xs
xsm
sm
md
lg

ย้ายทหารกระชับอำนาจ เด็ก"ประวิตร-อนุพงษ์"ผงาด-ล้าง"เพื่อนแม้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ประวิตร-อนุพงษ์" กระชับอำนาจ ย้ายเด็กในสายเข้ายึดตำแหน่งสำคัญตามการปรับโครงสร้างใหม่ พร้อมล้าง ตท.10 "เพื่อนแม้ว" พ้นทาง ส่วนกองทัพอากาศ ยุบ 3 กองบัญชาการ เผยตำแหน่งใหม่ ผอ.ศูนย์อำนวยการราชพาหนะ คุมทั้ง ฮ. และเครื่องบิน

วานนี้( 27 เม.ย.) มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้นายทหารรับราชการ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ จำนวน 454 ตำแหน่ง โดยนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระรบรมราชโองการ ลง ณ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2552

ทั้งนี้มีรายงานว่า บัญชีโยกยายนายทหารกลางปี นายอภิสิทธิ์ ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีการคาดการกันว่า จะมีการประกาศก่อนสิ้นเดือนมี.ค. เพราะในคำสั่ง จะมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 เม.ย.52 ทำให้นายทหารที่มีรายชื่อได้รอคำสั่งเพื่อเข้ารับตำแหน่งใหม่ แต่เนื่องจากการปรับย้ายนายทหารครั้งนี้ ในส่วนกองทัพมีการปรับโครงสร้างใหม่ และยุบรวมหน่วยในเหล่าทัพหลายตำแหน่ง หลายอัตรา ทำให้ต้องรอในขั้นตอนของการประกาศในราชกิจจานุเบกษา

สำหรับการปรับโครงสร้างกองทัพครั้งนี้ มีเหตุผลเพื่อให้กองทัพมีสายการควบคุม และการสั่งการของสายการบังคับบัญชาให้สั้น และกะทัดรัด ถือเป็นครั้งแรกที่มีการปรับโครงสร้างของทุกเหล่าทัพ และเป็นการลงนามครั้งแรกในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรับมนตรี รวมทั้งเป็นครั้งแรกของพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรมว.กลาโหม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของ กลุ่มเพื่อน ตท.10 ที่สนิทสนมกับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่มาลงตำแหน่งในสำนักงานรมว.กลาโหม ในสมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นรมว.กลาโหม ถูกพล.อ.ประวิตร ปรับออกจากตำแหน่งทุกคน รวมทั้งผู้ที่ยังมีตำแหน่งหลัก ก็ถูกปรับออกจากกองทัพด้วย ซึ่งเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประวิตร ได้หารือกับ ผบ.เหล่าทัพ ว่าควรจะโยกกลุ่มเพื่อนที่สนิทกับพ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่งหลัก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดได้ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่

**สาย"ประวิตร-อนุพงษ์"ผงาด

สำหรับตำแหน่งสำคัญ ที่มีการปรับย้ายในส่วนสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.) มีการโยกคนสนิท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เพื่อเข้าสู่ตำแหน่งหลักประกอบด้วย พ.อ.ณัฐ อินทรเจริญ นายทหารคนสนิท พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. เป็นหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ รมว.กลาโหม พล.อ.อภิชาติ ทิมสุวรรณ ที่ปรึกษาพิเศษ สป. เป็น ผอ.ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร พล.ต. ภัทรกฤตย์ ธีระรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. เป็น ผช.หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ รมว.กลาโหม

พ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกลาโหม เป็นนายทหารฝ่ายเสธ.รมว.กลาโหม พ.อ.สัมพันธ์ ธัญญพืช เป็นนายทหารฝ่ายเสธ.รมว.กลาโหม พ.อ.กิตติภูมิ วงษ์ทิม เป็น นายทหารฝ่ายเสธ รมว.กลาโหม

ในส่วนกองบัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้ปรับโครงสร้างเป็น กองบัญชาการกองทัพไทย มีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนชื่อจาก กองบัญชาการทหารสูงสุด มาเป็นกองบัญชาการกองทัพไทยเท่านั้น สำหรับตำแหน่งสำคัญก็เปลี่ยนเพียงเล็กน้อย โดยมีพล.ต.อมรเทพ โรจนสโรช รอง จก.แผนที่ทหาร ขึ้นเป็น จก.แผนที่ทหาร แทน พล.ท. แดน มีชูอรรถ ที่เสียชีวิตลง รวมทั้งได้โยก พล.ท.ดุลกฤต รักษ์เผ่า แม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อนก๊วน พ.ต.ท.ทักษิณ (ตท.10) ออกจากทบ. มาเป็น รอง ผบ.หน่วยทหารพัฒนา เพื่อจ่อเป็นผบ.หน่วยทหารพัฒนา ในปลายปี

ทั้งนี้ ยังมีการยุบหน่วยสถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง มารวมกับกรมยุทธศึกษาทหารบก และเพิ่มอัตรา รองเสนาธิการทหารบก อีก 1 ที่นั่ง ทั้งดันตำแหน่งผู้บังคับจังหวัดทหารบก ให้เป็นอัตรา พลตรี ทุกจังหวัด รวมทั้งมีการเปลี่ยนชื่อหน่วย จากหน่วยบัญชาการกำลังสำรอง กลับมาเป็นหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน หรือ (รด.) เก่าเหมือนเดิม โดยตำแหน่งสำคัญที่ได้ปรับย้าย ประกอบด้วย พล.ท.มาโนช เปรมวงศ์ศิริ ผช.เสธ.ทบ. ฝ่ายกิจการพลเรือน เป็น รองเสธ.ทบ. พล.ท. อภิชัย พิณสายแก้ว ผบ.สถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูงที่ถูกยุบหน่วยข้ามมาเป็น ผช.เสธ.ทบ. ฝ่ายกิจการพลเรือน พล.ต.จิระเดช โมกขะสมิต รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็น แม่ทัพน้อยที่ 1

พล.ต.วิชิต ศรีประเสริฐ ผบ.มทบ.12 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผบ.พล.ร.6 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธงชัย เทพารักษ์ ผบ.มทบ.33 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.สุรพันธ์ พวงเพ็ชร์ ที่ปรึกษา ทภ.1 เป็น ผบ.มทบ.12 พล.ต.กัปนาท รุดดิษฐ์ ผบ.จทบ.เพชรบุรี เป็น ผบ.มทบ.15 พล.ต.สมชาย อัครวณิชชา ผบ.พลพัฒนาที่ 2 เป็น ผบ.มทบ.23 พล.ต.ชานุกร ตัณฑโกศล ผบ.จทบ.เชียงราย เป็น ผบ.มทบ.33 พล.ต.ศุภวุฒิ อุตมะ ผบ.พล.รบพิเศษที่ 1 เป็น ผบ.ศูนย์สงครามพิเศษ พล.ต.ยศนันท์ หร่ายเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. เป็น ผบ.พล.ร.11

พล.ต.สุกิจ เนื่องจำนง ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. เป็น ผบ.กองพลทหารปืนใหญ่ พล.ต.อุกฤษฎ์ ณรงค์วิทย์ ผู้ชำนาญการ ทบ. เป็น ผบ.จทบ.กาญจนบุรี พล.ต.เยาวดนัย ภู่เจริญยศ ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. เป็น ผบ.จทบ.ราชบุรี พล.ต.ประสงค์ บุตรขวัญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. เป็น ผบ.จทบ.สระบุรี พล.ต.พันธ์ศักดิ์ จันทร์ด้ง ผบ.จทบ.อุตรดิตถ์ เป็น ผบ.จทบ.เพชรบูรณ์ พ.อ.ชวลิต ชุนประสาน เป็น ผบ.พล.ร.6 พ.อ.ชยันต์ หวยสูงเนิน เป็น ผบ.จทบ.ร้อยเอ็ด พ.อ.พรวัฒน์ เปรมศรี เป็น ผบ.จทบ.อุตรดิตถ์ พ.อ.นิวัติชัย ถนอมธรรม เป็น ผบ.จทบ.พิษณุโลก พ.อ.อเนก อินทร์อำนวย เป็น ผบ.จทบ.เชียงราย พ.อ.โชค เพิกโสภณ เป็น ผบ.จทบ.ทุ่งสง พ.อ.ชาญประดิษฐ์ แสงนิล เป็น ผบ.จทบ.ปัตตานี

**ทร.ปรับเพียงเล็กน้อย

ส่วนกองทัพเรือ เพิ่มอัตรา รองเสธ.ทร. และ ผช.เสธ.ทร. ฝ่ายกิจการพลเรือน รวมทั้งเปลี่ยน กรมพลาธิการทหารเรือ เป็นอัตรา พลเรือโท สำหรับตำแหน่งสำคัญประกอบด้วย พล.ร.ท.นิคม หอมเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร. เป็น รองเสธ.ทร. พล.ร.ท.ดำรงศักดิ์ ห้าวเจริญ ผบ.สถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง เป็น ผช.เสธ.ทร.ฝ่ายกิจการพลเรือน พล.ร.ต.สุกิจ สยะนานนท์ เจ้ากรมพลาธิการทหารเรือ (อัตราพลเรือโท) พล.ร.ต. ลิขิต เจริญทรัพย์ รองผบ.กองเรือภาคที่ 3 เป็น ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ

**ยุบ 3 กองบัญชาการ ทอ.

สำหรับกองทัพอากาศ ที่มีการปรับโครงสร้าง ยุบ 3 กองบัญชาการประกอบด้วย กองบัญชาการยุทธทางอากาศ (บยอ.) กองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ (บนอ.) และกองบัญชาการฝึกศึกษาทหารอากาศ (บศอ.) และเพิ่มอัตรารอง เสธ.ทอ. 1 ตำแหน่ง และผช.เสธ.ทอ.ฝกร ทั้งยังได้เพิ่ม ตำแหน่ง ศูนย์อำนวยการเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ และศูนย์อำนวยการเครื่องบินพระราชพาหนะ เพื่อดูแลพระบรมวงศานุวงศ์ ในการเดินทางด้วยพระราชพาหนะ

สำหรับตำแหน่งที่มีการปรับย้ายประกอบด้วย พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ผบ.บยอ. เป็น ผบ.กรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ พล.อ.อ.มานิตย์ ช้างเผือก ผบ.บนอ. เป็นหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา พล.อ.อ.ดิลก ทรงกัลยาณวัตร ผบ.บศอ. เป็น ผช.ผบ.ทอ. พล.อ.ท.ศรีเชาวน์ จันทร์เรือง ผช.เสธ.ทอ.ฝ่ายยุทธการ เป็น รองเสธ.ทอ. พล.อ.ท.ชนะ อยู่สถาพร หน.ฝสธ.ผบ.ทอ. ที่เคยออกไปรับตำแหน่ง ผู้ว่าการท่าอากาศยานฯ และขอกลับเข้า ทอ. ได้ตำแหน่ง เป็น รองผบ.กรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ พล.อ.ท.ภควัต รื่นพิพัฒน์ รองผบ.บยอ. เป็น ผช.เสธ.ทอ.ฝ่ายกิจการพลเรือน พล.อ.ท.วิทยา เปล่งวิทยา เจ้ากรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ เป็น ผช.เสธ.ทอ.ฝ่ายยุทธการ

พล.อ.ต.วิโรจน์ นิสยันต์ รองจก.ควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ เป็น รองผบ.หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน พล.อ.ต.ชลิตเดช สุดมะโนกุล ผู้ชำนาญการ ทอ. เป็น ผู้บังคับการศูนยการทหารอากาศโยธิน พล.อ.ต. พลเทพ โหมดสุวรรณ เจ้ากรมลาดตระเวนทางอากาศ เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันทางอากาศ กรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ พล.อ.ต.สุรทรง เพ็ญโฉม ผบ.พล.บินที่ 1 เป็น ผู้บังคับศูนย์อำนวยการเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ พล.อ.ต.ธานินทร์ ทัตตานนท์ ผบ.พล.บินที่ 3 เป็น ผู้บังคับศูนย์อำนวยการเครื่องบินพระราชพาหนะ

**เด้ง"เพื่อนแม้ว"เข้ากรุ

สำหรับกลุ่มเพื่อ ตท.10 กลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้กลับมาได้ตำแหน่งสำคัญในสมัย นายสมัคร เป็น รมว.กลาโหม โดนโยกออกเข้ากรุ ประกอบด้วย พล.อ.อ. สุเมธ โพธิ์มณี หน.ฝ่ายเสนาธิการ รมว.กลาโหม เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. พล.อ.พงศ์ทัศน์ เศวตรเศรนี ผอ.ศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร โยกเป็น ที่ปรึกษาพิเศษ สป. พล.ท.วิเชียร วิเวก เป็นผู้ทรงคุณพิเศษ สป. พล.ท.มนัส เปาริก ผช.หน.ฝสธ.รมว.กลาโหม และอดีตรองมทภ.3 เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. พล.ท.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผช.หน.ฝสธ.รมว.กลาโหม และอดีต ผบ.พล.1 รอ. เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. พล.อ.ท.พงศธร บัวทรัพย์ ผช.หน.ฝสธ.รมว.กห. เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. พล.ท.โสภณ ดิษฐแย้ม แม่ทัพน้อยที่ 2 ก็โดนโยกเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ.(อัตราพลเอก) หลุดสายคุมกำลัง พล.ท.ดุลกฤต รักษ์เผ่า แม่ทัพน้อยที่ 1 ก็โดนโยกออกจาก ทบ. ข้ามไปในตำแหน่ง รองผบ.หน่วยทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกับ พล.อ.อนุพงษ์ จึงส่งไปให้เป็น รองผบ.นทพ. เพื่อจ่อขึ้นเป็น ผบ.นทพ. ในปลายปีนี้ พล.อ.ท.คำรบ ลียะวณิช ผบ.สถาบันวิชาการทหารอากาศชั้นสูง โดนโยกเป็น รองหน.คณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา พล.อ.ท. ธงชัย ธารนพ รองผบ.ฝึกศึกษาทหารอากาศ ถูกเด้งเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ.

ส่วนนายพลหญิงใหม่ ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯครั้งนี้มีจำนวน 7 คน 1.พ.อ.หญิงหรรษา ฤทธิวาจา เป็นผู้ชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 2.พ.อ.หญิงชกานาฎ จันทรวงศ์ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรงกลาโหม 3. พ.อ.หญิงกิติยา จันทรนิมะ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 4.พ.อ.หญิงศิริพร พันธุวนิช เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 5.น.อ.หญิงประนอม บำรุงพฤกษ์ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ทอ. 6.น.อ.หญิงอารยา จารุวณิช เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ทอ. 7.น.อ.หญิง ภัทริกา เทพสิทธา เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ ทอ.
กำลังโหลดความคิดเห็น