ASTVผู้จัดการรายวัน - ไม่ไว้ใจตำรวจ รัฐบาลเตรียมประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนหน้า เพื่อรองรับการการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร ที่จะเป็นกำลังหลักในการสกัดแก๊งเสื้อแดงป่วน ไม่ให้ซ้ำรอยเหมือนที่พัทยา เผยชาวภูเก็ตให้ความร่วมมือเต็มที่ รับประกันไม่มีล่ม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึง การประชุมอาเซียนซัมมิต และประเทศคู่เจรจา ที่จะมีขึ้นที่จ.ภูเก็ต ในวันที่ 11-12 มิ.ย.นี้ ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้รับผิดชอบการจัดการประชุม โดยมีหลายภาคส่วนร่วมด้วย และเราจะจัดการประชุมครั้งนี้ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัยของผู้นำต่างประเทศ เนื่องจากเคยมีบทเรียนที่ พัทยา ที่ทำให้เราสูญเสียความน่าเชื่อถือไป ดังนั้นครั้งนี้ต้องทำสุดความสามารถ ตนจึงมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นประธานในการอำนวยการ บริหารจัดการดูแล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้นำ โดยจะมีการใช้กำลังของทหารเป็นหลัก ผสมกับ ตำรวจ
ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติงานของทหาร เป็นไปอย่างสมบูรณ์ตามกฎหมาย ทางรัฐบาลจะมีการประกาศพระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร (พ.ร.บ.ความมั่นคง) ให้พื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่ความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้จะไม่กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนรวมทั้งไม่กระทบต่อการท่องเที่ยว และจะเป็นการประกาศใช้ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อน และระหว่างการประชุมเท่านั้น
นายสุเทพกล่าวว่า การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะทำให้สามารถใช้ทหารเข้าไปดูแลการความสงบเรียบร้อยได้อย่างเต็มที่ และจะพยายามทำให้พื้นที่ภาคใต้ เป็นพื้นที่ปลอดการชุมนุม เพื่อให้ผู้เข้าประชุมเกิดความมั่นใจ ซึ่งขณะนี้กำลังประเมินว่าจะต้องใช้กำลังแค่ไหน อีกทั้งต้องมีการเตรียมเผชิญเหตุที่สมบูรณ์ แต่จะไม่ให้เกิดเหตุฉุกเฉินเป็นอันขาด
นายสุเทพชี้แจงถึงเหตุที่ต้องใช้กฎหมายฉบับนี้ เพราะมีประสบการณ์จากการประชุมที่พัทยามาแล้ว ซ฿งในครั้งนั้นไม่มีกฎหมายที่จะให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็งได้ เลยทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นคาดว่าจะประกาศใช้เฉพาะจ.ภูเก็ต ซึ่งต้องมีการวางแผนกันอีกครั้ง
"เมื่อประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ออกมา คงไม่มีการอนุญาตให้มีการชุมนุม ซึ่งทางรัฐบาลจะขอร้องว่า ให้ชุมนุมหลังการประชุม แต่เท่าที่ทราบคนภูเก็ตจะไม่ยอมให้มีการชุมนุม เพราะเขากังวลว่าจะเป็นผลเสียต่อการประชุม และหากมีการชุมนุมรอบนอก จ.ภูเก็ต ก็ต้องไปดูว่า การชุมนุมนั้นสร้างความเสียหายต่อการจัดประชุมหรือไม่ ซึ่งจะหาทางแก้ไขต่อไป" นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่าการใช้กฎหมายดังกล่าว จะเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งถามแบบนี้ แต่ขอให้ดูก่อน เพราะการชุมนุมที่ผ่านมาเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ อย่างไรก็ตามขอศึกษารายละเอียดของกฎหมายอีกครั้งว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ยืนยันว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส
"เที่ยวนี้ผมจะทำเต็มที่ และจะไม่ยอมให้เกิดเหตุแบบพัทยาอีกอย่างเด็ดขาด การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะไม่น่ากลัวสำหรับประชาชนทั่วไป แต่จะน่ากลัวสำหรับคนที่ตั้งใจไม่ดี ซึ่งขณะนี้หน่วยงานความมั่นคง ก็มีการประชุมกันอยู่ตลอด" นายสุเทพกล่าว
**นายกฯ มั่นใจไม่ซ้ำรอยพัทยา
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมประกาศ พ.ร.บ. ความมั่นคงในพื้นที่ จ.ที่ภูเก็ต ช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนว่า จริงๆแล้วเป็นเพียงเครื่องมือของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ในการให้สามารถใช้เจ้าหน้าที่ต่างๆ เพื่อให้เข้ากรอบกฎหมายความมั่นคงได้ ซึ่งจะไปดูเงื่อนไขอีกที ถ้าจะทำก็ต้องทำความเข้าใจให้ได้ว่า การประกาศหมายความว่าอะไร
เมื่อถามว่า เงื่อนไขที่ว่าคือ การควบคุมการชุมนุมของคนเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ในกฎหมาย ดีกว่ารอให้ปัญหาเกิดแล้วประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คิดว่าประชาชนทั่วไปในพื้นที่ ที่เป็นเจ้าภาพก็พร้อมในระดับหนึ่ง ที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว คงไม่เป็นปัญหาอะไร
สำหรับในส่วนผู้เข้าร่วมประชุม ก็มีการประสานจากหลายประเทศ ก็ได้รับการตอบรับในทางบวก โดยทั่วไปแล้วทุกประเทศอยากให้มีการจัดการประชุมโดยเร็ว เนื่องจากมีเรื่องที่ค้างอยู่ จะดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อย
เมื่อถามว่า ทุกประเทศตอบรับเข้าร่วมการประชุมครบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ที่เป็นห่วงคือ ประเทศอินเดีย เนื่องจากอยู่ในระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลของประเทศอินเดีย ในช่วงเดือนมิ.ย. เป็นช่วงที่มีรอยต่ออยู่ แต่ประเทศอื่นๆ สัญญาณ เป็นไปในทางบวก อย่างไรก็ตาม จะพยายามให้มาให้หมด
ส่วนการกฎหมายความมั่นคงแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ทหาร เป็นกองกำลังหลักหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะดูอีกที เพราะเป็นข้อกำหนดที่จะต้องดูเป็นกรณีๆไป
เมื่อถามว่า การให้ทหารเข้ามาดูเรื่องความปลอดภัย อาจมองได้ว่าเป็นการแข็งเกินไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ห่วงเรื่องดูแข็งเกินไปหรอก ห่วงว่าจะมีปัญหาเหมือนคราวที่แล้วมากกว่า ที่ไม่สามารถจัดการกับผู้ชุมนุมได้ ตนคิดว่าการจัดระบบใหม่มีอะไรเป็นรูปธรรม มีกฎหมายรองรับ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ง่าย เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้การประชุมล่มอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่า เราดูแลเต็มที่ ฝ่ายความมั่นคงก็ทำงานเต็มที่
**ชาวภูเก็ตให้ความร่วมมือเต็มที่
พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายพยายามที่จะกำหนดแผนในการปฏิบัติ และเอาแผนไปให้คณะกรรมการความมั่นคงภายในได้พิจารณา ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถมีมาตรการที่จะทำให้การประชุมผ่านไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือในพื้นที่ของภาคประชาชน และเอกชนช่วยกัน น่าจะทำให้การจัดการประชุมผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเรามีความมุ่งหวังว่าประชาชนในพื้นที่จะให้ความร่วมมือ เพราะว่าประเทศของเราไม่มีโอกาสอื่นที่จะทำให้การประชุมเกิดขึ้นได้นอกจากเวทีนี้ ถ้าหากว่าเราไม่สามารถทำให้เวทีการประชุมนี้ผ่านไปได้ ไม่ใช่เฉพาะการประชุมนี้แค่นั้น เราจะมีการประชุมนานาชาติในอนาคตที่จะมีประเทศไทยของเรา ก็จะต้องมีความเชื่อถือ สำหรับการที่จะจัดการประชุม
"การลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อสัปดาห์ก่อน ทางจ.ภูเก็ต ทั้งผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่นทั้งหมด เขารับรองว่าการจัดการประชุมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าเราจะร้องขอไปในเรื่องใด จะให้ความร่วมมือทุกเรื่องเช่นกัน เพื่อที่จะให้การประชุมราบรื่น และในฐานะที่ จ.ภูเก็ต เปรียบเสมือนเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ เขาต้องการให้ชื่อเสียงของ จ.ภูเก็ต เป็นเจ้าภาพได้จัดงานได้สำเร็จ เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้การประชุมผ่านไปได้" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
**ตร.ภูเก็ตมั่นใจ รปภ.ประชุมอาเซียน
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ในการจัดประชุมอาเซียนซัมมิตว่าได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ มีการวางแผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งมาตรการด้านการข่าวซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ รวมทั้งเรื่องของการก่อการร้าย แต่ก็ได้ขอความร่วมมือผู้ที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าติดตามทางด้านการข่าวอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ส่วนเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงการประชุมนั้นจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตทั้งหมด ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เขต 8 ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่ชัดเจนได้ แต่การดูแลความปลอดภัยนั้นจะดำเนินการแบบเต็มรูปแบบ 100%
ทั้งนี้ จะมีการซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมของชุดควบคุมฝูงชนด้วย โดยจะทำการฝึกซ้อมแบบเต็มรูปแบบในระหว่างวันที่ 8-9 พ.ค นี้ เพื่อความพร้อม และเพิ่มทักษะให้กับเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนด้วย ซึ่งการฝึกซ้อมครั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะลงมาดูความพร้อมด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดประชุมอาเซียนซัมมิตในครั้งนี้ คาดว่าจะใช้ห้องประชุมอันดามันบอลลรูม โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อาคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นสถานที่จัดประชุม ส่วนห้องพักของผู้นำแต่ละประเทศ จะอยู่บนชั้นต่างๆ ของโรงแรม เพื่อความสะดวกในการรักษาความปลอดภัย แต่อาจจะมีกระจายไปยังโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ที่มาร่วมประชุม ว่ามีความต้องการอย่างไร
ส่วนสถานที่จัดงานกาลาดินเนอร์ คณะเจ้าหน้าที่ที่มาติดตามความพร้อมของสถานที่ระบุว่าที่ภูเก็ตแฟนตาซี น่าจะมีความเหมาะสม แต่เรื่องอาหาร และชุดการแสดงจะต้องประสานด้วยความรอบคอบเพราะผู้ร่วมประชุมเป็นระดับผู้นำ ทุกอย่างต้องพร้อม.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึง การประชุมอาเซียนซัมมิต และประเทศคู่เจรจา ที่จะมีขึ้นที่จ.ภูเก็ต ในวันที่ 11-12 มิ.ย.นี้ ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้รับผิดชอบการจัดการประชุม โดยมีหลายภาคส่วนร่วมด้วย และเราจะจัดการประชุมครั้งนี้ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัยของผู้นำต่างประเทศ เนื่องจากเคยมีบทเรียนที่ พัทยา ที่ทำให้เราสูญเสียความน่าเชื่อถือไป ดังนั้นครั้งนี้ต้องทำสุดความสามารถ ตนจึงมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นประธานในการอำนวยการ บริหารจัดการดูแล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้นำ โดยจะมีการใช้กำลังของทหารเป็นหลัก ผสมกับ ตำรวจ
ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติงานของทหาร เป็นไปอย่างสมบูรณ์ตามกฎหมาย ทางรัฐบาลจะมีการประกาศพระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร (พ.ร.บ.ความมั่นคง) ให้พื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่ความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้จะไม่กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนรวมทั้งไม่กระทบต่อการท่องเที่ยว และจะเป็นการประกาศใช้ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อน และระหว่างการประชุมเท่านั้น
นายสุเทพกล่าวว่า การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะทำให้สามารถใช้ทหารเข้าไปดูแลการความสงบเรียบร้อยได้อย่างเต็มที่ และจะพยายามทำให้พื้นที่ภาคใต้ เป็นพื้นที่ปลอดการชุมนุม เพื่อให้ผู้เข้าประชุมเกิดความมั่นใจ ซึ่งขณะนี้กำลังประเมินว่าจะต้องใช้กำลังแค่ไหน อีกทั้งต้องมีการเตรียมเผชิญเหตุที่สมบูรณ์ แต่จะไม่ให้เกิดเหตุฉุกเฉินเป็นอันขาด
นายสุเทพชี้แจงถึงเหตุที่ต้องใช้กฎหมายฉบับนี้ เพราะมีประสบการณ์จากการประชุมที่พัทยามาแล้ว ซ฿งในครั้งนั้นไม่มีกฎหมายที่จะให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็งได้ เลยทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นคาดว่าจะประกาศใช้เฉพาะจ.ภูเก็ต ซึ่งต้องมีการวางแผนกันอีกครั้ง
"เมื่อประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ออกมา คงไม่มีการอนุญาตให้มีการชุมนุม ซึ่งทางรัฐบาลจะขอร้องว่า ให้ชุมนุมหลังการประชุม แต่เท่าที่ทราบคนภูเก็ตจะไม่ยอมให้มีการชุมนุม เพราะเขากังวลว่าจะเป็นผลเสียต่อการประชุม และหากมีการชุมนุมรอบนอก จ.ภูเก็ต ก็ต้องไปดูว่า การชุมนุมนั้นสร้างความเสียหายต่อการจัดประชุมหรือไม่ ซึ่งจะหาทางแก้ไขต่อไป" นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่าการใช้กฎหมายดังกล่าว จะเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าเพิ่งถามแบบนี้ แต่ขอให้ดูก่อน เพราะการชุมนุมที่ผ่านมาเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ อย่างไรก็ตามขอศึกษารายละเอียดของกฎหมายอีกครั้งว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ยืนยันว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส
"เที่ยวนี้ผมจะทำเต็มที่ และจะไม่ยอมให้เกิดเหตุแบบพัทยาอีกอย่างเด็ดขาด การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะไม่น่ากลัวสำหรับประชาชนทั่วไป แต่จะน่ากลัวสำหรับคนที่ตั้งใจไม่ดี ซึ่งขณะนี้หน่วยงานความมั่นคง ก็มีการประชุมกันอยู่ตลอด" นายสุเทพกล่าว
**นายกฯ มั่นใจไม่ซ้ำรอยพัทยา
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมประกาศ พ.ร.บ. ความมั่นคงในพื้นที่ จ.ที่ภูเก็ต ช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนว่า จริงๆแล้วเป็นเพียงเครื่องมือของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ในการให้สามารถใช้เจ้าหน้าที่ต่างๆ เพื่อให้เข้ากรอบกฎหมายความมั่นคงได้ ซึ่งจะไปดูเงื่อนไขอีกที ถ้าจะทำก็ต้องทำความเข้าใจให้ได้ว่า การประกาศหมายความว่าอะไร
เมื่อถามว่า เงื่อนไขที่ว่าคือ การควบคุมการชุมนุมของคนเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ในกฎหมาย ดีกว่ารอให้ปัญหาเกิดแล้วประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คิดว่าประชาชนทั่วไปในพื้นที่ ที่เป็นเจ้าภาพก็พร้อมในระดับหนึ่ง ที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว คงไม่เป็นปัญหาอะไร
สำหรับในส่วนผู้เข้าร่วมประชุม ก็มีการประสานจากหลายประเทศ ก็ได้รับการตอบรับในทางบวก โดยทั่วไปแล้วทุกประเทศอยากให้มีการจัดการประชุมโดยเร็ว เนื่องจากมีเรื่องที่ค้างอยู่ จะดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อย
เมื่อถามว่า ทุกประเทศตอบรับเข้าร่วมการประชุมครบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ที่เป็นห่วงคือ ประเทศอินเดีย เนื่องจากอยู่ในระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลของประเทศอินเดีย ในช่วงเดือนมิ.ย. เป็นช่วงที่มีรอยต่ออยู่ แต่ประเทศอื่นๆ สัญญาณ เป็นไปในทางบวก อย่างไรก็ตาม จะพยายามให้มาให้หมด
ส่วนการกฎหมายความมั่นคงแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ทหาร เป็นกองกำลังหลักหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะดูอีกที เพราะเป็นข้อกำหนดที่จะต้องดูเป็นกรณีๆไป
เมื่อถามว่า การให้ทหารเข้ามาดูเรื่องความปลอดภัย อาจมองได้ว่าเป็นการแข็งเกินไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ห่วงเรื่องดูแข็งเกินไปหรอก ห่วงว่าจะมีปัญหาเหมือนคราวที่แล้วมากกว่า ที่ไม่สามารถจัดการกับผู้ชุมนุมได้ ตนคิดว่าการจัดระบบใหม่มีอะไรเป็นรูปธรรม มีกฎหมายรองรับ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ง่าย เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้การประชุมล่มอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่า เราดูแลเต็มที่ ฝ่ายความมั่นคงก็ทำงานเต็มที่
**ชาวภูเก็ตให้ความร่วมมือเต็มที่
พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายพยายามที่จะกำหนดแผนในการปฏิบัติ และเอาแผนไปให้คณะกรรมการความมั่นคงภายในได้พิจารณา ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถมีมาตรการที่จะทำให้การประชุมผ่านไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือในพื้นที่ของภาคประชาชน และเอกชนช่วยกัน น่าจะทำให้การจัดการประชุมผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเรามีความมุ่งหวังว่าประชาชนในพื้นที่จะให้ความร่วมมือ เพราะว่าประเทศของเราไม่มีโอกาสอื่นที่จะทำให้การประชุมเกิดขึ้นได้นอกจากเวทีนี้ ถ้าหากว่าเราไม่สามารถทำให้เวทีการประชุมนี้ผ่านไปได้ ไม่ใช่เฉพาะการประชุมนี้แค่นั้น เราจะมีการประชุมนานาชาติในอนาคตที่จะมีประเทศไทยของเรา ก็จะต้องมีความเชื่อถือ สำหรับการที่จะจัดการประชุม
"การลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อสัปดาห์ก่อน ทางจ.ภูเก็ต ทั้งผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่นทั้งหมด เขารับรองว่าการจัดการประชุมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าเราจะร้องขอไปในเรื่องใด จะให้ความร่วมมือทุกเรื่องเช่นกัน เพื่อที่จะให้การประชุมราบรื่น และในฐานะที่ จ.ภูเก็ต เปรียบเสมือนเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ เขาต้องการให้ชื่อเสียงของ จ.ภูเก็ต เป็นเจ้าภาพได้จัดงานได้สำเร็จ เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้การประชุมผ่านไปได้" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
**ตร.ภูเก็ตมั่นใจ รปภ.ประชุมอาเซียน
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ในการจัดประชุมอาเซียนซัมมิตว่าได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ มีการวางแผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งมาตรการด้านการข่าวซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ รวมทั้งเรื่องของการก่อการร้าย แต่ก็ได้ขอความร่วมมือผู้ที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าติดตามทางด้านการข่าวอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ส่วนเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงการประชุมนั้นจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตทั้งหมด ร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เขต 8 ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่ชัดเจนได้ แต่การดูแลความปลอดภัยนั้นจะดำเนินการแบบเต็มรูปแบบ 100%
ทั้งนี้ จะมีการซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมของชุดควบคุมฝูงชนด้วย โดยจะทำการฝึกซ้อมแบบเต็มรูปแบบในระหว่างวันที่ 8-9 พ.ค นี้ เพื่อความพร้อม และเพิ่มทักษะให้กับเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนด้วย ซึ่งการฝึกซ้อมครั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะลงมาดูความพร้อมด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดประชุมอาเซียนซัมมิตในครั้งนี้ คาดว่าจะใช้ห้องประชุมอันดามันบอลลรูม โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อาคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นสถานที่จัดประชุม ส่วนห้องพักของผู้นำแต่ละประเทศ จะอยู่บนชั้นต่างๆ ของโรงแรม เพื่อความสะดวกในการรักษาความปลอดภัย แต่อาจจะมีกระจายไปยังโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ที่มาร่วมประชุม ว่ามีความต้องการอย่างไร
ส่วนสถานที่จัดงานกาลาดินเนอร์ คณะเจ้าหน้าที่ที่มาติดตามความพร้อมของสถานที่ระบุว่าที่ภูเก็ตแฟนตาซี น่าจะมีความเหมาะสม แต่เรื่องอาหาร และชุดการแสดงจะต้องประสานด้วยความรอบคอบเพราะผู้ร่วมประชุมเป็นระดับผู้นำ ทุกอย่างต้องพร้อม.
