ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานบังคับคดีภูเก็ตเผยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำทรัพย์ที่ต้องเข้าสู่ขบวนการขายทอดตลาดภูเก็ตเพิ่มไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาทกลางปีนี้ มีทั้งโรงแรม ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่ตอนนี้ขายไปแล้วกว่า 300 ล้านบาทจากเป้าหมาย 1,000 กว่าล้านบาทสิ้นตุลาคมนี้ เร่งจัดขายทอดตลาดให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้
นายสันทัด ประสานวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการขายทอดตลาดทรัพย์ว่า สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต มีสำนวนคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการบังคับคดีดังนี้ คือ สำนวนคดีแพ่ง 1,286 คดี สำนวนคดีล้มละลาย 7 คดี สำนวนคดีนายประกัน 99 คดี ซึ่งผลการดำเนินการบังคับคดีแพ่งตั้งแต่เดือนตุลาคม-เมษายน 2552 นี้ คดีที่มีการยึดทรัพย์จำนวน 106 คดี ราคาประเมิน 976 ล้านบาท ถอนการยึดทรัพย์ 78 คดี ราคาประเมิน 132 ล้านบาท โจทก์แถลงของดคดี 35 คดี ราคาประเมิน 94 ล้านบาท ขายทรัพย์ได้จำนวน 35 คดี ราคาประเมิน 88 ล้านบาท ราคาขาย 352 ล้านบาท จากเป้าหมายในการผลักดันทรัพย์ในปีงบประมาณ 2552 นี้อยู่ที่ 1,152 ล้านบาท ซึ่งมีบางคดีที่ทรัพย์มีมูลค่าสูงถึง 200 ล้านบาท
นายสันทัดกล่าวต่อว่า สำหรับทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการขายทอดตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและบ้านทาวน์เฮาส์ ซึ่งในขณะนี้ที่เป็นที่ดินแปลงใหญ่ๆนั้นที่ผ่านมาสามารถขายทอดตลาดได้หมดแล้ว ที่เหลือจะเป็นทรัพย์ที่ราคาไม่สูงมากนัก ประกอบกับทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงลูกหนี้กับเจ้าหน้าที่จะสามารถตกลงกันได้ด้วย
สำหรับเป้าหมายที่ไว้วาง 1,152 ล้านบาท คาดว่าสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาสำนักงานบังคับคดีภูเก็ตสามารถขายทอดตลาดทรัพย์ได้เกิน 1,000 ล้านบาทมาโดยตลอด และในยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยแล้วปัญหาทรัพย์ที่ถูกยึด และเข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาดจะมีเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าประมาณกลางปีนี้จะมีทรัพย์ที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและเข้าสู่ขบวนการขายทอดตลาดไม่น่าจะต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และโรงแรมขนาดกลางหนึ่งแห่งในตัวเมืองภูเก็ต
นายสันทัดกล่าวเพิ่มว่า ทางสำนักงานบังคับคดี กำหนดให้มีการขายทอดตลาดในวันที่ 14 และ 21 พฤษภาคมนี้ จำนวน 15 คดี ทุนทรัพย์ที่จะนำขายทอดตลาด 40 ล้านบาท ราคาประเมิน 43 ล้านบาท กำหนดขายในวันที่ 28 พฤษภาคม 4, 11, 18 มิถุนายน 2552 จำนวน 42 คดี ทุนทรัพย์ 107 ล้านบาท ราคาประเมิน 142 ล้านบาท
นายสันทัด ประสานวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการขายทอดตลาดทรัพย์ว่า สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต มีสำนวนคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการบังคับคดีดังนี้ คือ สำนวนคดีแพ่ง 1,286 คดี สำนวนคดีล้มละลาย 7 คดี สำนวนคดีนายประกัน 99 คดี ซึ่งผลการดำเนินการบังคับคดีแพ่งตั้งแต่เดือนตุลาคม-เมษายน 2552 นี้ คดีที่มีการยึดทรัพย์จำนวน 106 คดี ราคาประเมิน 976 ล้านบาท ถอนการยึดทรัพย์ 78 คดี ราคาประเมิน 132 ล้านบาท โจทก์แถลงของดคดี 35 คดี ราคาประเมิน 94 ล้านบาท ขายทรัพย์ได้จำนวน 35 คดี ราคาประเมิน 88 ล้านบาท ราคาขาย 352 ล้านบาท จากเป้าหมายในการผลักดันทรัพย์ในปีงบประมาณ 2552 นี้อยู่ที่ 1,152 ล้านบาท ซึ่งมีบางคดีที่ทรัพย์มีมูลค่าสูงถึง 200 ล้านบาท
นายสันทัดกล่าวต่อว่า สำหรับทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการขายทอดตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและบ้านทาวน์เฮาส์ ซึ่งในขณะนี้ที่เป็นที่ดินแปลงใหญ่ๆนั้นที่ผ่านมาสามารถขายทอดตลาดได้หมดแล้ว ที่เหลือจะเป็นทรัพย์ที่ราคาไม่สูงมากนัก ประกอบกับทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงลูกหนี้กับเจ้าหน้าที่จะสามารถตกลงกันได้ด้วย
สำหรับเป้าหมายที่ไว้วาง 1,152 ล้านบาท คาดว่าสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาสำนักงานบังคับคดีภูเก็ตสามารถขายทอดตลาดทรัพย์ได้เกิน 1,000 ล้านบาทมาโดยตลอด และในยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยแล้วปัญหาทรัพย์ที่ถูกยึด และเข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาดจะมีเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าประมาณกลางปีนี้จะมีทรัพย์ที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและเข้าสู่ขบวนการขายทอดตลาดไม่น่าจะต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และโรงแรมขนาดกลางหนึ่งแห่งในตัวเมืองภูเก็ต
นายสันทัดกล่าวเพิ่มว่า ทางสำนักงานบังคับคดี กำหนดให้มีการขายทอดตลาดในวันที่ 14 และ 21 พฤษภาคมนี้ จำนวน 15 คดี ทุนทรัพย์ที่จะนำขายทอดตลาด 40 ล้านบาท ราคาประเมิน 43 ล้านบาท กำหนดขายในวันที่ 28 พฤษภาคม 4, 11, 18 มิถุนายน 2552 จำนวน 42 คดี ทุนทรัพย์ 107 ล้านบาท ราคาประเมิน 142 ล้านบาท
