ASTVผู้จัดการรายวัน- ฝ่ายค้านโวยสภารวบพิจารณาสัญญา 4 ฉบับ อ้างขัดข้อบังคับ เร่งรัดเกินเหตุ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลยืนยันทำได้ "ชัย" สั่งปิดประชุมหนีปัญหา ทำให้การพิจารณาเรื่องการกู้เงินจากต่างประเทศต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 14 พ.ค.
ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาวานนี้ (12 พ.ค.) ที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ได้มีการให้ความเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม ว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ 15ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม และให้ความเห็นชอบกับความตกลงว่าด้วยการลงทุนภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุมด้านต่างๆ ระหว่างรัฐบาลแห่งประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐเกาหลี
ส่วนวาระการพิจารณากรอบการเจรจาต่างๆ ที่เหลือ ประธานที่ประชุมได้สั่งให้พิจาณารวมกันทันที โดยให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่อง นำเสนอกรอบต่างๆ ที่เหลือคือ 1. ร่างพิธีสารฉบับที่ 3 เพื่อแก้ไขสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
2. กรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศตามแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2552 ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2552 จำนวน 4 โครงการวงเงิน 600.43 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 19,814.19 ล้านบาท คือ 1.โครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่2) ของกรมทางหลวง ที่จะขอกู้จากธนาคารโลก และธนาคารพัฒนาเอเชีย ประมาณ 170.30 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนนนทบุรี 1 ของกรมทางหลวงชนบท ที่จะขอกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือไจก้า จำนวนประมาณ 80.52 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 3.โครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลักครั้งที่ 8 ของการประปานครหลวง ที่จะขอกู้จากไจก้า ประมาณ 60.61 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเส้นทางบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง บางแค จำนวน 289 ล้านเหรียญสหรัฐ
3. ข้อเสนอผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการของไทยชุดที่ 7 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียนและกรอบการเจรจรร่างพิธีสารว่าด้วยการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้นายชัย แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขอให้สมาชิกอภิปรายไปในคราวเดียวกันโดยแยกทีละเรื่อง เนื่องจากในช่วงค่ำ ตนและประธานวุฒิสภามีภารกิจที่ต้องร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ แก่ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จึงขอให้ที่ประชุมอภิปรายจนถึงเวลา19.00น. จากนั้นจะนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาต่อในวันพฤหัสที่ 14 พ.ค.นี้ ในเวลา 09.00 น.ให้เสร็จสิ้นทั้งหมด
ปรากฎว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ต่างพากันทักท้วงว่าไม่สามารถนำญัตติต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาพิจารณารวมเป็นเรื่องเดียวกันได้ แต่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และนายชัย ยังคงยืนยันว่า สามารถทำได้ เพราะเป็นการแยกอภิปราย เพียงแต่ให้รัฐมนตรีแต่ละคนเสนอกรอบการเจรจาแต่ละฉบับในคราวเดียวกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทำให้ที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงกันในเรื่องนี้นานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่ประสุด นายชัย ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่า ตนเองได้ทำถูกต้องแล้ว และสั่งปิดการประชุมทันที เมื่อเวลา 17.10 น. โดยยังไม่มีสมาชิกรัฐสภาคนใดอภิปรายในรายละเอียด
ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาวานนี้ (12 พ.ค.) ที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ได้มีการให้ความเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม ว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ 15ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม และให้ความเห็นชอบกับความตกลงว่าด้วยการลงทุนภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุมด้านต่างๆ ระหว่างรัฐบาลแห่งประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสาธารณรัฐเกาหลี
ส่วนวาระการพิจารณากรอบการเจรจาต่างๆ ที่เหลือ ประธานที่ประชุมได้สั่งให้พิจาณารวมกันทันที โดยให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่อง นำเสนอกรอบต่างๆ ที่เหลือคือ 1. ร่างพิธีสารฉบับที่ 3 เพื่อแก้ไขสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
2. กรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศตามแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2552 ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2552 จำนวน 4 โครงการวงเงิน 600.43 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 19,814.19 ล้านบาท คือ 1.โครงการก่อสร้างทางสายหลักให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่2) ของกรมทางหลวง ที่จะขอกู้จากธนาคารโลก และธนาคารพัฒนาเอเชีย ประมาณ 170.30 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนนนทบุรี 1 ของกรมทางหลวงชนบท ที่จะขอกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือไจก้า จำนวนประมาณ 80.52 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 3.โครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลักครั้งที่ 8 ของการประปานครหลวง ที่จะขอกู้จากไจก้า ประมาณ 60.61 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเส้นทางบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง บางแค จำนวน 289 ล้านเหรียญสหรัฐ
3. ข้อเสนอผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการของไทยชุดที่ 7 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียนและกรอบการเจรจรร่างพิธีสารว่าด้วยการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้นายชัย แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขอให้สมาชิกอภิปรายไปในคราวเดียวกันโดยแยกทีละเรื่อง เนื่องจากในช่วงค่ำ ตนและประธานวุฒิสภามีภารกิจที่ต้องร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ แก่ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จึงขอให้ที่ประชุมอภิปรายจนถึงเวลา19.00น. จากนั้นจะนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาต่อในวันพฤหัสที่ 14 พ.ค.นี้ ในเวลา 09.00 น.ให้เสร็จสิ้นทั้งหมด
ปรากฎว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ต่างพากันทักท้วงว่าไม่สามารถนำญัตติต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาพิจารณารวมเป็นเรื่องเดียวกันได้ แต่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และนายชัย ยังคงยืนยันว่า สามารถทำได้ เพราะเป็นการแยกอภิปราย เพียงแต่ให้รัฐมนตรีแต่ละคนเสนอกรอบการเจรจาแต่ละฉบับในคราวเดียวกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทำให้ที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงกันในเรื่องนี้นานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่ประสุด นายชัย ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่า ตนเองได้ทำถูกต้องแล้ว และสั่งปิดการประชุมทันที เมื่อเวลา 17.10 น. โดยยังไม่มีสมาชิกรัฐสภาคนใดอภิปรายในรายละเอียด