xs
xsm
sm
md
lg

2แบงก์จับมือปล่อยกู้ไมเนอร์4พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์กสิกรไทยจับมือแบงก์กรุงศรีปล่อยกู้ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รวม 4,000 ล้านบาท "กสิกรไทย" ชี้พร้อมสนับสนุนลูกค้าดีเพิ่ม คาดไตรมาส 2 ยอดสินเชื่อเริ่มปรับตัวดีขึ้น "กรุงศรีฯ" เดินหน้าซื้อกิจการรายย่อยเพิ่ม แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้

วานนี้ (29 เม.ย.) ทางธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ได้ร่วมกันสนับสนุนเงินกู้ระยะยาว ให้กับบริษัท ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี ซึ่งประกอบด้วย วงเงินกู้ร่วมจากธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 2,500 ล้านบาท และเงินกู้ระยะยาวจากธนาคารกสิกรไทย 1,500 ล้านบาท

นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินกู้ดงกล่าวไปชำระคืนเงินกู้ยืมและหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในปี 2552 และ 2553 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัทแต่บริษัทยังได้พิจารณาแผนการออกหุ้นกู้อีกครั้งในปลายปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ในการชำระคืนเงินกู้ยืม เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ซึ่งบริษัทจะติดตามสถานการณ์ ภาวะตลาดเงิน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการออกหุ้นกู้ในจำนวนและระยะเวลาที่เหมาะสม

ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปล่อยกู้ให้กับบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนลในครั้งนี้วงเงินกู้ 2,500 ล้านบาท แบ่งระหว่างธนาคารกสิกรไทย กับธนาคารกรุงศรีอยุธยาในสัดส่วน 50 ต่อ 50 และวงเงินกู้ระยะยาวอีก 1,500 ล้านบาท ที่ธนาคารกสิกรไทยปล่อยกู้แต่เพียงรายเดียว

"บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล เป็นลูกค้าดี การปล่อยกู้ในครั้งนี้ยอมรับว่ามีหลายธนาคารเข้ามาเสนอแข่งขันเพื่อการปล่อยกู้ และมีการแข่งขันด้านราคา โดยดอกเบี้ยที่ธนาคารเสนอสูงกว่าราคาที่ปล่อยกู้ในตลาดเงินระยะสั้น"

ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่ลูกค้าดี ธนาคารก็พร้อมเข้าไปสนับสนุนเงินกู้ เพราะการปล่อยเงินกู้ให้กับลูกค้าดอกเบี้ยที่ได้รับสูงกว่าตลาดเงินระยะสั้น ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับธนาคาร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากนี้ธนาคารจะมีการสนับสนุนเงินกู้ให้กับลูกค้ารายใหญ่อีกเป็นจำนวนมาก โดยยอดสินเชื่อในไตรมาส 2 เป็นต้นไป ยอดสินเชื่อของธนาคารจะปรับตัวเพิ่มขึ้น

กรุงศรีฯเดินหน้าซื้อพอร์ตรายย่อย

นายตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ในขณะนี้ธนาคารยังมีแผนที่จะเติบโตด้วยการเข้าซื้อกิจการอยู่ แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าธุรกิจที่สนใจเป็นส่วนของรายย่อยไม่ใช่ ธุรกิจขนาดใหญ่ โดยถ้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ธนาคารจะเน้นการปล่อยกู้ร่วม (ซินดิเคทโลน) เหมือนกันที่ร่วมกับธนาคารกสิกรไทยปล่อยกู้ให้กับบริษัทไมเนอร์มากกว่า

ทั้งนี้ หลังจากที่ธนาคารได้เข้าซื้อกิจการของธนาคารเอไอจี เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอไอจีคาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ไปแล้วนั้น ขณะนี้ทางเอไอจีได้มีการโอนพนักงานมาไว้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาแล้ว และได้มีพนักงานบางส่วนที่ทางเอไอจีหาตำแหน่งงานใหม่ไว้ให้ในจุดอื่นด้วย

สำหรับคุณภาพหนี้ในพอร์ตสินเชื่อที่ซื้อมาจากไอเอจีนั้นถือว่ายังไม่มีปัญหา เพราะในการพิจารณาซื้อกิจการนั้นธนาคารได้มีการพิจารณาในทุกด้านไว้อย่างรอบคอบแล้ว อีกทั้งลูกค้าสินเชื่อของเอไอจีนั้นจะเป็นกลุ่มที่มีเงินเดือนขั้นต่ำประมาณ 15,000 บาท และธนาคารก็ได้มีการสำรองพอร์ตสินเชื่อดังกล่าวไว้ครบ 100% แล้ว

"ข้อดีของการซื้อกิจการคือเราจะสามรรถเห็นประวัติของลูกค้าทำคนว่าเป็นอย่างไร มีคุณภาพอย่างไร ถ้าเทียบในการเติบโตก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างปลอดภัย เพราะเราดูค่อนข้างเรียบร้อยแล้ว ส่วนการจะซื้อกิจการในอนาคตก็คงจะให้น้ำหนักไปที่ส่วนของรายย่อย ส่วนมีแผนจะซื้อธุรกิจอื่นของจีอีหรือไม่มองว่าการทำธุรกิจตอนนี้ต่างคนต่างทำอยู่แล้วและไม่ใช่เรื่องรีบร้อน แต่ถ้าทำแล้วมีมูลค่าเพิ่มให้ก็ธุรกิจก็คงต้องศึกษาดู แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนอะไร"

นายตัน คอง คูน กล่าวว่า การตั้งสำรองของธนาคารยังอยู่ในระดับปกติ ซึ่งจะตั้งเกินกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้กว่า 20% หรือมีสัดส่วนการตั้งสำรองต่อส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ประมาณ 60% โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาธนาคารมีการตั้งสำรองไปแล้ว 1,900 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละกว่า 600 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มในช่วงไตรมาส 2 นั้น โดยรวมยังไม่เห็นสัญญาณที่เอ็นพีแอลจะเกินกว่าที่ธนาคารได้ประมาณการณ์ไว้ อีกทั้งธนาคารได้มีนโยบายให้ทางสาขาดูแลลูกค้าให้ใกล้ชิดมากขึ้น และหากมีการค้างชำระที่เกิน 30 วันก็จะมีการติดต่อลูกค้าโดยทันที ซึ่งก็สามารถช่วยลูกค้าไม่ให้เป็นเอ็นพีแอลได้มาก

"ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเราก็เข้าไปให้ความช่วยเหลือดูแลอยู่แล้ว อีกทั้งลูกค้าในกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบเราก็ยังเข้าไปดูแลเหมือนกัน และได้มีการเข้าไปพูดคุยกับลูกค้า ส่วนพวกโรงแรมก็ช่วยกันตลอดและคิดว่าปัญหาพวกนี้น่าจะเป็นแค่ชั่วคราว ส่วนไข้หวัดเม็กซิโกตอนนี้ยังไม่ได้ประเมินว่าจะมีผลกระทบอะไรกับเราบ้าง"

กสิกรจับมือแสนสิริกระตุ้นยอดสินเชื่อ

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ร่วมกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จัดโปรโมชั่น "ไม่ต้องผ่อน ออมเต็มๆ รับเงินคืน0.25%" สำหรับลูกค้าแสนสิริ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัท พิวรรธนา จำกัด และกลุ่มบริษัทในเครือจะได้รับเงินคืน 0.25% ของวงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ หากเซ็นสัญญาภายใน 7 วันหลังแจ้งผลการอนุมัติ พร้อมทำประกันชีวิต

นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ 0% นาน 1 ปี โดยอยู่ฟรีไม่ต้องผ่อนในปีแรก ส่วนปีที่ 2-3 คิดเอ็มแอลอาร์ หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี(เอ็มแอลอาร์)ลบ 1% พร้อมทั้งยังมีอัตราดอกเบี้ยแบบอื่น ๆ อีก 7 แบบให้เลือก ทั้งนี้ ในปัจจุบันธนาคารมีเอ็มแอลอาร์อยู่ที่ 6.10% และผู้ที่กู้ยังได้รับการยกเว้นค่าประเมินราคาและยกเว้นค่าธรรมเนียมในการจัดการให้กู้ โดยมีระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 1 พฤษภาคม ถึง 30 มิถุนายน 2552
กำลังโหลดความคิดเห็น