xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”รื้อสูตรราคาแต่ใช้จริงไม่ได้คนไทยรับกรรมต้องกินหมูแพงต่อไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เจ๋งไม่จริงจัดการหมูแพง ลงทุนเชิญทุกฝ่ายถกปรับสูตรคำนวณราคาหมูใหม่ แต่ดันใช้บังคับจริงไม่ได้ ส่งผลให้ราคาหมูไม่ลง เผยคนไทยต้องกินหมูแพงต่อไปอีก 2 เดือนจนกว่าจะเข้าหน้าฝน สมาคมหมูยันไม่ขึ้นราคาหมูเป็น พร้อมส่งหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งห้ามนำเข้าหมูชั่วคราว

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับกรมปศุสัตว์ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ผู้ค้าสุกรชำแหละ และผู้เลี้ยงสุกรรายเล็ก เพื่อแก้ปัญหาหมูราคาแพง วานนี้ (29 เม.ย.) ว่า ได้เห็นชอบร่วมกันในการปรับสูตรโครงสร้างราคาหมูใหม่ จากเดิมราคาหมูขายปลีกจะคิดคำนวณจากราคาหมูเป็นคูณ 2 และบวกกำไร 2 บาท โดยโครงสร้างใหม่จะแยกเป็นราคาหมูชำแหละ (หมูซีก) ที่คิดจากราคาต้นทุนหมูเป็นบวกกำไร 10% ส่วนราคาขายปลีกหน้าเขียง จะคิดคำนวณจากราคาหมูซีกบวกค่าใช้จ่ายและส่วนของต้นทุนหมูเหลือทิ้งหรือส่วนที่จำหน่ายได้ราคาต่ำที่มีถึง 60% ของหมูเป็นทั้งตัว และจะบวกกำไรให้ 7%

ทั้งนี้ จากสูตรดังกล่าว จะทำให้ราคาหมูเป็นดังนี้ คือ ปัจจุบันราคาหมูเป็น 63-64 บาท/กก. บวกกำไร 10% จะเป็นราคาหมูซีก 73-74 บาท/กก. และราคาหมูเนื้อแดงที่บวกค่าใช้จ่ายต้นทุนและกำไรอีก 7% จะขายปลีกในราคา 116-124 บาท แต่หากเป็นสูตรเดิมราคาหมูเนื้อแดงจะอยู่ที่กก.ละ 128-130 บาท

“สูตรโครงสร้างราคาหมูใหม่ จะใช้เป็นราคาแนะนำขายปลีก แต่ไม่ได้เป็นการบังคับราคาเขียงหมู เพราะขณะนี้กำลังประสบปัญหาปริมาณหมูออกสู่ตลาดไม่เพียงพอและต้นทุนการผลิตหมูเป็นเพิ่มขึ้นจากภาวะอากาศร้อน หมูโตช้า และปริมาณลูกหมูล้มตาย ผลผลิตออกสู่ตลาดจาก 12-13 ล้านตัว เหลือ 11 ล้านตัว ซึ่งก็ใกล้เคียงกับความต้องการบริโภคในประเทศ 11 ล้านตัว และจากรายงานต้นทุนการผลิตหมูเป็นจาก 46-47 บาท/กก. เป็น 49-50 บาท แต่คาดว่าภายใน 2 เดือนเมื่อสภาพอากาศเย็นลงปริมาณหมูออกสู่ตลาดมากขึ้นราคาหมูก็จะอ่อนตัวลง”นายยรรยงกล่าว

ส่วนการแก้ปัญหาหมูราคาแพงและลดภาระประชาชน จะร่วมกับสมาคมฯ นำหมูคุณภาพราคาถูกมาจำหน่ายในงานธงฟ้าแบบไม่จำกัดจำนวน ซึ่งเตรียมจัดงานธงฟ้า 20 ครั้งภายใน 5-6 เดือนข้างหน้า พร้อมกันนี้ จะร่วมมือรณรงค์สร้างความเชื่อมั่นการบริโภคหมูไทยว่าปลอดภัย 100% หลังจากมีความวิตกจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดเม็กซิโก และเห็นพ้องที่จะใช้มาตรการห้ามนำเข้าผลผลิตภัณฑ์หมู เครื่องในหมู และพันธุ์หมูจากต่างประเทศ

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า สมาคมฯ จะทำหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง มหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้ระงับนำเข้าเนื้อหมู เครื่องใช้หมู และพันธุ์หมู ตลอดจนกระดูกป่นและเนื้อหมูป่น จากต่างประเทศเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดเม็กซิโกจะลดลง เพราะหากยังปล่อยให้มีการนำเข้า และนำโรคเข้ามา จะทำให้กระทบกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูของไทย และในปี 2553 และ 2554 การเลี้ยงหมูอาจมีไม่ถึง 10 ล้านตัว ซึ่งจะทำให้หมูยิ่งมีราคาแพง

“ยืนยันว่าการห้ามนำเข้าจะไม่กระทบต่อราคาหมูในประเทศให้สูงขึ้น และไม่เกิดปัญหาการขาดแคลน โดยสมาคมฯ จะพยายามประคองให้ราคาหมูเป็นไม่เกินกก.ละ 65 บาท แต่ไม่สามารถระบุเวลาได้ แต่จะให้นานที่สุด ส่วนราคาหมูเนื้อแดงเป็นเรื่องของผู้ชำแหละกับหน้าเขียง สมาคมฯ ไม่เกี่ยวข้อง รัฐต้องเข้าไปดูตรงนั้น”นายสุรชัยกล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ได้มีความพยายามในการรื้อสูตรในการคำนวณราคาหมูมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะมีผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่ปัจจุบันได้รุกตลาดหมูครบวงจร ทั้งผลิตลูกหมู ขายอาหารสัตว์ และทำโรงชำแหละ ได้มีการขัดขวางอย่างเต็ม หากมีการเข้าไปรื้อสูตร ก็จะทำให้รายได้หายไป ทั้งนี้จากการพิจารณาต้นทุนหมูในปัจจุบันพบว่า หมูเป็นต้นทุนอยู่ที่กก.ละ 46.76 บาท กรมการค้าภายในคิดที่กก.ละ 49-50 บาท ราคาหมูซีกกก.ละ 73.74 บาท และราคาหน้าเขียงกก.ละ 120-130 บาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าส่วนต่างกำไรระหว่างหมูซีกกับหมูหน้าเขียงห่างกันมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น