xs
xsm
sm
md
lg

"พธม.ภูเก็ต"พร้อมรับประชุมอาเซียนฯ หวังช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร คณะทำงานกลุ่มพันธมิตรฯภูเก็ต
ศูนย์ข่าวภูเก็ต- "พันธมิตรฯภูเก็ต" พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีรับการประชุมอาเซียนซัมมิต+3+6 หากได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดประชุมจริง หวังมีส่วนช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ด้านความน่าเชื่อถือในสายตานานาประเทศ หลังถูกทำลายย่อยยับด้วยฝีมือ "แดงถ่อย" ที่เมืองพัทยา ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ยันจะไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นที่ภูเก็ต ด้านผู้ว่าฯภูเก็ตย้ำหากรัฐบาลเลือกภูเก็ตจัดประชุมอาเซียนซัมมิตต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยเข้มงวด ที่สำคัญจะต้องไม่มีการแบ่งสีในพื้นที่ มั่นใจชาวภูเก็ตทุกภาคส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี

น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร คณะทำงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการประชุมอาเซียนซัมมิต+3+6 จะเปลี่ยนสถานที่มาจัดที่จังหวัดภูเก็ตและมีแนวโน้มสูงว่าจังหวัดภูเก็ต จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดการประชุมช่วงเดือนมิถุนายนนี้ว่า ในฐานะที่เป็นชาวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นเจ้าบ้าน โดยส่วนตัวเชื่อว่าชาวภูเก็ตทุกคนจะร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี ที่จะช่วยกันฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากถูกทำลายย่อยยับด้วยฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อการประชุมครั้งแรก จนทำให้ผู้นำประเทศต่าง ๆ ต้องหลบออกจากสถานที่จัดการประชุม เดินทางกลับประเทศของตนด้วยความทุลักทุเล และขาดความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของประเทศเรา

"แม้ว่า หลังจากนั้นไม่นานรัฐบาลจะใช้มาตรการละมุนละม่อน ในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณต่างๆ ด้วยความสันติวิธี จนสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย และกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตามมาด้วยการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนความเชื่อมั่นจากนานาประเทศเริ่มกลับมาอีกครั้ง แต่จากข่าวที่ได้รับ ก็ทราบว่า ยังมีผู้นำหลายประเทศยังไม่ตอบรับเข้าร่วมประชุมครั้งใหม่" น.ส.อาภารัตน์ กล่าว และกล่าวต่อว่า

ประเทศไทยเคยเป็นประเทศที่สงบ ได้ชื่อว่า "สยามเมืองยิ้ม" ติดอันดับที่นักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกต้องการที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว แต่ ณ วันนี้สิ่งเหล่านั้นกลับหายไปจากฝีมือของทรราชนักโทษหนีคดี พ.ต.ท.นช.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว หากว่าจังหวัดภูเก็ต มีโอกาสได้รับคัดเลือกเป็นสถานที่จัดประชุมอาเซียนซัมมิต+3+6 จริง เราจะเป็นส่วนช่วยรัฐบาลในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศให้กลับมาอีกครั้ง เพียงขอให้รัฐบาลอย่าเป็นสุภาพบุรุษมากจนเกินไป กฎหมายต้องเป็นกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ อย่าเห็นแก่นักการเมืองเพียงกลุ่มเดียว ผู้ที่คิดหวังจะแสวงหาผลประโยชน์จากประเทศชาติ หรือเกรงกลัวผู้ที่คิดจะล้มล้างสถาบัน และประเทศชาติ เราจะไม่ยอมให้ภาพที่เมืองพัทยา เกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต อย่างแน่นอน

ผู้ว่าฯภูเก็ตย้ำ รบ.เลือกภูเก็ต
ต้องไม่แบ่งสี-เน้น รปภ.เข้ม

ด้านนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรมการจังหวัดประจำเดือน เม.ย.52 ที่ห้องประชุมศาลากลางหลังใหม่ถึงการเตรียมความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต หากรัฐบาลตัดสินใจเลือกใช้จังหวัดภูเก็ต เป็นสถานที่จัดประชุมอาเซียนซัมมิตว่า ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการเลือกภูเก็ตเป็นสถานที่จัดประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งใหม่ แต่มีความเป็นไปได้ว่าจังหวัดภูเก็ตอาจจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดประชุมครั้งต่อไปหลังจากต้องยกเลิกการประชุมดังกล่าวที่พัทยาไปเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของสถานที่ในการจัดประชุมครั้งใหม่ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตก็ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ และได้มีการประสานถามความเห็นจากหลายฝ่ายซึ่งต่างก็เห็นด้วยและพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากภูเก็ตได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดประชุมอาเซียนซัมมิตสิ่งที่จะต้องเข้มงวดเป็นอย่างมากคือเรื่องของการดูแลรักษาความปลอดภัยผู้เข้าร่วมประชุม ผู้ติดตาม และที่สำคัญจะต้องไม่มีปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องของสีเสื้อ ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีแดง สีน้ำเงิน แต่ทุกคนจะต้องเป็นสีเดียวกันหมดคือสีภูเก็ต เพื่อที่จะให้การประชุมไม่มีปัญหา นอกจากนั้นสิ่งที่จังหวัดภูเก็ตจะต้องทำอีกเรื่องคือเรื่องของการปรับปรุงภูมิทัศน์เมืองซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมกันดูแลให้เกิดความสวยงามเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม

นายวิชัย กล่าวต่อไปว่า ถ้าหากเลือกภูเก็ตเป็นสถานที่จัดประชุมนั้นจะส่งผลดีต่อจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยอย่างแน่นอนทั้งเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้เข้าร่วมประชุม นักท่องเที่ยว โดยคนเหล่านี้จะได้เข้ามาเห็นข้อมูลที่แท้จริงว่าภูเก็ตเราไม่มีปัญหาอะไรยังสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ และสิ่งที่จะตามมาคือนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อมซึ่งไม่ใช่เฉพาะภูเก็ตแต่รวมถึงประเทศไทยด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น