การที่ราคาน้ำมันไหลย้อนลงมา เกิดขึ้นหลังจากกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ ตัดลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันในปี 2009
ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนต์ที่ตลาดลอนดอนขยับขึ้น 46 เซนต์ อยู่ที่ 57.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"มีนักลงทุนประเภทสถาบันเข้ามาซื้อขาย ส่งผลให้ราคาขยับขึ้น" จิม ริตเตอร์บูช ประธานริตเตอร์บูช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ในมลรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ กล่าว "และเมื่อเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง จะยิ่งทำให้ราคาซื้อขายน้ำมันดิบทะยานขึ้น"
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เมื่อเทียบกับระบบตะกร้าเงิน
ทั้งนี้เมื่อเงินดอลลาร์ ซึ่งมักถูกมองว่ามีสถานะเป็นที่หลบภัย กลับปรับอ่อนค่าลง นักลงทุนจะพากันเทขายเงินดอลลาร์ และแห่ซื้อสัญญาอนุพันธ์ฟิวเจอร์น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อประกันความเสี่ยง ดังนั้นราคาน้ำมันจะขยับขึ้นเสมอ เมื่อค่าเงินสหรัฐฯ ปรับอ่อนค่าลงมา
ราคาน้ำมันขยับลงมาปิดต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันอังคาร (12) ภายหลังสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) ออกรายงานคาดการณ์ประจำเดือนพฤษภาคม โดยได้ตัดลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกประจำปี 2009 ลงมา 420,000 บาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) จากรายงานคาดการณ์เมื่อเดือนก่อน
การตัดลดประมาณการดีมานด์ของอีไอเอในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า "แนวโน้มความต้องการพลังงานจะลดลงอย่างสำคัญในช่วงไม่ถึง 1 เดือน" ทิม อีวานส์ นักวิเคราะห์พลังงานจากซิตี้ ฟิวเจอร์ เพอร์สเปคทีฟในนครนิวยอร์กกล่าว
เมื่อวันอังคาร (12) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบไลท์สวีตครูดของสหรัฐฯ ขยับขึ้น35 เซ็นต์ ปิดที่ 58.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยช่วงหนึ่งระหว่างการซื้อขายราคาขยับขึ้นถึง 60.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว การที่ราคาน้ำมันไหลย้อนลงมา เกิดขึ้นหลังจากกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ ตัดลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันในปี 2009
ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนต์ที่ตลาดลอนดอนขยับขึ้น 46 เซนต์ อยู่ที่ 57.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"มีนักลงทุนประเภทสถาบันเข้ามาซื้อขาย ส่งผลให้ราคาขยับขึ้น" จิม ริตเตอร์บูช ประธานริตเตอร์บูช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ในมลรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ กล่าว "และเมื่อเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง จะยิ่งทำให้ราคาซื้อขายน้ำมันดิบทะยานขึ้น"
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน เมื่อเทียบกับระบบตะกร้าเงิน
ทั้งนี้เมื่อเงินดอลลาร์ ซึ่งมักถูกมองว่ามีสถานะเป็นที่หลบภัย กลับปรับอ่อนค่าลง นักลงทุนจะพากันเทขายเงินดอลลาร์ และแห่ซื้อสัญญาอนุพันธ์ฟิวเจอร์น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อประกันความเสี่ยง ดังนั้นราคาน้ำมันจะขยับขึ้นเสมอ เมื่อค่าเงินสหรัฐฯ ปรับอ่อนค่าลงมา
ราคาน้ำมันขยับลงมาปิดต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันอังคาร (12) ภายหลังสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) ออกรายงานคาดการณ์ประจำเดือนพฤษภาคม โดยได้ตัดลดประมาณการความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกประจำปี 2009 ลงมา 420,000 บาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) จากรายงานคาดการณ์เมื่อเดือนก่อน
การตัดลดประมาณการดีมานด์ของอีไอเอในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า "แนวโน้มความต้องการพลังงานจะลดลงอย่างสำคัญในช่วงไม่ถึง 1 เดือน" ทิม อีวานส์ นักวิเคราะห์พลังงานจากซิตี้ ฟิวเจอร์ เพอร์สเปคทีฟในนครนิวยอร์กกล่าว
