ASTVผู้จัดการรายวัน – เบบี้มายด์หวั่นตลาดรวมสินค้าแม่และเด็กแข่งดุ คาดเทรนด์ลอกเลียนสินค้าและตัดราคามาแรง ทุ่มงบตลาด 20 ล. อัดเกมตลาดเต็มที่ ขยายกลุ่มผู้ใหญ่ หวังกระตุ้นตลาดรวมให้โต 20-30% จากปรกติโตแค่ 7%
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อแม่และเด็กแบรนด์ “เบบี้มายด์” เปิดเผยว่า ตลาดรวมผลิตภัณฑ์แม่และเด็กใน 3 กลุ่มใหญ่คือ น้ำยาซักผ้าเด็ก น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็กและน้ำยาล้าล้งขวดนมปีนี้จะคาดว่ามีอัตราการเติบโบโตตเพียง 7% เท่านั้น อันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี และการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ปีนี้มีแนวโน้มว่า ผู้ประกอบการจะหันมาลอกเลียนแบบสินค้าของคู่แข่งที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้นอย่างชัดเจน รวมทั้งการแข่งขันด้านการตัดราคา ซื้อ 1 แถม 1 ชิ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนักในตลาดสินค้าแม่และเด็กนี้ โดยเฉพาะเรื่องการลอกเลียนแบบสินค้า
ขณะที่ตลาดรวมเองก็เติบโตน้อย ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายใหญ่อย่าง เบบี้มายด์ ต้องเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นตลาด โดยหวังที่จะให้ตลาดรวมเติบโตมากกว่า 20-30% ในทุกกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันเบบี้มายด์เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งที่มากกว่า 50% ในทุกกลุ่ม ซึ่งอันดับสองนั้นถูกทิ้งห่างเพราะมีแชร์แค่ 10-20% เท่านั้นเอง
โดยตลาดรวม น้ำยยาซักผ้าเด็กปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 338 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวมน้ำยาปรับผ้านุ่มเด็กในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 124 ล้านบาท และตลาดรวมน้ำยา ล้างขวดนมอยู่ที่ 171 ล้านบาท
สำหรับแผนตลาดของเบบี้มายด์ปีนี้ นายวิเชียรกล่าวว่า จะขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หลังจากที่เริ่มทดลองมาเม่อปีที่แล้วและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการขยายตลาดรวมให้เพิ่มขึ้นด้วย โดยตั้งงบการตลาดปีนี้ไว้ที่ 20 ล้านบาท ดำเนินกิจกรรมตลาดเต็มที่ ทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่ การจัดโรดโชว์ และการจัดอีเวนต์ เป็นต้น รวมทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ยกเว้นสื่อทีวี เพราะเป็นเจ้าตลาดอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้
ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ทุกกลุ่มเพื่อขยายตลาดกลุ่มผู้ใหญ่ตามแผนงานคือ 1.กลุ่มน้ำยาซักผ้าา เปิดตัววสูตร แฟมิลี่ทัช ที่สามารถใช้ซักเสื้อผ้าผู้ใหญ่ได้ 2.กลุ่มน้ำยาปรับผ้ายนุ่ม เปิดตัว 2 สูตร ใหม่คือ พิงค์ฟลอเร่และเทนเดอร์ซอฟท์ จากเดิมมีกลิ่นเดียวสำหรับเด็ก 3.กลุ่มล้างขวดนม สามารถนำไปขยายสู่การล้างผักผลไม้ได้
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อแม่และเด็กแบรนด์ “เบบี้มายด์” เปิดเผยว่า ตลาดรวมผลิตภัณฑ์แม่และเด็กใน 3 กลุ่มใหญ่คือ น้ำยาซักผ้าเด็ก น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็กและน้ำยาล้าล้งขวดนมปีนี้จะคาดว่ามีอัตราการเติบโบโตตเพียง 7% เท่านั้น อันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี และการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ปีนี้มีแนวโน้มว่า ผู้ประกอบการจะหันมาลอกเลียนแบบสินค้าของคู่แข่งที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้นอย่างชัดเจน รวมทั้งการแข่งขันด้านการตัดราคา ซื้อ 1 แถม 1 ชิ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนักในตลาดสินค้าแม่และเด็กนี้ โดยเฉพาะเรื่องการลอกเลียนแบบสินค้า
ขณะที่ตลาดรวมเองก็เติบโตน้อย ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายใหญ่อย่าง เบบี้มายด์ ต้องเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นตลาด โดยหวังที่จะให้ตลาดรวมเติบโตมากกว่า 20-30% ในทุกกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันเบบี้มายด์เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งที่มากกว่า 50% ในทุกกลุ่ม ซึ่งอันดับสองนั้นถูกทิ้งห่างเพราะมีแชร์แค่ 10-20% เท่านั้นเอง
โดยตลาดรวม น้ำยยาซักผ้าเด็กปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 338 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวมน้ำยาปรับผ้านุ่มเด็กในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 124 ล้านบาท และตลาดรวมน้ำยา ล้างขวดนมอยู่ที่ 171 ล้านบาท
สำหรับแผนตลาดของเบบี้มายด์ปีนี้ นายวิเชียรกล่าวว่า จะขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หลังจากที่เริ่มทดลองมาเม่อปีที่แล้วและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการขยายตลาดรวมให้เพิ่มขึ้นด้วย โดยตั้งงบการตลาดปีนี้ไว้ที่ 20 ล้านบาท ดำเนินกิจกรรมตลาดเต็มที่ ทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่ การจัดโรดโชว์ และการจัดอีเวนต์ เป็นต้น รวมทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ยกเว้นสื่อทีวี เพราะเป็นเจ้าตลาดอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้
ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ทุกกลุ่มเพื่อขยายตลาดกลุ่มผู้ใหญ่ตามแผนงานคือ 1.กลุ่มน้ำยาซักผ้าา เปิดตัววสูตร แฟมิลี่ทัช ที่สามารถใช้ซักเสื้อผ้าผู้ใหญ่ได้ 2.กลุ่มน้ำยาปรับผ้ายนุ่ม เปิดตัว 2 สูตร ใหม่คือ พิงค์ฟลอเร่และเทนเดอร์ซอฟท์ จากเดิมมีกลิ่นเดียวสำหรับเด็ก 3.กลุ่มล้างขวดนม สามารถนำไปขยายสู่การล้างผักผลไม้ได้