“โฆษก กห.” ชี้อาวุธสงครามของกองทัพไม่น่าจะเล็ดลอดออกมาได้ หลัง “สนธิ” ระบุ ทหารเป็นคนลงมือลอบยิง แต่รับอาวุธสงครามมีการซื้อขายในตลาดมืด อาจเป็นไปได้มีการจัดหามาก่อเหตุ ยันตรวจสอบได้ เผย “ประวิตร” ไม่ได้สั่งการให้ตรวจสอบอะไรเป็นพิเศษ เพราะไม่ใช่หน้าที่กองทัพ โยน ตร.รับผิดชอบ
วันนี้ (5 พ.ค.) พล.ต.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ระบุว่ามีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษให้ตรวจสอบ เพราะ พล.อ.ประวิตร ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการรับผิดชอบ ซึ่งเป็นคนละหน้าที่กับกองทัพ
สำหรับการตรวจสอบอาวุธสงครามและกระสุนของกองทัพที่ตั้งข้อสังเกตว่าอาจรั่วไหลมาก่อเหตุร้ายนั้น เรื่องนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้เจ้ากรมส่งกำลังบำรุง และเจ้ากรมสรรพาวุธ ตรวจสอบว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ อาวุธสงครามที่ใช้ในกองทัพจะมีการตรวจสอบเป็นประจำทุกปีตามวงรอบ โดยมีจเรทหารเข้าไปตรวจสอบคลังอาวุธทุกปี รวมทั้งแต่ละหน่วยจะตรวจสอบอาวุธของตนเองว่ามีจำนวนยอดเท่าไหร่
ดังนั้น อาวุธสงครามของกองทัพไม่น่าจะเล็ดลอดออกมาได้ แต่อาวุธสงครามมีการซื้อขายในตลาดมืด อาจเป็นไปได้ว่าจะมีการจัดหามากระทำการก่อเหตุร้ายที่ผ่านมา ซึ่งสามารถตรวจสอบได้
เมื่อถามว่า กองทัพได้รายงานข้อเท็จจริงประเด็นที่มีกระสุนของกองทัพรั่วไหลมาใช้ก่อเหตุร้ายหรือไม่ พล.ต.จิตตสักก์ กล่าวว่า กระสุนของกองทัพในแต่ละหน่วยจะมีการตรวจสอบอยู่เป็นประจำ ซึ่งกระสุนในอัตราเป็นเรื่องยากที่จะหลุดรั่วออกมาได้ แต่อาจจะมีกระสุนที่ใช้ในการฝึกซ้อมที่สามารถหลุดมาได้บ้าง ทั้งนี้ กองทัพยังไม่มีการรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบ แต่เป็นหน้าที่ในระดับกองทัพที่ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว