ข้าราชการทิ้งหนุ่มไฮเทคเข้าเส้นชัยในตลาดหาคู่แดนภารตะไม่เห็นฝุ่น เมื่อพ่อแม่เล็งการณ์ไกลว่าลูกสาวควรลงหลักปักฐานกับผู้ชายที่มีฐานะการงานมั่นคงกว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกถดถอยเยี่ยงนี้
ข้อมูลดังกล่าวมาจากผู้ดำเนินการเว็บไซต์เกี่ยวกับการแต่งงานและบริษัทหาคู่ และสะท้อนแนวโน้มขาลงของอุตสาหกรรมเอาต์ซอร์สด้านไอทีของอินเดีย ที่ผู้ประกอบการหลาย เช่น ไวโปร เพิ่งรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจำนวนพนักงานในแผนกซอฟต์แวร์ลดลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
ปราทิก กุมาร หัวหน้าแผนกทรัพยากรบุคคลของไวโปร บริษัทเอาต์ซอร์สด้านซอฟต์แวร์อันดับ 3 ของอินเดีย บอกว่าถ้าการแต่งงานเป็นตลาดหุ้น พนักงานไอทีและวาณิชธนกรทั้งหลายก็คงเปรียบได้กับสินทรัพย์มีปัญหา
นับจากโตระเบิดเถิดเทิงในช่วงทศวรรษ 1990 อุตสาหกรรมเอาต์ซอร์ส ที่บริษัทอินเดียรับดำเนินการด้านซอฟต์แวร์และระบบคอมพิวเตอร์ให้แก่ลูกค้านอกประเทศ เป็นมากกว่าเครื่องจักรกระตุ้นเศรษฐกิจของแดนภารตะ เพราะยังเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในสังคม ก่อให้เกิดชนชั้นคนทำงานมีการศึกษาที่มีรายได้สูง และกลายเป็นกลุ่มที่เนื้อหอมอย่างที่สุดสำหรับเพศตรงข้าม
แต่นับจากภาวะถดถอยเริ่มต้น ครอบครัวชาวอินเดียเริ่มไม่แน่ใจที่จะปล่อยให้ลูกสาวไปแต่งงานกับหนุ่มเอาต์ซอร์ส เพราะรู้ดีว่าเศรษฐกิจของชาติตะวันตกเลวร้ายแค่ไหน ความไม่ไว้วางใจนี้ยังลามไปถึงหนุ่มแบงก์
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นกระแสย้อนกลับในการต้อนรับเจ้าบ่าวไอที” กอราฟ รักชิต หัวหน้าแผนกธุรกิจของ Shaadi.com เว็บไซต์ที่ครอบครัวชาวอินเดียเข้าไปชอปหาบ่าวสาวให้ลูกๆ บอก
Shaadi.com รายงานว่าลูกค้า 30% เบี่ยงเบนจากหนุ่มไอทีไปปันใจให้เจ้าบ่าวจากอุตสาหกรรมอื่น โดยเฉพาะข้าราชการและผู้จัดการรัฐวิสาหกิจที่มีงานมั่นคงกว่า และไม่นานมานี้เพิ่งได้รับการปรับฐานเงินเดือน
กวิตา เรดดี้ เป็นหนึ่งในพ่อแม่ในบังกาลอร์ที่กลายเป็นคนช่างเลือกเมื่อต้องมองหาคู่ชีวิตให้ลูก พนักงานธนาคารรายนี้พูดตรงๆ จากประสบการณ์ว่า
“รายได้ที่มั่นคงนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุข ฉันไม่ได้มองหาหนุ่มจากตลาดการเงินหรือภาคไอทีให้ลูกสาวด้วยเหตุผลนี้ แต่คิดว่าข้าราชการเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด รองลงมาคือหมอ”
ข้อมูลดังกล่าวมาจากผู้ดำเนินการเว็บไซต์เกี่ยวกับการแต่งงานและบริษัทหาคู่ และสะท้อนแนวโน้มขาลงของอุตสาหกรรมเอาต์ซอร์สด้านไอทีของอินเดีย ที่ผู้ประกอบการหลาย เช่น ไวโปร เพิ่งรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจำนวนพนักงานในแผนกซอฟต์แวร์ลดลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
ปราทิก กุมาร หัวหน้าแผนกทรัพยากรบุคคลของไวโปร บริษัทเอาต์ซอร์สด้านซอฟต์แวร์อันดับ 3 ของอินเดีย บอกว่าถ้าการแต่งงานเป็นตลาดหุ้น พนักงานไอทีและวาณิชธนกรทั้งหลายก็คงเปรียบได้กับสินทรัพย์มีปัญหา
นับจากโตระเบิดเถิดเทิงในช่วงทศวรรษ 1990 อุตสาหกรรมเอาต์ซอร์ส ที่บริษัทอินเดียรับดำเนินการด้านซอฟต์แวร์และระบบคอมพิวเตอร์ให้แก่ลูกค้านอกประเทศ เป็นมากกว่าเครื่องจักรกระตุ้นเศรษฐกิจของแดนภารตะ เพราะยังเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในสังคม ก่อให้เกิดชนชั้นคนทำงานมีการศึกษาที่มีรายได้สูง และกลายเป็นกลุ่มที่เนื้อหอมอย่างที่สุดสำหรับเพศตรงข้าม
แต่นับจากภาวะถดถอยเริ่มต้น ครอบครัวชาวอินเดียเริ่มไม่แน่ใจที่จะปล่อยให้ลูกสาวไปแต่งงานกับหนุ่มเอาต์ซอร์ส เพราะรู้ดีว่าเศรษฐกิจของชาติตะวันตกเลวร้ายแค่ไหน ความไม่ไว้วางใจนี้ยังลามไปถึงหนุ่มแบงก์
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นกระแสย้อนกลับในการต้อนรับเจ้าบ่าวไอที” กอราฟ รักชิต หัวหน้าแผนกธุรกิจของ Shaadi.com เว็บไซต์ที่ครอบครัวชาวอินเดียเข้าไปชอปหาบ่าวสาวให้ลูกๆ บอก
Shaadi.com รายงานว่าลูกค้า 30% เบี่ยงเบนจากหนุ่มไอทีไปปันใจให้เจ้าบ่าวจากอุตสาหกรรมอื่น โดยเฉพาะข้าราชการและผู้จัดการรัฐวิสาหกิจที่มีงานมั่นคงกว่า และไม่นานมานี้เพิ่งได้รับการปรับฐานเงินเดือน
กวิตา เรดดี้ เป็นหนึ่งในพ่อแม่ในบังกาลอร์ที่กลายเป็นคนช่างเลือกเมื่อต้องมองหาคู่ชีวิตให้ลูก พนักงานธนาคารรายนี้พูดตรงๆ จากประสบการณ์ว่า
“รายได้ที่มั่นคงนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุข ฉันไม่ได้มองหาหนุ่มจากตลาดการเงินหรือภาคไอทีให้ลูกสาวด้วยเหตุผลนี้ แต่คิดว่าข้าราชการเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด รองลงมาคือหมอ”
