พล.ต.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพได้ติดตามวิเคราะห์สถานการณ์และผลกระทบที่น่าจะเกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลให้ทุกพรรคการเมืองเสนอแนวคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ บางมาตราที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งให้ทำความเข้าใจกับกำลังพล ให้ตระหนักถึงผลดี ผลเสียของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในบางเรื่องบางประเด็นเพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทยขึ้นได้อีก
ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.กล่าวว่าสถานการณ์ความขัดแย้งของบ้านเมืองดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพราะอย่างน้อยรัฐบาลสามารถพูดคุยกับทุกพรรคได้ แม้แต่ฝ่ายค้านที่มีการเจรจาและตกลงกันได้หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความปรองดองที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป รัฐบาลมีประสพบกาณณ์มากคิดว่าการตัดสินใจคงเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง เพราะเห็นปัญหาอยู่แล้ว แต่การแก้รัฐธรรมนูญ ประชาชน ส.ส.และ ส.ว.ต้องมีส่วนร่วมในการพิจารณา รัฐบาลจะทำอะไรต้องฟังเสียงทุกส่วน
สำหรับการนิรโทษกรรมที่ถูกมองว่าเป็นการทำเพื่อนักการเมืองเอง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า รัฐบาลต้องพิจารณาเรื่องนี้ เพราะประชาชนเฝ้ามองอยู่ หากการตัดสินใจของรัฐบาลผิดพลาด รัฐบาลก็จะต้องมาแก้ปัญหาของตัวเองอีก ทั้งนี้ คงไม่แนะนำรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีประสบการณ์มากกว่า เชื่อว่ารัฐบาลเข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะบริหารประเทศนานหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ต้องดูภายหลังการปรับแก้รัฐธรรมนูญที่จะบ่งชี้ว่าการบริหารประเทศจะอยู่ได้ยาวแค่ไหน เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เวลาเปลี่ยนและรัฐบาลต้องมีเหตุมีผล ซึ่งรัฐบาลมีประสบการณ์อยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าสิ่งที่ คมช. ทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 สูญเปล่าไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ พล.อ.สนธิ ย้ำว่าเวลาเปลี่ยนสถานการณ์ก็เปลี่ยน เวลานั้นอาจจะเหมาะสม วันนั้นกลับวันนี้คนละวาระ คนละเวลากัน สถานการณ์ไม่เหมือนกัน ต้องแยกเวลากัน ถึงตอนหน้าหนาวก็ใส่เสื้อกันหนาว ถึงตอนหน้าฝนก็หาเสื้อกันฝนใส่ เมื่อถามว่า ถึงเวลาตัดสินใจที่จะเล่นการเมืองจริงจังหรือยัง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คิด
ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.กล่าวว่าสถานการณ์ความขัดแย้งของบ้านเมืองดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพราะอย่างน้อยรัฐบาลสามารถพูดคุยกับทุกพรรคได้ แม้แต่ฝ่ายค้านที่มีการเจรจาและตกลงกันได้หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความปรองดองที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป รัฐบาลมีประสพบกาณณ์มากคิดว่าการตัดสินใจคงเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง เพราะเห็นปัญหาอยู่แล้ว แต่การแก้รัฐธรรมนูญ ประชาชน ส.ส.และ ส.ว.ต้องมีส่วนร่วมในการพิจารณา รัฐบาลจะทำอะไรต้องฟังเสียงทุกส่วน
สำหรับการนิรโทษกรรมที่ถูกมองว่าเป็นการทำเพื่อนักการเมืองเอง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า รัฐบาลต้องพิจารณาเรื่องนี้ เพราะประชาชนเฝ้ามองอยู่ หากการตัดสินใจของรัฐบาลผิดพลาด รัฐบาลก็จะต้องมาแก้ปัญหาของตัวเองอีก ทั้งนี้ คงไม่แนะนำรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีประสบการณ์มากกว่า เชื่อว่ารัฐบาลเข้าใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะบริหารประเทศนานหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ต้องดูภายหลังการปรับแก้รัฐธรรมนูญที่จะบ่งชี้ว่าการบริหารประเทศจะอยู่ได้ยาวแค่ไหน เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เวลาเปลี่ยนและรัฐบาลต้องมีเหตุมีผล ซึ่งรัฐบาลมีประสบการณ์อยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าสิ่งที่ คมช. ทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 สูญเปล่าไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ พล.อ.สนธิ ย้ำว่าเวลาเปลี่ยนสถานการณ์ก็เปลี่ยน เวลานั้นอาจจะเหมาะสม วันนั้นกลับวันนี้คนละวาระ คนละเวลากัน สถานการณ์ไม่เหมือนกัน ต้องแยกเวลากัน ถึงตอนหน้าหนาวก็ใส่เสื้อกันหนาว ถึงตอนหน้าฝนก็หาเสื้อกันฝนใส่ เมื่อถามว่า ถึงเวลาตัดสินใจที่จะเล่นการเมืองจริงจังหรือยัง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คิด