ซาราห์ เอลลิส พาเจ้าชาร์ลีและแซฟฟรอน ไปโรงเรียนประถมและห้องสมุดแถวบ้านในเทมเพิลตันเป็นประจำ เพราะกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหม่ในการช่วยยกระดับการอ่านของเยาวชน
เอลลิสเป็นคนแรกในเวลส์ที่ได้ใบรับรองจากโครงการสุนัขช่วยอ่าน ซึ่งได้รับความนิยมมาระยะหนึ่งแล้วในสหรัฐฯ และแคนาดา
เธอบอกว่าการอ่านหนังสือดังๆ อาจทำให้เด็กขยาด แต่น้องหมาจะทำให้เด็กผ่อนคลายขึ้น
“สุนัขช่วยบำบัดความรู้สึกนี้ได้ เหมือนกับวันไหนที่คุณเบื่อหน่ายหรือมีปัญหากลับมาจากที่ทำงาน เมื่อถึงบ้าน ได้เล่นได้กอดน้องหมา คุณจะรู้สึกดีขึ้น คุณบอกมันได้ว่าชอบอะไร ถึงมันจะไม่ทวนคำพูดของคุณก็เถอะ และฉันคิดว่าวิธีนี้ได้ผลสำหรับเด็กที่มีปัญหาในการอ่านเช่นเดียวกัน
“ฉันจำได้ตอนเด็กๆ ที่ต้องออกไปยืนอ่านหนังสือดังๆ หน้าชั้นเรียน แต่นี่เป็นการอ่านตัวต่อตัว เราจะนั่งที่มุมหนึ่งของห้องสมุดด้วยกัน ฉัน หมาและเด็ก
“เด็กจะอ่านผิดอ่านถูกก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นการฝึกการอ่านเท่านั้น”
เอลลิสตัดสินใจช่วยเด็กพัฒนาทักษะการอ่านหลังจากได้รับรู้เรื่องราวนี้ที่เริ่มต้นในอเมริกาเหนือเมื่อปี 1999 จากนิตยสารฉบับหนึ่ง
“ฉันค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และพบว่าในสหราชอาณาจักรมีอาสาสมัครเพียงคนเดียวในตอนนั้น เขาอธิบายให้ฉันฟังว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
“จากนั้นทางโครงการก็ส่งรายละเอียดคอร์สอบรมมาให้และฉันติดต่อกลับไป”
เอลลิสไปที่โรงเรียนประถมเทมเพิลตันทุกสัปดาห์พร้อมกับชาร์ลี สุนัขกู้ภัยพันธุ์เชตแลนด์ชีปด็อกที่มีผ้าพันคอผูกไว้ด้วย
ชาร์ลีกลายเป็นขวัญใจเด็กๆ อย่างรวดเร็ว
“สุนัขเหล่านี้ต้องผ่านการประเมินอารมณ์ หมายถึงว่าต้องได้รับการฝึกฝนและลงทะเบียนเป็นสุนัขบำบัดมาแล้ว พวกมันจะนิ่ง เชื่องและสงบมาก และได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี”
จอช เด็กชายวัย 6 ขวบที่อ่านหนังสือให้ชาร์ลีฟัง เล่าว่า “เมื่อคุณได้อยู่กับสุนัขนานๆ คุณจะเริ่มรู้ว่ามันคิดอะไร เพราะมันจะมองคุณด้วยสายตาพิเศษ”
โครงการของเอลลิสที่ชื่อว่า ‘แช็กกี้ ด็อก เทลส์’ ได้รับความสนใจอย่างมากจากเจ้าของสุนัขคนอื่นๆ และเจ้าตัวหวังว่าไอเดียนี้จะแพร่หลายต่อไป
แม้นี่เป็นงานอาสาสมัคร แต่เอลลิสได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทผลิตอาหารสุนัขแห่งหนึ่ง
“โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย และฉันเลือกที่จะซื้อเครื่องแบบให้ชาร์ลีใส่ นั่นคือผ้าผูกคอ ซึ่งสำหรับฉันคิดว่าคุ้มมากเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของเด็กเวลาที่พวกเขามองชาร์ลี และนี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ”
เอลลิสเป็นคนแรกในเวลส์ที่ได้ใบรับรองจากโครงการสุนัขช่วยอ่าน ซึ่งได้รับความนิยมมาระยะหนึ่งแล้วในสหรัฐฯ และแคนาดา
เธอบอกว่าการอ่านหนังสือดังๆ อาจทำให้เด็กขยาด แต่น้องหมาจะทำให้เด็กผ่อนคลายขึ้น
“สุนัขช่วยบำบัดความรู้สึกนี้ได้ เหมือนกับวันไหนที่คุณเบื่อหน่ายหรือมีปัญหากลับมาจากที่ทำงาน เมื่อถึงบ้าน ได้เล่นได้กอดน้องหมา คุณจะรู้สึกดีขึ้น คุณบอกมันได้ว่าชอบอะไร ถึงมันจะไม่ทวนคำพูดของคุณก็เถอะ และฉันคิดว่าวิธีนี้ได้ผลสำหรับเด็กที่มีปัญหาในการอ่านเช่นเดียวกัน
“ฉันจำได้ตอนเด็กๆ ที่ต้องออกไปยืนอ่านหนังสือดังๆ หน้าชั้นเรียน แต่นี่เป็นการอ่านตัวต่อตัว เราจะนั่งที่มุมหนึ่งของห้องสมุดด้วยกัน ฉัน หมาและเด็ก
“เด็กจะอ่านผิดอ่านถูกก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นการฝึกการอ่านเท่านั้น”
เอลลิสตัดสินใจช่วยเด็กพัฒนาทักษะการอ่านหลังจากได้รับรู้เรื่องราวนี้ที่เริ่มต้นในอเมริกาเหนือเมื่อปี 1999 จากนิตยสารฉบับหนึ่ง
“ฉันค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และพบว่าในสหราชอาณาจักรมีอาสาสมัครเพียงคนเดียวในตอนนั้น เขาอธิบายให้ฉันฟังว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
“จากนั้นทางโครงการก็ส่งรายละเอียดคอร์สอบรมมาให้และฉันติดต่อกลับไป”
เอลลิสไปที่โรงเรียนประถมเทมเพิลตันทุกสัปดาห์พร้อมกับชาร์ลี สุนัขกู้ภัยพันธุ์เชตแลนด์ชีปด็อกที่มีผ้าพันคอผูกไว้ด้วย
ชาร์ลีกลายเป็นขวัญใจเด็กๆ อย่างรวดเร็ว
“สุนัขเหล่านี้ต้องผ่านการประเมินอารมณ์ หมายถึงว่าต้องได้รับการฝึกฝนและลงทะเบียนเป็นสุนัขบำบัดมาแล้ว พวกมันจะนิ่ง เชื่องและสงบมาก และได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี”
จอช เด็กชายวัย 6 ขวบที่อ่านหนังสือให้ชาร์ลีฟัง เล่าว่า “เมื่อคุณได้อยู่กับสุนัขนานๆ คุณจะเริ่มรู้ว่ามันคิดอะไร เพราะมันจะมองคุณด้วยสายตาพิเศษ”
โครงการของเอลลิสที่ชื่อว่า ‘แช็กกี้ ด็อก เทลส์’ ได้รับความสนใจอย่างมากจากเจ้าของสุนัขคนอื่นๆ และเจ้าตัวหวังว่าไอเดียนี้จะแพร่หลายต่อไป
แม้นี่เป็นงานอาสาสมัคร แต่เอลลิสได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทผลิตอาหารสุนัขแห่งหนึ่ง
“โครงการนี้มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย และฉันเลือกที่จะซื้อเครื่องแบบให้ชาร์ลีใส่ นั่นคือผ้าผูกคอ ซึ่งสำหรับฉันคิดว่าคุ้มมากเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของเด็กเวลาที่พวกเขามองชาร์ลี และนี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ”