นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีลอบสังหารนายสนธิ ยังไม่ได้รายงานความคืบหน้าของคดีให้รับทราบ ทั้งนี้ตนไม่ต้องการกดดัน หรือคาดคั้นเวลา เพราะว่าต้องการให้เขาทำงานได้เต็มที่ และสุดท้ายตนเชื่อว่าตำรวจจะคลี่คลายคดีได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิบอกว่าสองสัปดาห์ตำรวจจะมีการแถลงความคืบหน้า ของคดี นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบสิ่งที่นายสนธิได้พูดต้องไปถามเจ้าตัว
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายสนธิ จาก พล.ต.อ.ธานี และกำชับให้เดินหน้าสืบสวนเต็มที่ไม่ต้องห่วงจะมีผู้มีอิทธิพลเข้าแทรกแซงคดี
พล.ต.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ระบุว่ามีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารครั้งนี้ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ให้ตรวจสอบ เพราะ พล.อ.ประวิตร ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการรับผิดชอบ ซึ่งเป็นคนละหน้าที่กับกองทัพ
สำหรับการตรวจสอบอาวุธสงครามและกระสุนของกองทัพที่ตั้งข้อสังเกตว่า อาจรั่วไหลมาก่อเหตุร้ายนั้น เรื่องนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงและเจ้ากรมสรรพาวุธตรวจสอบว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ อาวุธสงครามที่ใช้ในกองทัพจะมีการตรวจสอบเป็นประจำทุกปีตามวงรอบ โดยมีจเรทหารเข้าไปตรวจสอบคลังอาวุธทุกปี รวมทั้งแต่ละหน่วยจะตรวจสอบอาวุธของตนเองว่ามีจำนวนยอดเท่าไหร่ ดังนั้น อาวุธสงครามของกองทัพไม่น่าจะเล็ดลอดออกมาได้ แต่อาวุธสงครามมีการซื้อขายในตลาดมืด อาจเป็นไปได้ว่าจะมีการจัดหามากระทำการก่อเหตุร้ายที่ผ่านมา ซึ่งสามารถตรวจสอบได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ากองทัพได้รายงานข้อเท็จจริงประเด็นที่มีกระสุนของกองทัพรั่วไหลมาใช้ก่อเหตุร้ายหรือไม่ พล.ต.จิตตสักก์ กล่าวว่า กระสุนของกองทัพในแต่ละหน่วยจะมีการตรวจสอบอยู่เป็นประจำ ซึ่งกระสุนในอัตราเป็นเรื่องยากที่จะหลุดรั่วออกมาได้ แต่อาจจะมีกระสุนที่ใช้ในการฝึกซ้อมที่สามารถหลุดมาได้บ้าง ทั้งนี้ กองทัพยังไม่มีการรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบ แต่เป็นหน้าที่ในระดับกองทัพที่ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิบอกว่าสองสัปดาห์ตำรวจจะมีการแถลงความคืบหน้า ของคดี นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบสิ่งที่นายสนธิได้พูดต้องไปถามเจ้าตัว
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายสนธิ จาก พล.ต.อ.ธานี และกำชับให้เดินหน้าสืบสวนเต็มที่ไม่ต้องห่วงจะมีผู้มีอิทธิพลเข้าแทรกแซงคดี
พล.ต.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ระบุว่ามีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารครั้งนี้ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ให้ตรวจสอบ เพราะ พล.อ.ประวิตร ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการรับผิดชอบ ซึ่งเป็นคนละหน้าที่กับกองทัพ
สำหรับการตรวจสอบอาวุธสงครามและกระสุนของกองทัพที่ตั้งข้อสังเกตว่า อาจรั่วไหลมาก่อเหตุร้ายนั้น เรื่องนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงและเจ้ากรมสรรพาวุธตรวจสอบว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ อาวุธสงครามที่ใช้ในกองทัพจะมีการตรวจสอบเป็นประจำทุกปีตามวงรอบ โดยมีจเรทหารเข้าไปตรวจสอบคลังอาวุธทุกปี รวมทั้งแต่ละหน่วยจะตรวจสอบอาวุธของตนเองว่ามีจำนวนยอดเท่าไหร่ ดังนั้น อาวุธสงครามของกองทัพไม่น่าจะเล็ดลอดออกมาได้ แต่อาวุธสงครามมีการซื้อขายในตลาดมืด อาจเป็นไปได้ว่าจะมีการจัดหามากระทำการก่อเหตุร้ายที่ผ่านมา ซึ่งสามารถตรวจสอบได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ากองทัพได้รายงานข้อเท็จจริงประเด็นที่มีกระสุนของกองทัพรั่วไหลมาใช้ก่อเหตุร้ายหรือไม่ พล.ต.จิตตสักก์ กล่าวว่า กระสุนของกองทัพในแต่ละหน่วยจะมีการตรวจสอบอยู่เป็นประจำ ซึ่งกระสุนในอัตราเป็นเรื่องยากที่จะหลุดรั่วออกมาได้ แต่อาจจะมีกระสุนที่ใช้ในการฝึกซ้อมที่สามารถหลุดมาได้บ้าง ทั้งนี้ กองทัพยังไม่มีการรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบ แต่เป็นหน้าที่ในระดับกองทัพที่ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว
