แอตต้าเผยเมย์เดย์ปีนี้ ไทยแห้วนักท่องเที่ยวจากตลาดจีน ระบุนักท่องเที่ยวชักแถวขอยกเลิกการเดินทางกว่า 90% จากที่จองไว้ว่าจะเดินทางมา 3 หมื่นคนสูญเงิน 600 ล้านบาท เหตุรัฐบาลสั่งห้าม วอน”มาร์ค”รีบยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะที่นายกแอตต้าคนใหม่เล็งจัดระเบียบกลุ่มธุรกิจ ประกาศพร้อมเดินเคียงรัฐแก้ปัญหา
นายวิชิต ประกอบโกศล อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์นักท่องเที่ยวจากตลาดจีนลดจำนวนลงมาก โดยช่วงวันแรงงาน หรือเมย์เดย์ ปีนี้( 1พ.ค.) นักท่องเที่ยวชาวจีนที่จองเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ได้แจ้งขอยกเลิกการเดินทางแล้วกว่า 90% จากยอดที่จองไว้ ราว 2-3 หมื่นคน ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้ในครั้งนี้ถึง 600 ล้านบาท สาเหตุเพราะช่วงนี้รัฐบาลจีนมีประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้ชะลอเดินทางมาประเทศไทย เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากไทยยังอยู่ในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ดังนั้นจึงขอร้องให้รัฐบาลเร่งพิจารณายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเร็ว พร้อมเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา หากสามารถทำได้ เชื่อว่านักท่องเที่ยวจากตลาดจีนจะสามารถกลับมาได้ภายใน 2 เดือนหน้า เพราะจีนเป็นตลาดที่อ่อนไหวพร้อมที่จะหยุดเดินทางทันทีหากประเทศใดมีเหตุไม่ปกติแต่ก็สามารถกลับมาได้เร็ว โดยเฉพาะกับประเทศไทย เพราะมีระยะทางใกล้ เดินทางได้บ่อยครั้ง
“ตอนนี้ชาวจีนที่ยกเลิกมาเที่ยวประเทศไทย เขาเปลี่ยนเดินทางไปประเทศอื่นๆแทน เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี และ ไต้หวัน ทำให้คาดว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนน่าจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยรวมทั้งปีไม่น่าเกิน 8 แสนคน แต่หากรัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินช้า ก็อาจเหลือแค่ไม่ถึง 6 แสนคน ลดลงกว่า 50% จากปีก่อนๆ”
ด้านนายอภิชาต สังฆอารี อดีตนายกสมาคมแอตต้า กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยว่า ที่หาก บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุจลาจล จะจ่ายค่าชดเชยให้สูงสุดถึงรายละ 1 ล้านบาท นั้นหากสามารถทำได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้สึกมั่นใจขึ้นและทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นกลับมาโดยเร็ว
ขณะที่ในการประชุมสมาชิกสามัญประจำปี 2552 ของแอตต้า ได้มีมติโหวตให้นายสุรพล ศรีตระกูล ขึ้นรับตำแหน่งนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) คนต่อไปแทนนายอภิชาต สังฆอารีย โดยนายสุรพล กล่าวถึงแนวทางการทำงานหลังได้รับตำแหน่งว่า จะเน้นประสานการทำงานร่วมกับสมาชิก พร้อมเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละตลาด มาร่วมกันวางกลยุทธ์ร่วมกัน และประสานไปยังสมาคมท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อทำงานร่วมกันด้วย
นอกจากนั้นจะแบ่งกลุ่มสมาชิกออกเป็นหมวดหมู่ เช่น ทัวร์ โรงแรม เป็นต้น เพื่อจะสามารถวางแผนเชิงลึกลงไปในแต่ละธุรกิจได้ และเข้าถึงปัญหาข้อเท็จจริงได้ดีกว่า โดยมีแผนนำสมาชิกออกไปขยายตลาดในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และยุโรปตะวันออก รวมถึงจะร่วมทำงานกับหน่วยงานรัฐและ ททท. อย่างใกล้ชิด
นายวิชิต ประกอบโกศล อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์นักท่องเที่ยวจากตลาดจีนลดจำนวนลงมาก โดยช่วงวันแรงงาน หรือเมย์เดย์ ปีนี้( 1พ.ค.) นักท่องเที่ยวชาวจีนที่จองเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ได้แจ้งขอยกเลิกการเดินทางแล้วกว่า 90% จากยอดที่จองไว้ ราว 2-3 หมื่นคน ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้ในครั้งนี้ถึง 600 ล้านบาท สาเหตุเพราะช่วงนี้รัฐบาลจีนมีประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้ชะลอเดินทางมาประเทศไทย เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากไทยยังอยู่ในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ดังนั้นจึงขอร้องให้รัฐบาลเร่งพิจารณายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเร็ว พร้อมเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา หากสามารถทำได้ เชื่อว่านักท่องเที่ยวจากตลาดจีนจะสามารถกลับมาได้ภายใน 2 เดือนหน้า เพราะจีนเป็นตลาดที่อ่อนไหวพร้อมที่จะหยุดเดินทางทันทีหากประเทศใดมีเหตุไม่ปกติแต่ก็สามารถกลับมาได้เร็ว โดยเฉพาะกับประเทศไทย เพราะมีระยะทางใกล้ เดินทางได้บ่อยครั้ง
“ตอนนี้ชาวจีนที่ยกเลิกมาเที่ยวประเทศไทย เขาเปลี่ยนเดินทางไปประเทศอื่นๆแทน เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี และ ไต้หวัน ทำให้คาดว่าปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนน่าจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยรวมทั้งปีไม่น่าเกิน 8 แสนคน แต่หากรัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินช้า ก็อาจเหลือแค่ไม่ถึง 6 แสนคน ลดลงกว่า 50% จากปีก่อนๆ”
ด้านนายอภิชาต สังฆอารี อดีตนายกสมาคมแอตต้า กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยว่า ที่หาก บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุจลาจล จะจ่ายค่าชดเชยให้สูงสุดถึงรายละ 1 ล้านบาท นั้นหากสามารถทำได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้สึกมั่นใจขึ้นและทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นกลับมาโดยเร็ว
ขณะที่ในการประชุมสมาชิกสามัญประจำปี 2552 ของแอตต้า ได้มีมติโหวตให้นายสุรพล ศรีตระกูล ขึ้นรับตำแหน่งนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) คนต่อไปแทนนายอภิชาต สังฆอารีย โดยนายสุรพล กล่าวถึงแนวทางการทำงานหลังได้รับตำแหน่งว่า จะเน้นประสานการทำงานร่วมกับสมาชิก พร้อมเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละตลาด มาร่วมกันวางกลยุทธ์ร่วมกัน และประสานไปยังสมาคมท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อทำงานร่วมกันด้วย
นอกจากนั้นจะแบ่งกลุ่มสมาชิกออกเป็นหมวดหมู่ เช่น ทัวร์ โรงแรม เป็นต้น เพื่อจะสามารถวางแผนเชิงลึกลงไปในแต่ละธุรกิจได้ และเข้าถึงปัญหาข้อเท็จจริงได้ดีกว่า โดยมีแผนนำสมาชิกออกไปขยายตลาดในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และยุโรปตะวันออก รวมถึงจะร่วมทำงานกับหน่วยงานรัฐและ ททท. อย่างใกล้ชิด