นครศรีธรรมราช - ททท.นครศรีธรรมราชกู้วิกฤต ดันท่องเที่ยวชุมชน-ศาสนา-วัฒนธรรม ดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มมาเลเซีย-สิงคโปร์-ญี่ปุ่น ทะลักเที่ยวเงียบหมู่บ้านคีรีวงรับ สร้างรายได้พุ่งพรวดมาแล้ว ดันโกอินเตอร์เตรียมจัด “เทศกาลนครโลก” 780 ปีแห่งพระบรมธาตุเจดีย์ หนึ่งเดียวประเทศไทยรวมใจชาวพุทธทั่วโลก ระหว่างวันที่ 12-16 กุมภาพันธ์ 2553
นายสุเทพ เกื้อสังข์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประเทศไทยประสบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก มาจนปัจจุบันยังมีเรื่องการเมืองที่สร้างความเสียหายให้แก่ด้านการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่น ในส่วนของนครศรีธรรมราชนับเป็นโชคดีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ คือ ด้านแหล่งสำคัญของศาสนาพุทธ และวัฒนธรรมมาตั้งแต่โบราณ ขณะเดียวกันบุคลิกของคนเอเชียเกิดความเครียดด้านสังคม ด้านเมือง หรือเศรษฐกิจมักที่จะหันเข้าที่พึ่งทางด้านจิตใจ
วิกฤตปัจจุบัน กลับกลายเป็นโอกาสและสร้างโอกาสอย่างยิ่งกับนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะการเดินทางเข้ามาสักการบูชาองค์พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช ในปัจจุบันมีชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์เดินทางมาราว 30 รถบัสต่อวัน ซึ่งทำอย่างไรที่จะร่วมกันดึงองค์ประกอบของนครศรีธรรมราชเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยได้
“ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในนครศรีธรรมราชเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก เนื่องจากพบว่าคุณลักษณะที่โดดเด่นคือการท่องเที่ยวเชิงเอกลักษณ์ชุมชน และกลายเป็นชุมชนท่องเที่ยวหลายแหล่งในนครศรีธรรมราช นักท่องเที่ยวได้หลั่งไหลเข้าไปอย่างคับคั่ง ส่งผลให้มีเงินสะพัดสูงมากต่อรายชาวบ้านสามารถมีรายได้นับหมื่นบาทจากการจำหน่ายสินค้าเท่านั้น และในวันที่ 17-18 เมษายน ชาวไทยเชื้อสายมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในรัฐเกดะห์ รวมทั้งชาวสิงคโปร์ได้พาลูกหลานจำนวนมากเข้ามาอุปสมบทในวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตามความศรัทธาที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งสามารถสร้างเศรษฐกิจได้สูงมากในระยะนี้ ขณะที่มีแนวโน้มของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่กำลังขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด ส่วนที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ชาวสแกนดิเนเวียกำลังนิยมเป็นอย่างมาก” นายสุเทพกล่าว
ขณะที่นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ส่วนราชการนครศรีธรรมราช ปราชญ์ท้องถิ่น และตัวแทนจากภาคเอกชน ในพื้นที่ได้ร่วมกันกำหนดกรอบการจัดงาน เทศกาลนครโลก ซึ่งได้มีการประชุมหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นได้นำเสนอในส่วนของกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองนครศรีธรรมราช ความสัมพันธ์กับต่างประเทศที่ประวัติศาสตร์ของประเทศต่าง ๆ ได้จารึกไว้อย่างชัดเจน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่านครศรีธรรมราชเป็นเมืองที่เก่าแก่ติดอันดับโลก
ล่าสุดได้มีแนวคิดเพิ่มเติม โดย ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช โดยการปรับเปลี่ยนระยะเวลาการจัดงาน จากเดิมที่กำหนดจัดในช่วงวันที่ 6-10 มกราคม 2553 เป็นวันที่ 12-16 กุมภาพันธ์ 2553
“เรื่องนี้ถือว่าสำคัญเป็นอันดับโลกทีเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเมืองแห่งอารยธรรม มีความเจริญทางศาสนา มีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ เป็นประเพณีหนึ่งเดียวของประเทศไทยที่ได้รับความสนใจจากพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และการเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์น่าจะเกิดขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดนครศรีธรรมราช”
นอกจากนั้น ในช่วงดังกล่าวยังเป็นวัน วาเลนไทน์ วันตรุษจีน ซึ่งทุกกิจกรรมสามารถเชื่อมโยงกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเฉลิมฉลององค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่ได้เริ่มก่อสร้างโดยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมื่อปี 1773 นับถึงปี 2553 จะครบ 780 ปี ดังนั้น จึงเห็นควรจัดกิจกรรมในช่วงเวลาดังกล่าว
นายภาณุ กล่าวต่อว่าสำหรับ งานเทศกาลนครโลก จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองพระบรมธาตุเจดีย์ในโอกาสครบ 780 ปี กระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยวสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช และแสดงออกซึ่งความพร้อมในการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว สู่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะเมืองแห่งการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมซึ่งมีตำนานอ้างถึงที่สำคัญของประเทศและของโลก ที่บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ‘ 84 (ทุ่งท่าลาด) อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
กิจกรรมภายในงานจะประกอบไปด้วยการจัดนิทรรศการแห่งความศรัทธา เพื่อบอกเล่าถึงประวัติตำนานและสภาพในปัจจุบันของศาสนาต่างๆ ที่มีในจังหวัด นิทรรศการ การเล่าเรื่องเมืองนครด้วยภาพถ่ายและวิดีโอจากศิลปินที่มีชื่อเสียง นิทรรศการของเมืองที่มีความคล้ายคลึงในสถานที่กับนครศรีธรรมราช ได้แก่ อังกฤษ ฮอลแลนด์ ฝรั่งเศส จีน ศรีลังกา ควบคู่กับการแสดงดนตรี สื่อสารด้วยภาพ
นอกจากนั้น ยังมีการแสดงของเยาวชนจากสถานศึกษาต่าง ๆ ในจังหวัด การแสดงดนตรีของคณะจากประเทศต่าง ๆ การแสดงดนตรีลูกทุ่ง ดนตรีไทยและสากลการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น มโนราห์ เพลงบอก หนังตะลุง เป็นต้น คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างประเทศ ผู้นิยมการท่องเที่ยว ประชาชนทั่วไป รวมทั้งเยาวชน คนรุ่นใหม่ ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงวัฒนธรรม สนใจดนตรีและงานเพลง เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายสุเทพ เกื้อสังข์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประเทศไทยประสบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก มาจนปัจจุบันยังมีเรื่องการเมืองที่สร้างความเสียหายให้แก่ด้านการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่น ในส่วนของนครศรีธรรมราชนับเป็นโชคดีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ คือ ด้านแหล่งสำคัญของศาสนาพุทธ และวัฒนธรรมมาตั้งแต่โบราณ ขณะเดียวกันบุคลิกของคนเอเชียเกิดความเครียดด้านสังคม ด้านเมือง หรือเศรษฐกิจมักที่จะหันเข้าที่พึ่งทางด้านจิตใจ
วิกฤตปัจจุบัน กลับกลายเป็นโอกาสและสร้างโอกาสอย่างยิ่งกับนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะการเดินทางเข้ามาสักการบูชาองค์พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช ในปัจจุบันมีชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์เดินทางมาราว 30 รถบัสต่อวัน ซึ่งทำอย่างไรที่จะร่วมกันดึงองค์ประกอบของนครศรีธรรมราชเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยได้
“ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในนครศรีธรรมราชเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก เนื่องจากพบว่าคุณลักษณะที่โดดเด่นคือการท่องเที่ยวเชิงเอกลักษณ์ชุมชน และกลายเป็นชุมชนท่องเที่ยวหลายแหล่งในนครศรีธรรมราช นักท่องเที่ยวได้หลั่งไหลเข้าไปอย่างคับคั่ง ส่งผลให้มีเงินสะพัดสูงมากต่อรายชาวบ้านสามารถมีรายได้นับหมื่นบาทจากการจำหน่ายสินค้าเท่านั้น และในวันที่ 17-18 เมษายน ชาวไทยเชื้อสายมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในรัฐเกดะห์ รวมทั้งชาวสิงคโปร์ได้พาลูกหลานจำนวนมากเข้ามาอุปสมบทในวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตามความศรัทธาที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งสามารถสร้างเศรษฐกิจได้สูงมากในระยะนี้ ขณะที่มีแนวโน้มของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่กำลังขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด ส่วนที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ชาวสแกนดิเนเวียกำลังนิยมเป็นอย่างมาก” นายสุเทพกล่าว
ขณะที่นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ส่วนราชการนครศรีธรรมราช ปราชญ์ท้องถิ่น และตัวแทนจากภาคเอกชน ในพื้นที่ได้ร่วมกันกำหนดกรอบการจัดงาน เทศกาลนครโลก ซึ่งได้มีการประชุมหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นได้นำเสนอในส่วนของกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองนครศรีธรรมราช ความสัมพันธ์กับต่างประเทศที่ประวัติศาสตร์ของประเทศต่าง ๆ ได้จารึกไว้อย่างชัดเจน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่านครศรีธรรมราชเป็นเมืองที่เก่าแก่ติดอันดับโลก
ล่าสุดได้มีแนวคิดเพิ่มเติม โดย ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช โดยการปรับเปลี่ยนระยะเวลาการจัดงาน จากเดิมที่กำหนดจัดในช่วงวันที่ 6-10 มกราคม 2553 เป็นวันที่ 12-16 กุมภาพันธ์ 2553
“เรื่องนี้ถือว่าสำคัญเป็นอันดับโลกทีเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเมืองแห่งอารยธรรม มีความเจริญทางศาสนา มีประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ เป็นประเพณีหนึ่งเดียวของประเทศไทยที่ได้รับความสนใจจากพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และการเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์น่าจะเกิดขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดนครศรีธรรมราช”
นอกจากนั้น ในช่วงดังกล่าวยังเป็นวัน วาเลนไทน์ วันตรุษจีน ซึ่งทุกกิจกรรมสามารถเชื่อมโยงกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเฉลิมฉลององค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่ได้เริ่มก่อสร้างโดยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมื่อปี 1773 นับถึงปี 2553 จะครบ 780 ปี ดังนั้น จึงเห็นควรจัดกิจกรรมในช่วงเวลาดังกล่าว
นายภาณุ กล่าวต่อว่าสำหรับ งานเทศกาลนครโลก จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองพระบรมธาตุเจดีย์ในโอกาสครบ 780 ปี กระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดนักท่องเที่ยวสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช และแสดงออกซึ่งความพร้อมในการให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว สู่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะเมืองแห่งการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมซึ่งมีตำนานอ้างถึงที่สำคัญของประเทศและของโลก ที่บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ‘ 84 (ทุ่งท่าลาด) อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
กิจกรรมภายในงานจะประกอบไปด้วยการจัดนิทรรศการแห่งความศรัทธา เพื่อบอกเล่าถึงประวัติตำนานและสภาพในปัจจุบันของศาสนาต่างๆ ที่มีในจังหวัด นิทรรศการ การเล่าเรื่องเมืองนครด้วยภาพถ่ายและวิดีโอจากศิลปินที่มีชื่อเสียง นิทรรศการของเมืองที่มีความคล้ายคลึงในสถานที่กับนครศรีธรรมราช ได้แก่ อังกฤษ ฮอลแลนด์ ฝรั่งเศส จีน ศรีลังกา ควบคู่กับการแสดงดนตรี สื่อสารด้วยภาพ
นอกจากนั้น ยังมีการแสดงของเยาวชนจากสถานศึกษาต่าง ๆ ในจังหวัด การแสดงดนตรีของคณะจากประเทศต่าง ๆ การแสดงดนตรีลูกทุ่ง ดนตรีไทยและสากลการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น มโนราห์ เพลงบอก หนังตะลุง เป็นต้น คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างประเทศ ผู้นิยมการท่องเที่ยว ประชาชนทั่วไป รวมทั้งเยาวชน คนรุ่นใหม่ ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงวัฒนธรรม สนใจดนตรีและงานเพลง เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก