xs
xsm
sm
md
lg

กระสุนทหารยิง ‘สนธิ’ตร.ชี้ชัดปลอกเอ็ม 16สรรพาวุธทหารบกผลิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

6 วันคดีลอบสังหาร"สนธิ"หลักฐานชัด พบกระสุนเอ็ม 16 ผลิตโดยกรมสรรพาวุธทหารบก ตีตรา RTA ใช้เฉพาะทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 1 ตะลึงมือปืนยิงพยานเห็นเหตุการณ์ แต่โชคดีหลบได้ทัน “สนธิ”อาการดีวันดีคืน“อดุลย์” คนขับรถเริ่มรับประทานอาหาร 3 บิ๊กวงการสื่อชู“สนธิ”ทำเพื่อประเทศชาติ “สมเกียรติ”จี้ตั้งหน่วยปราบก่อการร้าย“พล.อ.ปฐมพงษ์”แคลงใจทหารประจำทุกแยกไม่วิทยุแจ้งกันบ้างหรือ ทางจีนยกย่อง"สนธิ"เป็นผู้นำประชาชนคนสำคัญของไทย

วานนี้ (22 เม.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม ยิงถล่ม นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งผ่านล่วงเลยมาเป็นวันที่ 6 แล้ว โดยมีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว แจ้งว่า จากการตรวจสอบ ที่เกิดเหตุได้ตรวจพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ขนาด 5.56 มม.จำนวน 3 ปลอก ซึ่งสองในสามเป็นกระสุนที่ผลิตโดยกรมสรรพาวุธทหารบกมีการตีตราสัญลักษ์ (RTA) ซึ่งย่อมาจากคำว่า ROYAL THAI ARMY และเป็นซีรี่ส์ที่ส่งให้เฉพาะหน่วยทหารหน่วยหนึ่งในสังกัดกองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1)ใช้เท่านั้น นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบกระสุนปืนอาก้า ที่ตกอยู่หลายสิบปลอก แต่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาได้ เนื่องจากกระสุนปืนชนิดนี้ไม่มีประจำการในหน่วยราชการของไทย

อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์แนวทางการสืบสวนเชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คนร้ายใช้ปืนอาก้า เป็นอาวุธหลักในการสังหารนายสนธิ เพราะเป็นอาวุธปืนสงครามที่อำนาจการทะลุทะลวงสูง อีกทั้งไม่มีข้อมูลในสาระบบ เนื่องจากเป็นอาวุธปืนจากประเทศรัสเซีย ที่หาซื้อได้ง่ายตามแนวชายแดน การติดตามที่มาของอาวุธทำได้ยาก แต่กระสุนปืนเอ็ม 16 ที่พบน่ามาจากปืนเอ็ม 203 ซึ่งเป็นปืนเอ็ม 16 ประกอบเครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ไว้ที่ด้านล่างของลำรางปืน ซึ่งคนร้ายน่าจะนำมาใช้เพื่อยิงลูกระเบิดถล่มรถยนต์ของนายสนธิ โดยไม่ได้ตั้งใจจะยิงปืนเอ็ม16 น่าจะเป็นการบังเอิญยิงออกไปเท่านั้นจึงมีปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุเพียง 3 ปลอกเท่านั้น

พยานหลบกระสุนรอดตาย

รายงานข่าวระบุอีกว่า ในส่วนความคืบหน้าของคดีนอกจากเด็กปั๊มที่เห็นเหตุการณ์ 2 คนแล้ว ชุดสืบสวนยัง ได้พยานปากสำคัญซึ่งเห็นเหตุการณ์อย่างละเอียด ตั้งแต่คนร้ายเริ่มลงมือจนเหตุการณ์ยุติ ซึ่งคนร้ายได้พยายามสังหารพยานโดยการยิงใส่แต่พยานหลบทัน ขณะนี้พยานคนดังกล่าวอยู่ในการคุ้มครองของชุดสืบสวนนครบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พฐ.เก็บหาหลักฐานจุดเกิดเหตุเพิ่ม

พ.ต.ท.เจริญ ปานคล้าย รอง ผกก.3 กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ นำกำลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานประมาณ 20 นาย เข้าตรวจบริเวณจุดเกิดเหตุที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกคนร้ายยิงถล่มอย่างละเอียดอีกครั้ง

โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแนววิถีกระสุน และรอยล้อรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด ของ นายสนธิ และรอยล้อรถกับดอกยางรถที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะ นอกจากนี้ กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง ได้เข้าตรวจสอบบริเวณชั้น 3 ของอาคารธนาคารแห่งประเทศไทยที่ถูกกระสุนยิงใส่กระจกจำนวน 1 นัด ซึ่งคาดว่า จะเป็นลูกหลงที่คนร้ายยิงใส่ตู้ควบคุมสัญญาณกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกบางขุนพรหม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ

พ.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ให้มาเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับร่องรอยล้อรถของ นายสนธิ และรถของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ โดยเฉพาะรอยดอกยางของรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงนายสนธิ นอกจากนี้ ตรวจสอบบ้านเรือนของประชาชนในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย เนื่องอาจจะถูกกระสุนลูกหลงจนได้รับความเสียหาย แต่ยังไม่กล้าเข้าแจ้งความ เพราะกลัวอันตราย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบว่า มีบ้านเรือนหลังใดที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พบแต่เพียงมีกระจกของอาคารธนาคารแห่งประเทศไทย ถูกยิงได้รับความเสียหายเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม ได้กระจายกำลังลงพื้นที่บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามหาพยานที่อาจจะเห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง

”สนธิ” อาการดีวันดีคืน

รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผอ.รพ.จุฬาฯ และคณบดีแพทยศาสตร์ จุฬาฯ แจ้งว่าอาการทั่วไปของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ป่วยรู้สึกตัวดีและช่วยเหลือตัวเองได้ บาดแผลไม่ติดเชื้อไม่มีอาการแทรกซ้อน รับประทานอาหารได้

นายวาร์ยุภักดิ์ มังคละสินธุ์ ผู้ป่วยรายนี้บาดแผลดีไม่มีไข้ อาการทั่วไปปกติดีสำหรับนายอดุลย์ แดงประดับ ขณะนี้ผู้ป่วยมีอาการคงที่ รู้สึกตัวดี หายใจเองได้ปกติ เริ่มรับประทานอาหารได้ พูดคุยได้ แขน ขา ยังมีแรงเท่าเดิม แผลที่แขนขวามีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย สัญญาณชีพปกติ ไม่มีไข้ และยังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียูต่อไป

3 บิ๊กสื่อชู “สนธิ”ทำเพื่อชาติ

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำ พธม. นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บก.อาวุโสหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ พร้อมด้วย 3 อดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสื่อมวลชนอาวุโส ได้แก่ นายมานิตย์ สุขสมจิตร นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร และนางบัญญัติ ทัศนียะเวช ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายสนธิ

หลังเข้าเยี่ยมนานเกือบ 1 ชั่วโมง นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร กล่าวในฐานะตัวแทนอดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติทั้ง 3 คนว่า การมาในวันนี้ เป็นการมาเพื่อแสดงความห่วงใยนายสนธิ สิ่งที่นายสนธิทำ เป็นการทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นอาชีวะปฏิญาณของคนทำหน้าที่สื่อ ผู้ที่ประกอบอาชีพสื่ออย่างซื่อสัตย์ตามหน้าที่ ถูกคุกคามทำร้ายมานานแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและอุกอาจมากในสังคมไทย เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องดูแลความปลอดภัยของคนทำงานสื่อ แต่ก็เป็นหน้าที่ของคนทำงานสื่อเองที่ต้องตระหนัก ถึงหน้าที่และอาชีพของตน และแม้ว่าการคุกคามสื่อจะเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เราในฐานะคนทำงานสื่อก็ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อตรงและเที่ยงธรรม

“สิ่งที่คุณสนธิทำถือว่าเป็นการทำเพื่อประเทศชาติและส่วนรวมอย่างแท้จริง เป็นการทำอาชีวะปฏิญาณของคนทำสื่อ เป็นการเสียสละ วันนี้ตอนที่เข้าไปเยี่ยมคุณสนธิแทบไม่ต้องพูดอะไรกัน แค่มองตาก็เข้าใจ คุณสนธิเสียอีกที่เป็นฝ่ายบอกพวกผมว่า ขอให้พี่สู้ต่อไปและอย่าท้อถอย คุณสนธิถือเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์ศักดิ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้สั้นๆ ว่า “ธรรมาธรรมะสงคราม” ทั้งนี้ สำหรับ "ธรรมาธรรมะสงคราม" เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นภายหลังจากได้ทรงฟังพระธรรมเทศนาซึ่ง สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงแสดงถวายในงานครบรอบวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อทรงพระราชนิพนธ์ชาดกนี้แล้ว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์แจกในโอกาสครบรอบวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 40 ปี เมื่อวันที่ 1 มกราคม พุทธศักราช 2463 โดยเนื้อหาในชาดก กล่าวถึงการต่อสู้กันของเทวดา 2 องค์ คือ "ธรรมมะเทวบุตร" เป็นเทวดาฝ่ายธรรมะ มีสัมมาทิฐิ และประกอบจริยวัตรดำเนินไปตามครรลองแห่งธรรม และ "อธรรมะเทวบุตร" เทวดาฝ่ายอธรรม มีมิจฉาทิฐิและประกอบจริยวัตรดำเนินไปในทิศทางแห่งอกุศลกรรมเสมอ

จี้ตั้งหน่วยปราบก่อการร้าย

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำ พธม. เปิดเผยว่า ควรมีการตั้งคณะกรรมการพิเศษปราบปรามผู้ก่อการร้ายให้เหมือนอเมริกาและยุโรปขึ้นมา เพื่อรับผิดชอบการก่อการร้ายในประเทศ เพราะการใช้หน่วยงานด้านความมั่นคงชุดเดิมๆ และบุคคลเดิมๆ ไม่สามารถรับมือกับกระบวนการใต้ดิน และกระบวนการการต่อต้านรัฐ ซึ่งในขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะจากปากคำของนายจักรภพ เพ็ญแข ที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเคลื่อนไหวใต้ดิน

“คุณสนธิยอมรับว่า มีกระบวนการต่อต้านรัฐที่มีกระบวนการเชื่อมโยงกับต่างประเทศ และมีกระบวนการใต้ดินที่รัฐบาลต้องเตรียมตั้งรับ และสมควรจะต้องตั้งหน่วยงานด้านความมั่นคงและตรวจสอบขึ้นมาใหม่อย่างในอเมริกา และในยุโรป เพราะหากใช้หน่วยงานเดิมหรือ บุคคลเดิมน่าจะไม่สามารถรับมือกับปัญหานี้ได้”แกนนำ พธม.กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า หลังออกจากโรงพยาบาลในวันศุกร์(24 เม.ย.) นายสนธิจะเปิดแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และท่าทีของพันธมิตรฯ แต่ยังไม่ได้กำหนดวันแน่นอน แต่คาดว่าจะหลังจากการจัดคอนเสิร์ตการเมืองที่ จ.ระยอง ในวันที่ 25 เม.ย.นี้

“พล.อ.ปฐมพงษ์”แคลงใจทหาร

เวลา 13.20 น.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย ที่ปรึกษาด้านการรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรประชาธิปไตย(พธม.)ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายสนธิ โดยใช้เวลาเยี่ยมประมาณ 40 นาที จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า นายสนธิ มีสติดี รู้เรื่องหมดทุกอย่าง และมีความห่วงใยในชาติบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ ตนขอฝากถึงพี่น้องพันธมิตรฯ ขอให้รักษาแนวทางในการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองต่อไป สำหรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ค่อนข้างได้รับคำชมจากประชาชน ดังนั้น จะต้องทำเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ชี้ให้เห็นว่ามีผู้คิดร้ายกับชาติ และทำลายล้างผู้ที่คิดจะมาช่วยแก้ปัญหาให้ชาติ

“ในความคิดของผมกรณีคุณสนธิอุกอาจมาก และรัฐจะต้องใช้เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการแก้ไขปัญหาผู้ที่คิดร้ายต่อชาติ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่พัทยาหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมไม่กลัวและผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็ไม่กลัว เราต้องอย่าให้คนพวกนี้เหิมเกริม และต้องไม่ประมาท ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา อย่าตกเป็นเครื่องมือคนชั่ว คนบ้า คนขี้ขลาด คนคดโกง ที่พอจะมีอย่างเดียวคือมันสมองที่จะคิดร้ายต่อชาติบ้านเมือง”

นอกจากนี้ ตนมีข้อสังเกตว่า มีการยิงกันนาน เสียงปืนหูดับตับไหม้ ทหารเต็มบ้านเต็มเมืองอยู่ทุกสี่แยก จะไม่มีวิทยุบอกกันเลยหรือว่าเกิดอะไรขึ้น มันน่าจะต้องมีคนปิดหัว-ท้ายถนนหรือไม่ ซึ่งข้อมูลนี้ส่งผลให้คิดได้ว่า 1.การทำงานในครั้งนี้มันจะต้องอยู่ในความรับรู้รับเห็นของใครบ้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้รักษากฎหมาย หรือผู้รักษาความสงบ 2.เมื่อรู้เห็นแล้วการตั้งกรรมการสอบโดยรัฐบาลจะต้องให้เกิดความชัดเจนว่า ใครจะรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะอยู่ในช่วง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

“ถามว่าอาวุธสงครามหาได้ไหม ตอบว่าหาได้ง่ายไม่อยาก โดยเฉพาะตามชายแดนมีเป็นจำนวนมาก แต่คนใช้ต้องชำนาญในการใช้ วิถีการตกของกระสุนหากยืนอยู่บนพื้นการตกจะไม่ใช่แบบนี้ รอยการตกของกระสุนแบบนี้ต้องยืนอยู่บนกระบะ ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องพิจารณาอย่างละเอียดทั้งนั้น”พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าว

มั่นใจ “ธานี-วรพงษ์”

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการทำคดี คงเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวน ซึ่งตนรู้จักมานานว่าเป็นคนดี ก็หวังได้ว่าจะทำให้คดีต่างๆ ชัดเจนมากขึ้น รวมถึง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.อยากให้กำลังใจให้ทำงานให้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลข่าวสารที่ผ่านมาทางตน ตนก็พยายามส่งผ่านไปให้ ASTV ให้ช่วยกันสังเกตว่า พวกนี้มันมาอย่างไร วิเคราะห์ออกมา สารที่ส่งมาให้ส่วนมากจะเป็นข้อมูลว่าผู้ที่ทำร้าย จะได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง แนวทางหลบหนีจะออกไปทางไหนได้บ้าง รวมถึงข้อสังเกตอื่นๆ ซึ่งสมมติฐานว่า การมาทางเรือมีไหม หรือเอากระสุนที่เคยยิงถล่ม ASTV มาเปรียบเทียบกับกรณีการยิงนายสนธิ รวมถึง CCTV ที่เสียกะทันหันเกิดจากอะไร

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า อย่าสอบถามแต่เพียงพยานอย่างเดียว ต้องเปิดโอกาสให้แหล่งข่าวที่กลัวจะถูกข่มขู่ปองร้ายให้ส่งข้อมูลเข้ามาด้วย ตนเสนอให้เปิดศูนย์รวบรวมข้อมูลข่าวสารประชาชน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่ส่งมาบอกด้วยว่าผู้ที่ดำเนินการลอบสังหารครั้งนี้ ถือว่าทำงานไม่ได้ผล กำลังจะถูกเก็บหรือไม่ก็ต้องแก้ตัวอีกครั้ง ถึงตอนนี้ก็ต้องระวังเพราะทุกคนที่ต่อสู้กับความชั่วร้ายต้องเจอหน้าคนพวกนี้ ต้องระมัดระวังอย่าประมาท ตนเองก็ต้องระมัดระวังตัวเพราะมีคนเตือนมาเยอะ แต่ก็ไม่กลัวเพราะหากกลัวประเทศชาติก็ยิ่งอันตราย

จับคนร้ายเรียกความเชื่อมั่นปชช.

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำ พธม.ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายสนธิ พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องการให้รัฐบาลเร่งจับตัวอาชญากรที่ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้เร็วที่สุด ส่วนอาการของนายสนธิ นั้นมีกำลังใจดี และคาดว่าอาจจะสามารถไปร่วมคอนเสิร์ตการเมืองที่หาดใหญ่ได้ วันนี้มีคนเยี่ยมเยอะรู้สึกว่าจะพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงอยากให้นายสนธิ ได้พักผ่อนมากๆ ขณะนี้อยากให้รัฐดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า รัฐบาลจะเข้มแข้งหรืออ่อนแอ

ต่อข้อถามว่ามีการกำหนดเวลาให้รัฐในการจับกุมผู้กระทำผิดหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีการกำหนดเวลา แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์อุกอาจที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ในช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำเป็นต้องใช้กลไกของรัฐในการดำเนินการ แต่หากทำไม่ได้ก็คงต้องมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งรัฐควรจะจับคนร้ายให้ได้ เพื่อให้ได้รับความเชื่อมั่น

“คุณสนธิเป็นคนเก็บรายละเอียดได้ดี เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงมีสมาธิเก็บรายละเอียดได้มากพอสมควร คิดว่าคุณสนธิต้องรู้พอสมควร แต่ส่วนที่คาดว่าจะเป็นใครยังไม่ขอเปิดโปง พวกเราก็ต้องระวังตัวกันทุกคน เพราะรู้ว่าไม่มีศัตรูทางอื่นนอกจากเรื่องการเมือง คนที่ทำต้องเป็นคนที่เสียอำนาจ เสียผลประโยชน์”

"จีน"ยกย่อง"สนธิ"

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออก “ใบเหลือง”เพื่อเตือนให้ประชาชนจีนที่จะเดินทางเข้ามาทำธุรกิจ หรือท่องเที่ยวประเทศไทย ให้ระมัดระวังต่อการเข้ามายังประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยในช่วงนี้อยู่ในภาวะไม่ปกติ อันเป็นเหตุจากการลอบสังหารนายสนธิ ซึ่งทางการจีนยกย่องว่านายสนธิ เป็นผู้นำประชาชนคนสำคัญของไทย และมีบทบาทอย่างสูงในการเมืองไทยที่ถูกคุกคามหมายเอาชีวิตจากกลุ่มอำนาจมืด แสดงว่าการเหตุลอบสังหารนายสนธิ ได้ส่งผลกระทบต่อสังคมไทยแล้ว

โชว์หน้าพยานผิดละเมิดสิทธิ

นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันที่ 22 เมษายน 2552 (โดยลงทั้งกรอบเช้าและบ่าย)ด้วยการนำภาพพยานคนสำคัญในคดีลอบฆ่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ มาตีพิมพ์หน้าหนึ่ง พร้อมบรรยายภาพว่าชื่ออะไร เป็นพยานในคดีใด ว่า ตนในฐานะดูแลเรื่องการถูกละเมิดสิทธิ ซึ่งสามารถสร้างความตระหนักให้กับพยานคนดังกล่าวได้ว่า หากมีการนำภาพเผยแพร่ จนเป็นเหตุให้พยานคนดังกล่าวได้รับอันตราย หรือเสียชีวิต ซึ่งถือว่าเกิดความเสียหายขึ้น พยาน หรือญาติมีสิทธิยื่นฟ้องดำเนินคดีกับสื่อดังกล่าวได้ แต่กรมคุ้มครองฯยังไม่สามารถเป็นคู่กรณีไปฟ้องสื่อได้ในตอนนี้ เนื่องจากพยานคนดังกล่าวเป็นพยานในคดีของตำรวจ ประกอบกับพยานยังไม่ได้ยื่นร้องขอ ซึ่งในระเบียบการคุ้มครองพยานของตำรวจก็มีระบุถึงขั้นตอนปฏิบัติกับพยานชัดเจนอยู่แล้ว หากการเปิดเผยใบหน้าชัดเจนของพยานเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ตำรวจต้องเข้าไปดูแล ซึ่งตนก็ไม่ทราบเช่นกันว่าที่ผ่านมาทางตำรวจได้ห้ามเผยแพร่ภาพพยานคนดังกล่าวหรือไม่ ถ้ามีการห้ามกันไว้อยู่แล้ว แต่ยังนำมาเผยแพร่ก็ถือว่าผิด

นางสุวณา กล่าวต่อไปว่า หากการเผยแพร่ภาพพยาน ส่งผลให้ภายหลังพยานถูกข่มขู่ คุกคาม ถ้าพยานต้องการให้กรมคุ้มครองฯ เข้าไปดูแลคุ้มครอง คนที่เป็นพยานต้องยื่นเรื่องมาที่กรมได้ทุกเมื่อ

"ตนพยายามหาวิธีสร้างความตระหนักเกิดกับสังคม โดยเฉพาะกับสื่อ ไม่มีการนำภาพ ชื่อ พยานในแต่ละคดีสำคัญมาเปิดเผย เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิ จะทำให้พยานนั้น ๆ ไม่ปลอดภัย ยิ่งในช่วงเวลาสังคมวุ่นวาย ในขณะนี้ "

เพิ่มตำรวจคุ้มเข้มศาลรธน.

วันเดียวกันนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เพื่อหารือในมาตรการรักษาความปลอดภัยศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้ใช้เวลาร่วมหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง

ภายหลังหารือแล้วเสร็จ นายพสิษฐ์กล่าวว่า การหารือร่วมกับ พล.ต.ท.วรพงษ์ ได้รับปากว่าจะแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด โดยจะเพิ่มเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลภายในบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ และดูแลรักษาความปลอดภัยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งข้าราชการศาล รธน. มากขึ้น ซึ่งหลังการหารือครั้งนี้ตนรู้สึกมั่นใจ และเชื่อมั่น ผบช.น.ว่าจะกำกับดูแลความปลอดภัยให้ดีที่สุดต่อไป

ส่วนการรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบบ้านพักตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคนก็เกิดความมั่นใจ และมีกำลังใจทำงานให้ประเทศดีที่สุด

ส่วนกรณีจ้าง รปภ.พิเศษ รักษาความปลอดภัยศาลรัฐธรรมนูญ จากแนวคิดนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายพิสิษฐ์กล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอย่างเต็มที่และเข้มงวด ตนเชื่อว่ามีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

ส่วนกรณีที่คนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่ศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายพิสิษฐ์กล่าวว่า ได้รับรายงานคดีมีความคืบหน้ามาก ซึ่งก็พอใจต่อการทำงานของตำรวจที่ทำงานได้กระชับ ทำให้มั่นใจมากขึ้น

ทางด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.กล่าวว่า ได้ดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยเต็มกำลัง และพร้อมที่จะแก้ไขถ้าส่วนไหนบกพร่อง ซึ่งก็ได้กำชับให้ตั้งจุดตรวจสกัดรอบ กทม.ในรูบแบบใยแมงมุม เน้นให้มีการตรวจค้นเข้มข้นมากขึ้น พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิทย์ ผบก.น.6 จัดเพิ่มกำลังเข้าดูแลรอบบริเวณศาลรัฐธรรมนูญอีกชั้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น