“สมศักดิ์” เผยชาวบ้านสงสัย “มาร์ค” ให้ดอกไม้ “เนวิน” จับตาเงื่อนไขแก้ รธน.เพื่อใคร หากแก้เพื่อปลดล็อกให้ตัวเอง เจอดีแน่ ถาม “บรรหาร-ยี้ห้อย” ทำไมเพิ่งมารักชาติ แนะพี่น้องพักผ่อนเอาแรง เตรียมมือตบให้พร้อม ใครทรยศหักหลัง พร้อมเป่านกหวีด ระดมพลอย่างต่ำ 5 แสน ม้วนเดียวจบ ด้านอดีตทูต “สุรพงษ์ ชัยนาม” ระบุสื่อนอกรายงานข้อมูลเท็จ หวังให้ “ทักษิณ” กลับมา เพราะสนองประโยชน์ให้มากกว่า ย้ำ ปชช.ต้องใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ไม่ต้องกลัวต่างชาติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทาง ASTV NEWS1 วันที่ 11 ธันวาคม 2551 จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ดำเนินรายการ มีแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 1 สมศักดิ์ โกศัยสุข และสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำหลายประเทศร่วมปราศรัยถึงสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน และแนวทางการต่อสู้ของพันธมิตรฯ
จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะ พ่อแม่พี่น้องคะ สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทางบ้าน และขอต้อนรับพี่น้องของเราที่เข้ามาชมรายการสดในห้องส่งด้วยนะคะ พี่น้องเอ๊ย (เสียงมือตบ) คุ้นเสียงนี้กันดีนะคะ หายเหงาไปได้บ้างแล้ว เริ่มชินกัน ส่วนใหญ่บอกว่าเริ่มแล้ว เพราะวันแรกๆ เดินเข้าเดินออกไม่รู้จะทำอะไรดี แต่ตอนนี้เริ่มทำความคุ้นเคยกับการจัดรายการในห้องส่งได้บ้างแล้ว
คุณผู้ชมคะ วันนี้วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2551 รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้ ก่อนที่เราจะไปดูสรุปข่าวในช่วงเย็นเกิดอะไรขึ้นบ้างตลอดวันที่ผ่านมา เกิดข่าวเด่นๆ อะไรบ้างพอสังเขปเนี่ยนะคะ เราขอประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้าน ตามจังหวัดต่างๆ ที่มีการเคลื่อนไหวขับเคลื่อนการเมืองใหม่จะจัดกิจกรรม จะจัดเวทีอะไรนี่นะค่ะ ฝากทาง ASTV เป็นศูนย์กลางในการจะประชาสัมพันธ์ข่าวคราวให้ได้นะคะ โดยสามารถโทรศัพท์มาฝากข่าวได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2629-4433 ค่ะ หรือว่าถ้าพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้าน หรือคุณผู้ชมที่อยู่ทางบ้านอยากจะส่ง SMS เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น หรือว่าทักทายกันให้หายคิดถึงกัน หน้าจอ พิมพ์ N1 เว้นวรรค ตามด้วยข้อความ ส่งมาที่หมายเลข 4850770
ส่วนวันนี้จะมีอะไรกันบ้างนั้น ก่อนที่จะไปพบกับผู้ปราศรัยของเราในช่วงแรก เรียนท่านผู้ชมก่อนนะคะว่าเราได้ไปดูอาการบาดเจ็บของพี่น้องของเราที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ท่านแรกคือ พี่ธัญญา กุลแก้ว หรือพี่เจ๊ก พี่เจ๊กอายุ 47 ปีแล้ว คงยังจำกันได้ พี่เจ๊กนั้นขาซ้ายขาดจากเหตุการณ์ยิงแก๊สน้ำตาที่หน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เป็นพันธมิตรฯ มาจาก จ.ชุมพร ตอนนี้พี่เจ๊กรักษาตัวอยู่ที่อาคารจงกลณี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ล่าสุดทีมงานของเราบอกว่า อาการพี่เจ๊กดีขึ้นมาก บาดแผลที่ลำตัวและขาขวาหายเกือบเป็นปกติแล้ว แต่แขนขวายังอ่อนแรงอยู่ คุณหมอต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ คุณหมอคาดว่าภายใน 2 เดือนนี้จะสามารถทำขาเทียมใส่ให้พี่เจ๊กได้แล้ว พี่เจ๊กยืนยันกับทีมงานของเรา บอกว่า ภายหลังเกิดเหตุตั้งแต่ไปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่เคยมีตำรวจเข้าไปสอบปากคำพี่เจ๊กเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดแม้แต่ครั้งเดียวค่ะพ่อแม่พี่น้องคะ แต่ว่าอย่างไรก็ตาม พี่เจ๊กบอกว่า ไม่คิดจะเรียกร้องให้ตำรวจหาตัวผู้ก่อเหตุ เพราะไม่คาดหวังอะไร คิดว่าที่ตัวเองต้องเป็นอย่างนี้ถือซะว่าเป็นกรรมเก่าก็แล้วกัน แต่ว่าทำดีที่สุดแล้วเพื่อรักษาบ้านนี้เมืองนี้เอาไว้
ส่วนท่านที่สองค่ะ เจ๊ฮวง หรือว่าพี่ฮวงของน้องๆ คุณ รุ่งทิวา ธาตุนิยม เหยื่ออีกคนหนึ่งในเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งถูกแรงระเบิด ได้รับผลกระทบอย่างหนักที่สมองนะคะ ยังอยู่ในความดูแลของคุณหมออย่างใกล้ชิด ภายในห้อง ICU ที่อาคารสิริกิตติ์ รพ.จุฬาฯ คะ แม้ว่าจะพ้นขีดอันตรายแล้วนะคะ คุณหมอจะสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้แล้วนะคะ แต่ว่าร่างกายของพี่ฮวงนั้นตอบสนองได้เพียงการกระพริบตาเท่านั้น และยังต้องให้อาหารทางสายยางเท่านั้นค่ะพี่น้อง
ต่อมานะคะ ท่านที่สามนะคะ คุณสุพรรณา อายุ 58 ปี ค่ะ คุณสุพรรณา พันธมิตรฯชลบุรี นะคะ ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหลังด้านซ้าย จากเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงระเบิด M-79 เข้าใส่ผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อกลางดึกวันที่ 29 พฤศจิกายน วันนี้คุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วนะคะ โดยนัดให้มาตรวจบาดแผลที่ไหล่ซ้ายอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ถัดไป ส่วนสะเก็ดระเบิดที่ฝังอยู่ในผนังหัวใจนั้น คุณหมอบอกว่าต้องรอให้ผู้ป่วยนั้นมีอาการเจ็บป่วยก่อน จึงจะสามารถรักษาได้ค่ะ แล้วพี่น้องค่ะ เรายังมีพี่น้องของเราอีกหลายคนที่อาการบาดเจ็บ ยังต้องใช้เวลาในการรักษาเยียวยา
วันนี้พี่น้องของเราคงได้เห็นแล้วนะคะว่าตำรวจทำอย่างไรกับพี่น้องพันธมิตรฯ ของเราบ้าง คิดดูก็แล้วกันค่ะพี่น้องคะ เราพี่น้องเราเสียชีวิตไป 9 รายด้วยกัน แต่ตำรวจไม่เคยหาตัวคนร้ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้แต่รายเดียว
แต่วันนี้ยังคงมีความพยายามนะคะที่จะใส่ร้ายใส่ความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ล่าสุดพี่น้องคงเห็นความ ต้องเรียกได้ว่าความอุบาทว์ วงจรอุบาทว์ของวงการตำรวจ ที่บอกว่าพบระเบิดหลากหลายชนิด รวมไปถึงกระสุนปืนอีกหลายชนิดด้วยกันที่โรงอาหารทำเนียบรัฐบาล เราออกจากทำเนียบเกือบสัปดาห์แล้วนะคะพี่น้อง แต่เราจะทิ้งอะไรอย่างนั้นเอาไว้เชียวหรือ คนไทยไม่โง่นะคะ คุณจงรัก จุฑานนท์ ฟังเอาไว้ด้วย คนไทยไม่ได้กินแกลบค่ะ ถ้าคุณคิดว่ารัฐตำรวจจะดูแลบ้านนี้เมืองนี้ได้ ไปดูแลที่อุดรธานีก่อนนะคะ ไปดูว่าคนเสื้อแดงเขาทำอะไรกันอยู่ แต่พันธมิตรฯ นั้นเขาอยู่กันอย่างสงบ สันติ อหิงสามาโดยตลอด คุณจงรักอย่าลืมว่า พวกเราไม่ใช่ควายค่ะ (เสียงปรบมือ)
แล้วก็อีกคดีหนึ่งนะคะพี่น้อง ที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้ได้ส่งทนายความไปฟ้อง นายแพทย์เหวง โตจิราการ หรือนายเหวง โตจิราการ พร้อมกับพวกรวม 7 คน ฐานแจ้งความเท็จ กรณีที่นายเหวงกับพวกเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ในข้อหาก่อการร้าย ข้อหาก่อการร้ายนะคะคุณผู้ชม พี่น้องขาเกิดมาในชีวิตนี้บางคนบอกแหมภูมิใจเหลือเกินได้เป็นผู้ก่อการร้ายในประเทศนี้ ทั้งๆ ที่ออกมาดูแลรักษาบ้านนี้เมืองนี้ไม่ให้คนชั่วคนเลวเข้ามาปกครองบ้านเมือง ปรากฏว่าการเข้าไปปิดล้อมสนามบิน 2 แห่ง และที่เขากล่าวหาเราว่า นำชายฉกรรจ์พร้อมกับอาวุธครบมือขึ้นไปยึดหอบังคับการบิน ซึ่งเขาบอกว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ แล้วการกระทำของพันธมิตรฯ นั้นอาจจะเป็นแบบอย่างให้กับกลุ่มก่อการร้ายสากลเลียนแบบได้ สาธุค่ะ ถ้ากลุ่มก่อการร้ายสากลจะเลียนแบบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พวกเรายินดีไหมคะ เราสงบ สันติ อหิงสา เราสงบ สันติ อหิงสา แต่เรากลัวเหลือเกินว่าผู้ก่อการร้ายสากลจะเลียนแบบเสื้อแดงที่หน้าบ้านป๋าเปรมมากกว่านะคะ
วันนี้ ทนายความของเรา พี่สุวัตร อภัยภักดิ์ เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำของเรากับพวกรวม 12 คน ที่โดนยื่นฟ้อง ไปยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ดำเนินคดีกับนายเหวง โตจิราการ กับพวกรวม 7 คน ฐานแจ้งความอันเป็นเท็จและร้องทุกข์กล่าวโทษด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เราต้องติดตามกันต่อนะคะว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร ใครโกหก ใครหน้าด้านออกมาโกหก และเรื่องนี้เราคงจะได้ติดตามกันต่อนะคะ เพราะว่าศาลแขวงพระนครเหนือนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 30 มีนาคม ปีหน้า เวลา 10.00 น.
มาดูอีกเรื่องนึงนะคะพี่น้อง พี่น้องคนกรุงเทพฯ ยังจำกันได้ไหมคะว่า เราเลือก ส.ว. เสียง 7 แสนกว่าเสียงเลือก พี่รสนา โตสิตระกูล วันนี้คนที่เคยด่าคนกรุงเทพฯ ว่าโง่ว่าเลือกพี่รสนาเข้ามาเป็น ส.ว. มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุล นะคะ จำหมายเลขนี้กันไว้ให้ดี แล้วจำกันไว้ด้วยว่าเขาด่าใครว่าโง่ด้วยนะคะ วันนี้ผลของกรุงเทพโพลออกมาแล้วนะคะล่าสุด ซึ่งเมื่อวันก่อนเอแบคโพลทำโพลออกมา ปรากฏว่า ม.ล.ณัฐกรณ์ เนี้ยมีคะแนนนำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์อยู่ อาจจะเรียกว่าเป็นจุดทศนิยม แต่เขาก็แปลกใจกันนะคะว่าทำไมผลโพลถึงออกมาเป็นแบบนั้น บางคนตกใจบอกว่าจริงเหรอ ถ้าจริงแบบนั้น ถ้าสุดท้ายวันเลือกตั้งเนี้ย ม.ล.ณัฐกรณ์ ได้เป็นผู้ว่าจริงเนี้ย ฉันขอย้ายไปอยู่ประทุมได้ไหม ผู้ว่าประทุมบอกว่ายินดีต้อนรับค่ะ นะคะ ปรากฏว่าวันนี้กรุงเทพโพลออกมาล่าสุดเนี้ยนะคะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้คะแนนออกมา 30.2 % นะคะ และรองลงมาคือ หมายเลข 8 ม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุล ได้เท่าไหร่คุณผู้ชมรู้ไหมคะ ได้เท่าไหร่ค่ะ 17.2 % ค่ะ 17.2 % กับ 30.2 % นะคะ ตามมาด้วย คุณยุรนันท์ ภมรมนตรี 7.7% และก็ อ.แก้วสรร อติโพธิ 4.6% ค่ะ ปรากฏว่าที่น่าห่วงคะพ่อแม่พี่น้องช่วยกระจายข่าวกันไปด้วยนะคะ มีอีกจำนวนมากที่เขาบอกว่าเขาไม่รู้ว่ามีการเลือกตั้งในวันที่ 11 มกราคมนี้นะคะ ประมาณ 52.5% ไม่ทราบว่ามีการเลือกตั้งผู้ว่า เพราะฉะนั้นช่วยบอกต่อๆกันไปด้วยนะคะพ่อแม่พี่น้องขา
วันที่ 11 มกราคมนี้ ไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เลือกคนที่พ่อแม่พี่น้องคิดว่าจะเข้ามาดูแลพี่น้องได้ ไม่ใช่เลือกคนที่จะเข้ามาจำกัดพื้นที่การชุมนุมใช่ไหมคะ ไม่ให้รถน้ำ ไม่ให้รถส้วมกับผู้ชุมนุมนะคะ จำได้ใช่ไหมค่ะว่าใคร นั่นแหละค่ะพี่น้องตัดสินใจกันเอาเอง ว่าจะเลือกใครนะคะ
มาดูในด้านของคนเสื้อแดงกันบ้าง เราดูคนเสื้อเหลืองกันไปเยอะแล้ว คนเสื้อแดงเนี้ย นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. หนึ่งในผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้เนี้ยนะคะ เขาออกมาบอกว่าวันที่ 13 ธันวาคมนี้ คุณทักษิณ ชินวัตร จะโฟนอินมาในรายการแน่นอนแล้วนะคะ แล้วก็อาจจะเป็นไปได้ที่คุณทักษิณ อาจจะพูดโน้มน้าวให้ ส.ส. พรรคพลังประชาชนเดิมเนี้ย กลับเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย เพราะว่าคุณทักษิณ สนิทกับ ส.ส. ทุกคนในพรรคพลังประชาชน แต่คงต้องรอดูการโฟนอินของคุณทักษิณ ชินวัตร ด้วย และคุณวีระยังบอกอีกว่าในวันชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงจะแตกต่างจากการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะไม่ใช้ความรุนแรง หรือทำอะไรที่ผิดกฎหมาย
ช่วยจำกันไว้ด้วยนะคะ ว่าคนเสื้อแดงเขาพูดว่าอย่างไร แล้วเขาบอกอีกว่าถ้าหากว่าจะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อโหวตเลือกนายกฯ จริงในวันที่ 15 เนี้ย เขาจะมีการรวมพลกันแล้วคะตอนนี้ เขารวมพลกันได้จาก 12 จังหวัด ทางเหนือแล้วก็อีสานด้วยนะคะ เขาจะมีการจัดเวทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม แล้วถ้ามีการประกาศนะคะ ซึ่งก็มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้วว่าให้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ วันที่ 15 ธันวาคมนี้ คนเสื้อแดงงานเข้าแล้วนะคะ มาจริงๆ นะคะ ขอให้มาจริงๆ ที่หน้าอาคารรัฐสภาวันที่ 15 เขาจะมากัน เขาบอกว่าตั้งเวทีเสร็จวันที่ 14 จะรวมพลเดินทางมาที่กรุงเทพฯ มาล้อมรัฐสภาเพื่อไม่ให้มีการโหวตเลือกนายกฯโดยเลือกคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็รอดูกันว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะเป็นอย่างไร จะสันติ อหิงสา เหมือนเราหรือไม่ แต่ขอเตือนคนเสื้อแดงนะคะ ระวังนะคะ แก๊สน้ำตาทำจากประเทศจีน รุนแรงมากนะคะ ทำให้แขนขาด ขาขาดได้คะ
แหมวันนี้นอกจากพี่น้องของเราในห้องส่งแล้ว มีอีกคนหนึ่ง คือถ้าทีมงานเขาไม่ได้บอกในหูเนี้ย แอนจะมองไม่เห็นเลยนะคะ เพราะแกดำมาก น้องตั้มขา น้องตั้มสวัสดีคุณผู้ชมทางบ้านด้วย กล้องจับอยู่นะคะ มีพี่น้องของเราทางบ้านนะคะ อยากเห็นน้องตั้มมาเป็นพิธีกรในห้องส่งด้วย แอนก็เลยบอกว่าได้คะ นำเสนอไปแล้ว ซึ่งทางทีมงานบอกว่าเร็วๆนี้ น้องตั้มจะกลับมาพบกับพ่อแม่พี่น้อง แต่เล่าเรื่องหนึ่งให้ฟังนิดหนึ่งนะคะ น้องตั้มเนี้ยไปอยู่ข้างหน้ารัฐสภา มีพี่ผู้หญิงเขายืนประจันหน้ากับตำรวจ น้องตั้มเขาก็บอกว่าพี่น้องครับ คล้องแขนกันเลย คล้องแขนกันเลย พี่ผู้หญิงเขาบอกว่าฟังไม่ชัดคุณแอน เพราะตั้มเนี้ยเขา วรรณยุกต์เพี้ยน เขาบอกอะไรของแถมๆอะไรนะ เขาก็เลยงงคะ เขาบอกอะไรตั้มพูดว่าอะไรของแถมๆ เขาก็เลยนึกว่าเอาขวดน้ำเนี้ยแถมให้ตำรวจด้วย เลยขว้างกันใหญ่เลย เขาบอกไม่ใช่พี่น้องอย่าขว้างตำรวจ คล้องแขนๆกันไว้ นี่ เป็นความน่ารักของตั้มอย่าง เป็นเสน่ห์นะคะ เดี๋ยวเร็วๆนี้จะได้พบกับน้องตั้มแน่นอน แต่ว่าวันนี้นะคะเรามีการปราศัยเช่นเคย ในช่วงต้นของรายการนะคะ วันนี้เราจะพบกับนักสู้ใจทรนง ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปรบมือต้อนรับพี่สมศักดิ์ โกศัยสุข พี่สมศักดิ์ ค่ะ สวัสดีคะ
สมศักดิ์ - ครับ ขอบคุณครับ ผมคิดว่าตอนนี้พี่น้องเราที่อยู่ทางบ้านก็กำลังทำเหมือนกัน สัญชาติญาณและก็ความมีจิตใจที่เป็นหนึ่งเดียวเนี้ย สัมผัสได้ และผมเชื่อว่าอย่างน้อยสิบล้านคนกำลังส่งเสียงขับไล่รัฐบาลทรราชที่เราทำ โฮ้ โฮ้ โฮ้ โฮ้ เนี้ย ครับ ผมพึ่งลงมาจากเครื่องนะครับ เพราะว่าได้รับมอบภารกิจให้ไปแสดงคารวะวีรชน น้องโบว์ ที่ จ.พัทลุง น้องรณชัย ที่สะบ้าย้อย จ.สงขลา แล้วก่อนจะไปนั่นพี่น้องชาวนครเขาก็จัดฉลองชัยชนะในระดับหนึ่ง ก็คนเยอะมากนะครับ ก็เลยหลังจากไปเคารพศพเสร็จก็มานคร ออกจากนครก็ไปสงขลาแล้ว
ก็กลับไปสะบ้าย้อยแล้วกลับมาสงขลาแล้วกลับไป จ.ตรัง เพราะว่าคุณพ่อของน้องหลวง ที่ จ.ตรัง ที่เป็นการ์ดอาสา แกดีใจมาก ฉลองแล้วสั่งลูกทุกคนไม่ชนะไม่ต้องกลับมา มาหมดละครับ แล้วก็เป็นไงรู้ไหมครับ แกก็ไม่มีภรรยาเลี้ยงลูก 2 คน เอาลูกไว้กับย่า ผมดูแล้วรู้สึกสุดยอดจริงๆ ย่าเฝ้าพ่อมาต่อสู้ แกก็ดีใจจนช็อกเสียชีวิตไป นะครับก็มีคนมากมาย ฉะนั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ไปที่สะบ้าย้อย พระท่านก็เทศน์ ท่านบอกว่าท่านก็ได้รับถวายมือตบเหมือนกัน แล้วก็พระก็มีมือตบด้วย ดังนั้นอยากจะบอกพี่น้องพันธมิตรฯ นะครับว่า เวลาเราจะถวายพระอย่าลืมใส่มือตบไปด้วยนะ มันไม่ผิดศีล
ตอนนี้เรากำลังสร้างวัฒนธรรมเครือข่ายพันธมิตรฯ ในทุกหนทุกแห่ง โรงเรียน นักศึกษามีหมด แล้วก็น่าชื่นชมประทับใจ ทุกคนก็ บิดา มารดาแม้จะรู้ว่าเสีย เพราะว่าแต่ละคนนั้น อย่างน้องรณชัยกำลังทำปริญญาเอกอยู่ น้องโบว์ก็ถือว่า ก็เรียนจบปริญญาตรีกันทั้งนั้น อย่างน้อย ทุกคนมีคนไปเยอะมาก พวกเราก็ไปกันเกือบทั่วประเทศ แล้วทำให้ผมเห็นว่า การเมืองใหม่มันเริ่มแล้ว มันไม่ได้ไม่เริ่ม มันเริ่มตอนที่เราผูกพัน แล้วทุกคนก็เสียสละไปกัน
แล้วอย่างที่ผมประกาศบนเวทีตลอดว่าเราคือครอบครัวใหญ่ ทุกวัน ทุกงานที่ไปนั้น ถามเจ้าอาวาส พี่น้องชาวบ้านทั้งหลายว่า ไม่เคยเห็นคนมากมายเท่ากับงานนี้มาก่อนตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน แสดงว่าเราครอบครัวใหญ่จริงๆ มีญาติ มีพี่น้อง มีผู้ที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้วก็ด้วยดวงใจจริงๆ ปรากฏว่าที่นั่นก็เคยมี นปก. ถิ่นของ จรัล ดิษฐาอภิชัย มีคนเขาเตือนผมเยอะบอกอย่าไป เพราะถ้าผมไม่ไปภาคใต้ก็ไม่ใช่ สมศักดิ์ โกศัยสุข ผมก็ไป ปรากฏว่าก็ไม่มีนะครับ หัวหน้า นปก.หายไปก่อนผมไป 3 วัน ไม่กล้าอยู่ ถามไปถามมาได้ความว่า ไม่ได้จริงใจอะไรหรอกครับเพราะเขาให้ตังค์มาก็รับไป ไปสมัครก็แค่นั้นเอง จิตใจก็ยังเหมือนเราอยู่ เออก็ยังดีนะ ยังคิดได้ เอาละเมื่อไม่มีอยากจะได้ก็ทำไป ใครจะทำยังไงก็ทำไปแต่ว่าลึกๆ ก็ไม่มีอะไร ฉะนั้นก็ไม่น่าเป็นห่วง
ปัญหาที่อยากจะกราบเรียนพี่น้องทุกคนนะครับว่า ในช่วง ขณะนี้เราถือว่าเราพักนะครับ อย่าคิดว่าจบแล้ว นี่คือการบริหาร วิธีที่ผมเรียนพี่น้องตลอด การบริหารความคิดเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราคิดว่าจบแล้ว ชนะแล้ว เราก็จะไม่ทำอะไร แต่ถ้าเราคิดว่าไม่จบ สมองวิธีคิดเราจะรู้สึกว่า แล้วเราจะทำยังไงต่อไป หลายคนจะออกความคิด วิธีออกแบบแล้วก็ส่งข้อมูลมา แล้วถ้ามันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเราจะสู้ต่อไป
ประเด็นย้อนรอยนิดหนึ่งนะครับว่า ประเด็นของเรา เราสู้ ต้องยอมรับว่าเราสู้ตามหลักประชาธิปไตย เราใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 87 คือตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับชาติ รัฐบาลนี้ได้มาโดยไม่ชอบด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญเพราะซื้อเสียงมา รัฐบาลนี้จะเปลี่ยนชื่อกี่ครั้งก็หน้าเหมือนเดิม อย่างคุณแอนจะเปลี่ยนชื่อ คุณเอ คุณบี แต่หน้าอย่างนี้คือคุณแอนเก่า ใครเห็นก็รู้ เดี๋ยวนี้คนนิยมเปลี่ยนชื่อ ชอบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนอะไรให้มันทันสมัยแต่ก็คือคุณ DNA อย่างนี้ก็เป็นอย่างนี้ ถ้าคุณชั่วก็คือชั่วนั่นแหละ คุณจะเปลี่ยนไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย อะไรที่ชื่อดูดีทั้งหลาย แต่ว่าการที่บุคคลชั่วทั้งหลายมารวมตัวกันมันก็คือชั่ว มันปฏิเสธไม่ได้
เพราะฉะนั้นอย่าไปลืมนะครับ อย่าไปเอาเรื่องกฎหมายมาเป็น โอ๊ยเขาเปลี่ยนชื่อแล้วคนละคน งั้นผมจะไปปล้น นายสมศักดิ์จะไปปล้น รุ่งเช้าผมเปลี่ยนเป็นนายสมเสร็จเลย ผมก็ไม่ต้องติดคุก สบายมากเพราะเปลี่ยนชื่อแล้วคนละคนแล้ว อย่างนี้เหรอ เป็นอย่างนี้เหรอ นี่คือระบบการเมืองที่เราพยายามบอกว่า การเมืองนั้นเป็นเรื่องของการปฏิบัติธรรม การเมืองนั้นต้องมีคุณธรรมจริยธรรมสูง คนที่จะมาทำการเมืองนั้นจะต้องเป็นคนมีคุณธรรมจริยธรรมสูงกว่าคนธรรมดาพอสมควร เพราะคุณบอกว่าคุณจะมาทำเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่
ฉะนั้นถ้าคุณยังมาคดโกงทุจริต รวมกลุ่มทรยศต่อคนส่วนใหญ่ อย่างนี้อย่ามาเรียกว่าการเมือง เขาเรียกว่า แก๊งโจรทางการเมือง ทำมาหากินแล้วก็หาผลประโยชน์ ใช้อำนาจหน้าที่เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ขูดรีดให้คนยากจน แล้วก็เอาของไปแจก แล้วอ้างว่า เนี่ยฉันนี่แหละ ถ้าไม่มีฉันไม่มีใครให้ แทนที่จะหางานให้เขาทำ กลับไปขูดรีดเอารัดเอาเปรียบแล้วก็เอาเงินไปแจก อย่างนี้มันไม่ใช่ทางการเมือง
ฉะนั้นเราเริ่มต้นเรียกร้อง เราบอกว่าอย่าไปแก้รัฐธรรมนูญ เอาละพรรคคุณมาก็มาไป ทั้งที่คุณซื้อเสียงกันมาเราก็ตรวจสอบว่าซื้อจริงหรือเปล่า ปรากฏว่าคุณก็ไม่ฟังจะแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียว แก้เพื่อใคร เพื่อช่วยเหลือ นักโทษชายทักษิณ เอาพอเราไม่ให้แก้ ถอยไปถอยมาหลายครั้ง เราก็ยกระดับ ถ้าอย่างนั้นถ้าคอยพูดเรื่องไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียวไม่จบ มันต้องไล่รัฐบาล เพราะไอ้นี่เป็นตัวปัญหาที่จะแก้อยู่เรื่อยเลยเพราะมันเสียงข้างมาก เราก็ยกระดับไปไล่รัฐบาล
เห็นไหมครับ แล้วก็ไล่ ไล่คนที่ 1 มันไปแล้ว เราไล่ตั้งแต่ทักษิณ มันไปแล้วมันเปลี่ยนชื่อใหม่ เหตุที่เปลี่ยนชื่อ ก็คำพิพากษาของศาลบอกว่า ไอ้นี่โกงการเลือกตั้ง ไม่ใช่เป็นประชาธิปไตย เอาเปลี่ยนชื่อเป็นพลังประชาชน เราก็รู้ว่ามันโกงอีก เราก็ไล่อีก เอาไล่สมัครไป เอาสมชายมา ก็มันตัวเดิมใช่ไหมล่ะ แล้วเพื่อไทย เพื่อไทยก็คือ ไทยรักไทย ไทยรักไทยก็คือทักษิณ เอาลงทุนหย่ากัน เอาเมียเข้ามา ลงทุนวางแผนทำอะไรสารพัด ข้อสรุปที่ชัดเจน สุดท้ายศาลพิพากษาแล้วว่าเขาผิดทุกเรื่อง เรื่องปราสาทพระวิหาร เขาก็ผิด
หลักง่ายๆ นะครับจำเอาไว้เลย ถ้าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาจริง กัมพูชาไม่ต้องมาถามประเทศไทย ไม่ต้องมาขอร้องประเทศไทย คุณช่วยลงมติสนับสนุนผมหน่อย ก็ที่ดินคุณคุณจะมายุ่งอะไรกับผม คุณก็ทำไปซิ ใช่ไหมครับ ที่ดินของพี่น้องพี่น้องจะมาถามข้างเคียงทำไมว่า ฉันขายได้ไหม ก็ของเอ็งมีโฉนดก็ขายไปซิจะไปถามทำอะไร ที่ถามเพราะมันไม่แน่ใช่ไหมล่ะ เพราะเขาก็รู้ว่ามันยังเป็นของไทย ยังมีพื้นที่ทับซ้อนคลุมเครืออยู่ เพื่อความสบายใจคุณช่วยลงมติหน่อยว่าให้ฉันขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว เพื่อให้เห็นว่าเป็นของฉัน และพี่น้องครับอย่าลืมนะครับว่า สมัยนี้มันเป็นโลกโลกาภิวัตน์ ทุนนิยมมันครอบโลก สิ่งที่เขาไม่ต้องลงทุน คือการท่องเที่ยว ที่ดินตรงไหนที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก คนที่มีเงินอยากจะไปตรงนั้น สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ทัชมาฮาล ผมก็ไปแล้ว หอเอนเมืองเมืองปิซ่า ผมก็ไปแล้ว นะครับอะไรที่มันแปลกๆ คนก็อยากจะไป แล้วถ้าไปปีหนึ่งมีเงินเป็นพันๆ ล้าน นครวัดนครธม มีเงินปีหนึ่ง 5-6 พันล้าน ทีนี้พอเขาขึ้นเป็นของเขาเขาก็ได้แต่มาขึ้นทางเรา รัฐบาลบอกว่า ไม่เป็นไรเราทำที่เก็บค่าที่จอดรถ ดูมันคิด ของตัวเองขอได้แค่ที่จอดรถ คิดมาได้ยังไง สุดท้ายเกาะกงซื้อไปแล้วเรียบร้อย เห็นไหมเขาแลกกัน วันนี้ทักษิณไปอยู่ไหน เกาะกง ใช่หรือเปล่า เขาซื้อไปเสร็จแล้วเดี๋ยวก็คงจะได้ประกาศเป็นประเทศเกาะกง ทีนี้จะไปสร้างชินวัตร มุนี ก็สร้างไปเถอะแถวนั้น อย่ามามั่วแถวนี้ ทำอะไรก็เชิญทำเถอะ จะตั้งตัวเป็นสมเด็จอะไรก็ตั้งไปเลย เอาให้มันสบายใจไปเลย มันพะยะคะไปเลยเชิญ แต่อย่ามามั่วแถวนี้ ไม่ได้ผล
ฉะนั้นการที่เราต่อสู้มา มาถึงจุด และเมื่อเขาโกงการเลือกตั้ง ถูกพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง คือศาลพิพากษาอีกแล้วว่าคุณโกงแล้วก็ยุบพรรค ยุบพรรคไปเรียบร้อย พอยุบพรรคก็มาตั้ง เริ่มแล้วครับ เริ่มเปลี่ยนขั้ว การเมืองเปลี่ยนขั้ว เริ่มมีวีรบุรุษเนวิน
หมอนี่ยอดเยี่ยม ผมไปที่จังหวัดภาคใต้ คนบอกว่า พี่สมศักดิ์ทำไมอภิสิทธิ์หน้าเหมือนเนวินไปเรื่อย ถ้าเนวินเหมือนอภิสิทธิ์พอทำเนาหน่อย คุณอภิสิทธิ์หน้าเหมือนเนวินนี่พี่น้องคิด ผมยังไม่ทันพูดเลยนะครับ เขาบอกแย่มาก ทำไมคุณอภิสิทธิ์ต้องเอาดอกไม้ไปให้เนวินด้วย โอ้ผมเสียดายคุณอภิสิทธิ์มาก เอาละจะเป็นนายกฯ ก็เป็นไป แต่ว่าถ้าคุณเนวินเอาดอกไม้ให้คุณอภิสิทธิ์มันพอมีราคาหน่อย เพราะคุณเนวินเป็นคนที่ถูกศาลพิพากษาแล้วว่า คุณไม่ควรมายุ่งกับการเมือง คุณเนวินเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนในประเทศนี้อย่างไวเหลือเกิน วันเวลาที่จะฉีด กินยาอะไรเข้าไป หน้ามือเป็นหลังอะไรก็ไม่รู้ มันเร็วขนาดนั้น เหลือเชื่อ
ผมไม่เชื่อ ผมเรียนจิตวิทยามา ผมไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องสำนึกได้ นี่พูดให้คุณอภิสิทธิ์คิดนะ เอาละผมไม่ได้สอนนักการเมือง ใครจะเก่งนักเก่งหนาก็แล้วแต่ว่ากันไป แต่ว่าเราเป็นประชาชน เราภาคประชาชน การที่นายกฯ 3 คน ที่เป็นหุ่นเชิดขายชาติ เราทำการไล่ 3 คนไปอย่างหน้ามืดตาลายเรียบร้อย เพราะฝีมือของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บอกลูกบอกหลานได้นะครับว่า ชีวิตข้าไล่นายกฯ มาแล้ว 3 คน ใหญ่ไหมประชาชน ยอดไหม สุดยอด ไปที่ไหนมือตบไล่ผับๆ ไม่ใช่เฉพาะนายกฯ รัฐมนตรีก็วิ่งหน้าตั้งเลย เห็นพับๆ ก็วิ่งตั้งหลักไม่ติดเลย
และสิ่งที่เราทำนั้นเป็นที่พิสูจน์แล้วว่าเขาผิด โดยคำพิพากษาของศาล ฉะนั้นสิ่งที่เราพูดเราว่ามาตลอด เป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น และเราไม่ได้อะไรเป็นการส่วนตัว แต่พวกเขาแพ้ชนะเขาได้เป็นการส่วนตัว นี่สิ่งที่ต้องจำ เพราะมันมีพวกสื่อทรราช สื่อสมเพช สื่อสมองไม่มีทั้งหลาย มักไปถาม วันนั้นมีคนถามคุณสุเทพ ผมจำไม่ได้แว้บๆ นักข่าวเป็นใครไม่รู้สัมภาษณ์ คุณสุเทพเป็นนอมินีของพันธมิตรฯ หรือเปล่า เอ๊ะคุณถามอะไรนี่ ถ้าบอกว่านอมินีทักษิณใช่ แต่ถามว่า นอมินีของพันธมิตรฯ คุณสุเทพบอกว่า ไม่เป็น ผมว่าคุณสุเทพ ก็ระวังให้ดีแล้วกัน
ถามว่านอมินีของพันธมิตรทำเพื่ออะไร หน้าที่ของพลเมือง หน้าที่ของปวงชนชาวไทย อ้าวเปิดรัฐธรรมนูญ ใครอยู่ที่บ้านมาตรา 70 บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข นี่เราพูดอย่างนี้มาโดยตลอดใช่ไหมครับ แล้วพวกนี้ก็ทำผิดครบวงจรมาโดยตลอดใช่ไหมครับ ฉะนั้นถ้าเป็นนอมินีของคนที่ยืนหยัดตามมาตรา 70 เนี้ย นักการเมืองควรเป็นไหม รัฐบาลต้องเป็นไหม ต้องไหมครับ รัฐบาลต้องเป็นซิ จะไม่เป็นได้อย่างไร รัฐบาลไม่พิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้วระบอบประชาธิปไตย คุณเป็นรัฐบาลได้อย่างไร เข้าใจไหมที่ผมพูดเนี้ย ทันไหมครับ
ฉะนั้นนอมินีคือ ถามว่า ส.ส. เป็นนอมินีประชาชนหรือไม่ ถามอย่างนี้อีกทีหนึ่ง คุณเป็นไหม ก็คุณบอกคุณเป็นผู้แทนประชาชน ถ้าคุณไม่เป็นนอมินีประชาชน คุณจะเป็นนอมินีของนายทุนพรรคหรอ แล้วคุณจะมาอ้างว่าคุณเป็นประชาชนได้อย่างไร เข้าใจไหมครับ ฉะนั้นการที่มาตั้งคำถามเป็นนอมินีพันธมิตรฯ เนี้ย พันธมิตรฯ ไม่ได้ทะเลาะแย่งอะไรกัน พันธมิตรฯไม่ได้แย่งอำนาจทางการเมืองอะไรกัน
ไม่ใช่พวกคุณที่ไปแย่งกันไป แย่งกันมา เล่นสุนัขชิงเสากันอยู่เนี้ย เห็นไหมผมใช้ภาษาเพราะเห็นไหม สมัยเด็กๆ เขาบอกว่าเล่นหมาชิงเสาใช่ไหม ที่วิ่งแย่งเสากันเนี้ย ไอ้นี่เราใช้คำว่าสุนัข เพราะพูดกับนักการเมืองนี่ ต้องใช้ศัพท์แสลงที่ดูดีหน่อยใช่ไหม คือใครจะวิ่งเสานู้น เสานี้ วิ่งกันให้วุ่น ใครช้าก็เสร็จ เพื่อนไปกอดเสาก็ยืน ก็เป็นสุนัขวิ่งไล่ชิงต่อไป ใครได้เสาก็เกาะแน่นเลย ถ้าวิ่งแล้วต้องหาเสาใหม่ให้ได้นะครับ มันเป็นเหมือนที่ผมบอกพี่น้องที่ทฤษฏีหมัดสุนัข เมื่อหมัดที่เกาะสุนัขอยู่เมื่อสุนัขตาย หมัดก็จะวิ่งไปเกาะตัวใหม่ ธรรมชาติของหมัดจะต้องดูดเลือดคนอื่นเสมอ และนั่นคืออาชีพเป็นอาจิณ และนั่นคือการเมืองเก่า
วันนี้เราอยู่ในการเมืองเก่า เราได้แล้ว 2 อย่าง ชั่วคราวหนึ่งรัฐธรรมนูญไม่แก้ รัฐบาลไปแล้ว แล้วถ้ามีการเปลี่ยนขั้ว ก็อาจจะเป็นรัฐบาลใหม่ แต่ก็อาจจะมีรัฐบาลเก่าผสมมาด้วย ของเก่าผสมมาด้วย ข้อที่ต้องติดตามว่า สามารถที่จะ ถ้าคุณอภิสิทธิ์ ไม่ถูกหักหลังในวันเสนอ หลังจากโฟนอินวันที่ 13 โดยนักโทษชายทักษิณ ถ้าเงินมันเทไปทางไหนมาก ไอ้พวกนี้มันก็จะไปทางนั้น นี่พวกนี้ก็จะเป็นนอมินีของเงินใช่ไหมครับ ถ้าเงินมาฉันก็ว่า ถ้าเงินไปทางไหนฉันก็ไปทางนั้น ทางไหนมากกว่า ฉันไปทางนั้น
คุณเนวิน บอกว่านายมันสายไปแล้ว แต่ว่าถ้าสายไปแล้ว ก็เริ่มต้นใหม่ได้นะ ถ้าน้ำหนักมันดีมันก็เริ่มต้นใหม่ก็ยังไม่สาย เดี๋ยวคุณอภิสิทธิ์ ก็คงจะต้องสายไปแล้วเหมือนกันนะครับ ฉะนั้นมันอยู่ที่ว่าน้ำหนักถ่วงมันอยู่ทิศทางใด ดังนั้นวันนี้รัฐธรรมนูญไม่แก้ แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่นะครับ เวลาเขาได้ใหม่เขาก็อาจจะแก้ได้
วันนี้ฝุ่นมันยังตลบ เราอย่าพึ่งสรุปว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล มันสรุปอะไรไม่ได้ เราไม่สามารถวิเคราะห์ได้ เพราะว่าคนพวกนี้เป็นของเหลว ของเหลวย่อมเปลี่ยนไปตามภาชนะที่ของเหลวบรรจุอยู่ ถ้าใส่มันในกระโถนมันก็เป็นรูปกระโถน ถ้าใส่มันในขวดมันก็เป็นรูปขวด ถ้าใส่ในแจกันมันก็เป็นแจกัน ใส่ในรูปทรงฉันท์ใดมันเป็นฉันท์นั้น เพราะมันเป็นของเหลว ไม่มีใครจะคำนวณวิเคราะห์ของเหลวได้ว่า มันจะเป็นรูปอะไร มันขึ้นอยู่ที่ว่ามันอยู่ในภาชนะแบบไหน สีก็เหมือนกัน มันสีขาวถ้าไปอยู่ในภาชนะสีแดง เรามองเข้าไปไอนี่มันน้ำแดงนี่ มันก็จะเปลี่ยนได้สารพัด
แล้วนี่คือนักการเมืองบ้านเรา ที่มันมีสภาพที่น่าสมเพชเวทนา ไม่มีจุดยืน และก็ไม่มีหลักการ ฉะนั้นเราได้เรื่องไม่แก้รัฐธรรมนูญ รัฐบาลไป นี่คือเหตุผลที่ว่าเราต้องหยุดชุมนุมชั่วคราว ถ้าไม่ชุมนุมคนจะถามแล้วจะเอาอะไรอีกนะครับ เราเริ่มมานิดๆ หน่อยๆ มาเรื่อยๆ แล้วก็ถึงขั้นเข้าไปอยู่ในทำเนียบนะครับ แล้วก็ค่อยๆ ไปอยู่ในสนามบิน พอไปอยู่สนามบินก็มาฟ้องเรา
ผมดีใจจังฟ้องเรียกตั้ง 2 หมื่นล้าน ในชีวิตผู้นำกรรมกรคนหนึ่งถูกเขาฟ้องเรียกค่าเสียหาย 2 หมื่นล้าน คนฟ้องโง่เป็นบ้า จะเอาอะไรวะ 2 หมื่นล้าน แต่ว่าได้มอบอำนาจให้พี่ลองเป็นคนถูกยึดทรัพย์คนเดียว เป็นที่เรียบร้อย ไอ้สุนัขจรจัด 2,500 ตัว ก็ไปยึดเอาไปเลย ใครจะเอาอะไรก็เอาไปเลยนะครับ สมบัติพี่ลองก็มีอยู่เพียงแค่นั้นนะครับ ที่จับต้องได้ ซึ่งเราไม่ได้ไปปิดสนามบินนะ เราเดินไปที่สนามบิน เราไม่อยากให้นักการเมืองมาใช้เครื่องบิน เราจะเอามือตบไปตบ คนปิดสนามบินก็คือผู้มีอำนาจในการเปิดและปิดสนามบิน ไม่ใช่พันธมิตรฯ ไม่รู้ฟ้องผิดคนหรือเปล่า เอาว่ากันไปแต่ว่าดีใจมากที่ได้ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 2 หมื่นล้าน มีใครซักกี่คนในประเทศนี้ที่เคยถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายถึง 2 หมื่นล้าน นี่ก็เป็นเกียรติประวัติสำหรับคนจนๆ
เมื่อมาถึงตรงนี้นะครับ การเมืองมันเป็นลักษณะนี้ถ้าคุณอภิสิทธิ์ ได้เป็นรัฐบาลผมดูแถลงมา 4 ข้อนี่ ก็มึนๆ อยู่นะแก้รัฐธรรมนูญ ก็ต้องดูว่าแก้อย่างไร แก้แบบไหน แต่เราเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะต้องแก้ ไม่ควรจะแก้ในขณะนี้ เพราะต้องการให้คดีต่างๆ ที่นักการเมืองโกงการเลือกตั้งนั้น ได้ถูกลงโทษให้ชัดเจน และถ้าจะแก้ต้องเพิ่มโทษพวกโกงทุจริตมากขึ้น ไม่ใช่ไปแก้ปลดล็อคตัวเอง
และไอ้พวกนี้ที่ต้องการให้แก้ ที่กลัวอยู่ก็คือเรื่องเขาเว้นวรรค 5 ปี แล้วคุณอภิสิทธิ์ เนี้ย เป็นตัวคีย์สำคัญ เอ่อ ไม่ใช่คุณอภิสิทธิ์ คุณเนวิน คุณเนวินเนี้ยเขาห้ามไม่ให้เล่นการเมืองใช่ไหม โดยคำพิพากษา แต่วันนี้ตั้งชื่อชัดเจนว่ากลุ่มเพื่อนเนวิน ทำไม ทำไม แล้วคุณอภิสิทธิ์ ก็เอาดอกไม้ไปให้กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่เขาไม่ให้เล่นการเมือง ซึ่งผิดกฎหมาย ผิดคำพิพากษา อันนี้อธิบายได้อย่างไร
แล้วพวกนี้ก็ถูกเว้นวรรคทีหลัง ทั้งคุณบรรหาร หลายคนก็กลับไปจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับคุณอภิสิทธิ์อยู่ทั้งนั้น เอาละเป็นลูกเล่น เป็นพลิ้ว ผมอาจจะความรู้น้อยก็ได้ การทำอะไรแปลกๆ ทางการเมืองอาจจะไม่ทัน แต่ผมคิดว่า คุณเนวินได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่พอใจเกิดเขาจ่ายเงินทางนู้นมาก แกก็ดึงกลับ คุณอภิสิทธิ์ก็ล้ม
ตกลงว่ารัฐบาลใหม่อยู่ที่แก แล้วแกบอกว่าเป็นผู้เสียสละ เริ่มมากู้ชาติ ตอนที่เรากู้กันตั้งนาน ทำไมคุณเนวินไม่ยกมือไม่รับรองเรื่องเขาพระวิหาร ทำไมไม่บอกให้กลุ่มตัวเอง บอกว่าไม่ได้นะนี่เรื่องของชาตินะ นี่ไม่ได้นะผิดรัฐธรรมนูญ 190 นะ ทำไมไม่ทำ ทำไมคุณบรรหารก็ไม่ทำ ใครก็ไม่ทำ อะไรก็ไม่ทำ นึกอะไรกันถึงมารักชาติในตอนนี้
ผลพวงที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย พี่น้องที่เคารพ มาจากการต่อสู้ของพวกเราเป็นสาระสำคัญอย่างยิ่ง ฉะนั้นอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราพักเอาแรงคอยฟังสัญญาณนะครับ เชื่อมั่นในพลังพี่น้องทุกคน เมื่อสัญญาณดังอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนเตรียมอาวุธไว้ให้พร้อม ก็คือ มือตบ เสบียง เครื่องกันลูกกระสุน แก๊สน้ำตา เตรียมให้พร้อมนะครับ เป่านกหวีดปรี๊ดวิ่งมาด้วยความรวดเร็ว บทที่ 1 เริ่มต้นอย่างต่ำ 500,000 คน ม้วนเดียวจบถ้าใครทรยศหักหลัง
ฉะนั้นอย่าเหงา จงหมักหมมพลังในตัวเองให้เข้มแข็งแล้วก็ติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะเราคือประชาชน อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน เราอย่าไปวิตกกังวล อะไรจะเกิดก็ขอให้มันเกิด ใครจะเล่นการเมืองในสภาอย่างไรก็ตาม แต่การเมืองประชาชนจะต้องยึดมั่นในหลักสำคัญ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างแท้จริง เดินหน้าต่อไปอย่าหวั่นไหว อย่ากลัว อย่าวิตก เชื่อมั่นในพลังของพี่น้องชาย หญิงทุกคน ชัยชนะการเมืองใหม่ เราต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้จงได้ และการต่อสู้จะไม่สูญเปล่า และนี่คือการเดินตามรอยเลือดทุกหยดของวีรชนผู้บริสุทธิ์ ขอขอบคุณครับ
เออ พอดีเวลามันน้อยนะครับ ไปทางภาคใต้มา จะประกาศรายชื่อก็ไม่ทัน พี่น้องก็มอบมา 85,000 บาทนะครับ เมื่อสักครู่ พี่น้องผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ก็มอบมาอีก 3,000 บาท ในห้องส่ง ให้ ASTV ทุกคน ยินดี ดีใจมากที่ได้เป็นเจ้าของทีวีโดยไม่รู้สึกตัว คือ ASTV ทีวีของประชาชน
ช่วงที่ 2
จินดารัตน์ - พ่อแม่พี่น้องค่ะ ก่อนที่จะไปพบกับผู้ปราศรัยท่านต่อไปนะคะ เมื่อสักครู่มีหลายคนโทรศัพท์เข้ามาบอก แหม วันนี้พี่สมศักดิ์ หล่อเป็นพิเศษก็เลยดูไม่คุ้นตาซักเท่าไหร่ แถมมีอีกนิดหนึ่งฝากบอกพี่สมศักดิ์ด้วย วันหลังถ้าโห่ต้องกระโดดด้วยนะคะ กระโดดได้นะคะ เดี๋ยวจะบอกพี่สมศักดิ์ให้นะคะ แล้ววันนี้นะคะ เรามาอยู่ในห้องส่งแล้ว เงินบริจาคก็ยังไม่ขาดสายค่ะ พ่อแม่ ท่านผู้ชมคะ มีพันธมิตรฯจาก จ.แพร่ ให้ ASTV 8,000 บาทค่ะ ขอบพระคุณนะคะ และที่เหนียวแน่นกับเราเหลือเกิน พันธมิตรฯการบินไทยมอบเงินให้ ASTV 200,000 บาท พร้อมกับให้เสื้อยืดนะคะ ให้เสื้อยืดมาจำหน่ายให้ที่มูลนิธิยามด้วย เพราะหลายคนชมว่าเสื้อยืดของการบินไทยสวย อยากได้ ให้มาอีก 1,600 ตัว ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยคะ วันนี้นะคะเราจะไปพบกับผู้ปราศรัย ท่านต่อไปจะไปดูในส่วนของต่างประเทศกันดูบ้าง ว่าวันนี้ต่างประเทศมองการเมืองไทยอย่างไร หลังจากพันธมิตรฯนั้นถอนตัวออกจากทำเนียบรัฐบาล และยุติการชุมนุม และวันนี้ถ้ารัฐบาลเปลี่ยนขั้วแล้ว การเมืองไทยในสายตาต่างชาติ เขาจะไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหนไปพบกับ ท่านทูตสุรพงษ์ ชัยนาม ค่ะ สวัสดีค่ะ ท่านทูตคะ
สุรพงษ์ - สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องที่เคารพ คงหายเหนื่อยแล้วนะครับ ผมคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่หัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญสำหรับ การต่อสู้ของพ่อแม่พี่น้องเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย ที่มีเนื้อหาและเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ผมวันนี้คงจะขอพูดในตอนท้าย ผมจะพูดในเรื่องต่างประเทศนิดหนึ่งนะครับ แต่วันนี้ผมคิดว่าอยากจะคุยกับพ่อแม่พี่น้องร่วมกัน โดยในรูปของผมให้ทัศนะของผมนะครับ เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องคิดไปด้วย นำไปพิจารณา ผ่านมาช่วง 7-8 ปี เราก็ได้เห็นแล้วว่าตั้งแต่สมัยยุคระบอบทักษิณ พรรคไทยรักไทย เราต่อสู้กับพลังประชาชน รัฐบาลคุณสมชายก็ออกไปแล้ว บัดนี้ก็จะมีการตั้งรัฐบาลผสมที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ ก็ต้องดูกัน ในวันที่เข้าใจว่าวันที่ 15 นี้ ใช่ไหมครับ ที่จะมีการเปิดสภา
แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่พี่น้องคงเข้าใจดีว่า เราไม่สามารถทิ้งการเมืองนะครับ เพราะว่าถ้าเราทิ้งการเมืองแล้ว เราจะเจอปัญหาหนักหน่วงเหมือนที่เราเจอมาเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมานี้ ต้องมาเหน็ดเหนื่อยกัน แล้วเชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องคงจะติดตามข่าวอยู่ทุกวันนะครับ ผมอยากจะทบทวนนิดหนึ่งนะครับ ว่าอะไรมันเกิดขึ้นในเรื่องของการเมืองการปกครองประเทศไทยในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา เราเห็นได้แล้วว่า 7-8 ปี ที่ผ่านมาเนี้ย ประเทศไทยเนี้ยมีประชาธิปไตย แต่มันเป็นประชาธิปไตยที่ปราศจากที่นักประชาธิปไตยปกครองบ้านเมืองนะครับ
หมายความว่าอย่างไร หมายความว่านักการเมืองของเรา ผู้นำทางการเมืองของเราที่มาจากการเลือกตั้ง อาศัยการเลือกตั้งเป็นหนทางการเข้าสู่อำนาจ เมื่อเข้าสู่อำนาจแล้ว ก็ไม่ได้เป็นนักประชาธิปไตยได้แสดงธาตุแท้ของความเป็นนักเผด็จการให้เราเห็นนะครับ และอันนั้นก็เป็นผลของการต่อสู้ตลอดมาของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ใช่ไหมครับ แต่ปรากฏการณ์อันนี้เนี้ยมันไม่ใช่เกิดขึ้นแค่ในเฉพาะในประเทศไทยนะครับ ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาเนี้ย ประชาธิปไตยมันเฟื่องฟูไปทั่วโลกนะครับ
ในประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายเนี้ย ในแอฟริกา ในเอเชียนะครับ ในอเมริกาใต้ ในตะวันออกกลางนะครับ แต่มันเป็นประชาธิปไตยเหมือนกับประเทศไทยเนี้ยละ คือเป็นประชาธิปไตยที่ตัดสินกันด้วยผลของการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยที่คำนิยามของประชาธิปไตยก็คือการเลือกตั้งเท่านั้นเนี้ยนะครับ เพราะฉะนั้นในประเทศอื่นๆ อีกหลายสิบประเทศเลย ในโลกนี้ที่ประสบปัญหาเหมือนประเทศไทย ก็คือเขามีประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้งและผลของการเลือกตั้งนั้น ได้นำไปสู่การสถาปนาระบอบเผด็จการมากนะครับ
มีนักเผด็จการปกครองในหลายทวีปของโลกนะครับ มาปัจจุบันเนี้ยประเทศไทยเอง ที่ผมบอกว่าประชาธิปไตยที่ปราศจากนักประชาธิปไตยปกครองเนี้ย แปลว่าอะไร แปลว่าผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งเนี้ย พอขึ้นมาสู่อำนาจแล้วเนี้ย เขาใช้ประชาธิปไตยเพื่อทำลายประชาธิปไตยนะครับ หมายความว่าอาศัยประชาธิปไตยเพื่อเป้าประสงค์ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น อาศัยประชาธิปไตยบอกว่ามาจากเลือกตั้ง ชนะการเลือกตั้ง มีเสียงข้างมาก และหวังที่จะแก้รัฐธรรมนูญใช่ไหมครับ เพื่อฟอกตัวเอง แทรกแซงองค์กรอิสระ แทรกแซงศาลนะครับ ทำลายองค์กรอิสระ ทำลายระบบตรวจสอบถ่วงดุล ทำลายรัฐสภา เข้าผูกขาดด้านรัฐสภา
นี่คือการใช้ประชาธิปไตยโดยบอกว่ามาจากการเลือกตั้ง และได้เสียงข้างมาก เผด็จการของเสียงข้างมาก มาทำลายสิ่งเหล่านี้ นี่ก็คือการทำลายใช้ประชาธิปไตย เพื่อทำลายประชาธิปไตยนะครับ เพราะฉะนั้นประชาธิปไตย มันไม่ใช่แค่ผู้นำเท่านั้น ที่จะทำลายได้ นักการเมือง หรือรัฐบาล แต่ประชาชนก็สามารถทำลายประชาธิปไตยได้เหมือนกัน เช่น พ่อแม่พี่น้องเราที่อยู่ในภาคอีสาน ในภาคเหนือ ที่เลือกพรรคพลังประชาชน เลือกพรรคไทยรักไทยเข้ามามีอำนาจนะครับ โดยเขารู้เท่าไม่ถึงการณ์ เขาไม่มีข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง แต่เลือกมาเพราะว่าผู้ใหญ่บ้านให้เลือก เพราะอามิสสินจ้างอะไรก็แล้วแต่เนี้ย แต่อย่างนี้เนี้ยก็เป็นการทำลายประชาธิปไตยอย่างหนึ่งเหมือนกันนะครับ
มาถึงจุดนี้แล้ว ทั้งหมดเนี้ยผมก็อยากสรุปให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดเราอยากจะได้การเมืองใหม่ ถ้าเราอยากจะได้การเมืองใหม่ เราต้องเข้าใจว่าปัญหาที่ผ่านมาของประชาธิปไตย ที่บกพร่องของเราเนี้ย ประชาธิปไตยที่ปราศจากนักประชาธิปไตยปกครองบ้านเมือง ปัญหาใหญ่หลวงที่สุดมันคืออะไร สำหรับผมปัญหาใหญ่หลวงที่สุดก็คือ ประชาธิปไตยที่รัฐบาลมีอำนาจที่เป็นอำนาจที่ปราศจากขอบเขตที่จำกัดนะครับ อำนาจที่ปราศจากขอบเขตที่จำกัดนั้น เป็นอำนาจที่ปราศจากความชอบธรรม เป็นอำนาจที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยนะครับ เพราะว่าอำนาจที่ปราศจากขอบเขตนะครับ ที่ไม่มีข้อจำกัดเนี้ยนะครับ ก็เป็นอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และนี่เป็นปัญหาตั้งแต่คุณทักษิณขึ้นมามีอำนาจแล้วใช่ไหมครับ
รัฐบาลมีอำนาจอย่างมากนะครับ และอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง และใช้อำนาจนี้อย่างไม่มีขอบเขตจำกัดนี่นะครับ เพราะว่าหัวใจของประชาธิปไตยคืออำนาจที่มีขอบเขตจำกัดนะครับ นั่นก็คืออำนาจที่มีขอบเขตจำกัด หมายความว่า กลไกการถ่วงดุล การตรวจสอบถ่วงดุล ต้องมีเรื่องอำนาจนิติบัญญัติ บริหารตุลาการ มันต้องถ่วงดุลกันได้ใช่ไหมครับ
อันนี้คือเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับประเทศไทย และผมอยากจะเน้นว่าทำไมผมพูดอย่างนี้ พ่อแม่พี่น้องคงจะทราบดีว่า ประเทศตะวันตกเนี้ยคือต้นตำรับของระบอบประชาธิปไตยใช่ไหมครับ รัฐบาลในประเทศตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือประเทศใด อังกฤษในยุโรป อังกฤษซึ่งเป็นแม่แบบของประชาธิปไตยเนี้ย และประเทศฝรั่งทั้งหลายเนี้ย ที่รัฐบาลเขามีประสิทธิภาพเนี้ย เพราะเขามีอำนาจที่อยู่ในขอบเขตจำกัด ไม่ใช่เพราะว่าเขามีอำนาจมากนะครับ
การมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ กับรัฐบาลที่มีอำนาจมากเนี้ย ความหมายมันแตกต่างกันมากนะครับ การมีประสิทธิภาพไม่ได้หมายความว่า จะไร้อำนาจ หรือการมีอำนาจมากไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลนั้นจะมีประสิทธิภาพนะครับ แต่มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประเทศที่ประชาธิปไตยเขาหยั่งรากลึก แล้วที่เขามีความเจริญในด้านเศรษฐกิจ ในด้านอื่นๆ มากมาย ก็เพราะว่า รัฐบาลเขามีอำนาจในขอบเขตจำกัด ไม่ใช่เพราะรัฐบาลเขามีอำนาจอย่างท่วมท้น
เพราะฉะนั้นอันนี้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับประเทศไทย แล้วเราได้รับบทเรียน 7-8 ปีที่ผ่านมา จากระบอบทักษิณ ไทยรักไทย พลังประชาชน แล้วต่อไปถ้าเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลได้ ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ ประเด็นอันหนึ่งของการเมืองใหม่สำหรับผมก็คือ ต้องลดอำนาจบริหาร ต้องให้นักการเมืองและพรรคการเมืองทั้งหลาย รวมทั้งประชาชนพ่อแม่พี่น้องทุกๆ คน เพื่อร่วมชาติ ต้องเข้าใจว่า ประชาธิปไตยจะอยู่ได้ จะมีประสิทธิภาพ รัฐบาลจะมีประสิทธิภาพ จะทำประโยชน์ให้ส่วนรวมได้ จะนำความเจริญ ความรุ่งเรือง ความผาสุกให้กับประชาชนได้ ต้องเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจในขอบเขตจำกัด
อันนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่ามีความสำคัญมาก และต้องเข้าใจ เรามักจะเข้าใจว่า รัฐธรรมนูญ 2540 ให้อำนาจฝ่ายบริหารอย่างมหาศาล เพราะไปเข้าใจว่า รัฐบาลที่มีอำนาจมากๆ จะได้ใช้อำนาจของรัฐให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน แก่ส่วนรวม แล้วเราก็เห็นแล้วว่า มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันไม่ใช่ เพราะเข้าใจว่า ที่ประเทศไทย 70 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ 2475 ฝ่ายบริหารล้มลุกคลุกคลานมาเพราะว่า ฝ่ายบริหารไม่มีอำนาจพอ แต่คราวนี้เราก็เห็นได้แล้ว
เพราะฉะนั้นอีกประเด็นหนึ่งที่ผมอยากจะฝากไว้เป็นข้อคิด พี่น้องคงเห็นได้ว่า กฎหมายก็ดี ศาสนาก็ดี ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาทั้งหลายในโลกนี้ กฎหมายของทุกประเทศ มันมีบอกไหมว่า ให้มนุษย์ทำอย่างนี้ ทำอย่างนี้ ทำอย่างนี้ ไม่ มันบอกว่าอย่าทำอย่างนี้ อย่าทำอย่างนี้ และอย่างทำอย่างนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ศาสนาเอง กฎหมายเองตระหนักดีว่า มนุษย์นั้นถ้ามีโอกาสทำอะไรตามอำเภอใจ เขามีแนวโน้มที่จะทำความชั่วมากกว่าความดี จึงได้มีศาสนาข้อห้ามเต็มไปหมด
กฎหมายเป็นข้อห้ามทั้งนั้น คุณดูมาตราไหนไม่บอกเลยว่าทำอะไรได้ แต่จะบอกว่าทำอะไรบ้างที่จะผิด เพราะฉะนั้นอันนี้เราต้องเข้าใจว่า ที่คุณทักษิณขึ้นมามีอำนาจตอนนั้นก็เพราะรัฐธรรมนูญ 2540 มอบอำนาจบริหารให้อย่างเต็มที่ โดยคิดว่าถ้าเราได้ผู้นำที่ดี ประเทศชาติจะรุ่งเรือง คิดเอาอนาคตของประเทศชาติไปแขวนกับสมมุติฐานว่า ถ้าอย่างนู้นถ้าอย่างนี้ได้อย่างไร จริงๆ แล้วเราต้อง เป็นกฎหมาย เป็นรัฐธรรมนูญที่บนพื้นฐานของความเข้าใจที่ถูกต้องว่า มนุษย์นั้นถ้ามีโอกาสทำอะไรได้ตามอำเภอใจจะทำความชั่วมากกว่าความดี แล้วถ้าเราได้ผู้นำที่ดี ข้อห้ามต่างๆ ก็ไม่ต้องใช้ เพราะเขาไม่ไปละเมิดอะไร ไม่ไปทำอะไรขัด แต่ถ้าเราได้ผู้นำที่ไม่ดี เราก็มีกฎหมายต่างๆ เหล่านี้ที่จะเข้ามาจัดการกับผู้นำที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ปัญหาของประเทศไทย 7-8 ปีที่ผ่านมา คือปัญหาที่ทำอย่างไร ที่เราจะกำจัดผู้นำที่เป็นพิษ และระบอบการเมืองที่เป็นพิษได้
ประเด็นถัดไปที่ผมอยากจะพูด ผมคิดว่าอยากจะฝากพ่อแม่พี่น้องนำไปพิจารณา ไม่ว่าตอนนี้หรือในอนาคตอีกกี่ปีข้างหน้า หลังจากที่เรามีการเมืองใหม่แล้ว เราก็ทิ้งประเด็นนี้ไม่ได้ นั่นก็คือ สังคมมนุษย์ 4,000 กว่าปี 5,000 ปี 6,000 ปีที่ผ่านมา จากโบราณ 4,000-5,000 ปีมาถึงยุคเรียกว่ายุคดิจิตอล เรามาถึงยุคปัจจุบันนี้ได้เพราะความขัดแย้งทางความคิด ความขัดแย้งมันเป็นเรื่องสำคัญมากในระบอบประชาธิปไตย เพราะว่าทุกคนถ้าคิดเหมือนกันหมด ทำเหมือนกันหมดมันก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย
เพราะฉะนั้นประชาธิปไตยจะอยู่ได้ จะมีประสิทธิภาพ จะสร้างความก้าวหน้า ความเจริญให้กับสังคมได้ ต้องยอมรับในเรื่องของความคิด ความขัดแย้งทางความคิด และเราผ่านมาถึงจุดนี้ได้ ในโลกที่ผ่านมา 4,000-5,000 ปี เพราะเรื่องของความขัดแย้งทางความคิด นั่นหมายความว่า ต่อไปในอนาคต เรามีการเมืองใหม่ ตอนนี้ยังไม่มี ถึงแม้เรามีการเมืองใหม่ เราก็ต้องไม่ทิ้งประเด็นนี้ว่า เราทุกคนต้องเป็นขบถ ขบถทางความคิด
ขบถทางความคิดหมายความว่า เราไม่ยอมรับความเท็จ เราไม่ยอมรับข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จ เราไม่ยอมรับคำพูด คำชี้แจงของผู้ปกครองของนักการเมืองของพรรคการเมืองที่มีสูตรสำเร็จรูปให้เราหมด มีคำตอบให้เราหมด การเป็นขบถทางความคิด หมายถึงว่า เราไม่ยอมรับสิ่งเหล่านี้ เราต้องการความจริง และหมายถึงว่า เราต้องอยู่ในฐานะที่จะหาข้อมูลข่าวสาร และใช้สติปัญญาของตนเองให้มากๆ และหาข้อสรุป หาคำตอบด้วยตนเองให้ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้นำมาหาคำตอบให้เรา
ถ้าเราคิดว่าบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เราคิดว่าเรามีการเมืองใหม่แล้วเราทิ้งสิ่งเหล่านี้ ความเป็นขบถทางความคิดของเราหมดไปด้วย อันนี้อันตรายมากๆ เราต้องอยู่กับสิ่งเหล่านี้ อย่าไปมองว่าความเป็นขบถทางความคิดเป็นสิ่งเลวร้าย อันนี้เป็นเรื่องจำเป็นมากๆ สังคมที่ประชาธิปไตยเขายั่งยืนฝังรากลึกได้แล้ว มีเสถียรภาพได้แล้ว เพราะการต่อสู้ทางความคิดมาตลอด เพราะคนของเขาเป็นขบถทางความคิด
แล้วผมคิดว่า พ่อแม่พี่น้องที่ต่อสู้มา ปี 49 ก็ดี 6 เดือนกว่าที่ผ่านมานี่ก็ดี เพราะพ่อแม่พี่น้องไม่ยอมรับความเท็จใช่ไหมครับ ต้องการรู้ความจริงใช่ไหมครับ ไม่ต้องการให้ใครมายัดเยียดอะไรให้เรา เราต้องการข้อมูล ต้องการความจริง แล้วเรามีสติปัญญาพอที่จะพิจารณาตัดสินของเราเองได้ นี่ก็คือการเป็นขบถทางความคิด และการเป็นขบถหมายความว่า เราต่อสู้สิ่งที่ไม่ชอบธรรม สิ่งที่ไม่ยุติธรรมภายในระบบ เราไม่ได้ต้องการทำลายระบบที่มีอยู่ ตราบใดที่ระบบมันเปิดโอกาสให้ประชาชนทำการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ความชอบธรรม ความยุติธรรมได้ เราก็สามารถต่อสู้ด้วยสันติวิธีได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับตัวระบบเองว่าจะเปิดโอกาสให้มีการต่อสู้โดยสันติวิธีหรือไม่
ถัดไปก็คือว่า เราต้องการผู้นำที่ไม่เป็นพิษ เราต้องการผู้นำที่ดี ผู้นำที่ดีก็คือ ผู้นำที่ไม่ครอบงำ ผู้นำที่ดีคือ ผู้นำที่นำ ไม่ใช่ครอบงำ เพราะฉะนั้นที่เราผ่านมาตลอดเวลา 7-8 ปี เพราะเราเจอรัฐบาลและผู้นำที่พยายามครอบงำเราอยู่ในทุกๆ ด้าน เราต้องการผู้นำที่นำเราได้ เพราะฉะนั้น และเราไม่ต้องการประชาธิปไตย พ่อแม่พี่น้อง เวลาเราไปสู่กระบวนการเพื่อให้เกิดการเมืองใหม่แล้ว พ่อแม่พี่น้องอย่าไปติด หลงกลกับพรรคการเมือง
นักการเมืองที่บอกว่า อันนี้ดีที่สุด อันนี้สมบูรณ์ที่สุด ถ้านักการเมืองคนไหนพูดว่าอันนี้สมบูรณ์ที่สุด อันนี้ดีที่สุด อันนี้บริสุทธิ์ที่สุด คนๆ นี้เป็นนักเผด็จการมาก คนๆ นี้เป็นอันตรายต่อบ้านเมืองมาก อยู่ห่างๆ ไว้ เพราะถ้าเราบอกว่าสมบูรณ์ที่สุด บริสุทธิ์ที่สุด ก็หมายความว่า เราไม่ยอมรับความเห็นของคนอื่นแล้ว เราไม่ยอมรับทัศนะคนอื่นแล้ว เราไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นแล้ว เราถือว่าของเราดีที่สุดแล้ว อันนี้เป็นอันตรายมาก
เพราะฉะนั้นอยากให้พ่อแม่พี่น้องดูว่า ในความพยายามร่วมกันเพื่อให้เกิดการเมืองใหม่ ต้องมองว่า ประชาธิปไตยมันเป็นกระบวนการ หมายความว่าอย่างไร เป็นกระบวนการ หมายความว่า ในทุกสังคมประเทศ ไม่ว่าเป็นสังคมที่อ้างตัวว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดในเนื้อหา แล้วประชาธิปไตยของประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งไทยด้วย ทุกประเทศที่บอกว่า ปกครองในระบอบประชาธิปไตย หมายความว่า ถ้าเป็นกระบวนการมองว่า เราต้องบอกว่ามันเป็นกระบวนการ ก็หมายความว่า มันมีพัฒนาการของมัน ในสังคมไทยยุคทักษิณ 7-8 ปีที่ผ่านมา เราเป็นประชาธิปไตย แต่เราเป็นประชาธิปไตยในรูปแบบอย่างมากๆ เนื้อหาเรามีน้อยมาก ก็หมายความว่า เรามีเนื้อหาที่เป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน แต่เนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมีมากกว่า เช่น การแทรกแซงองค์กรอิสระ การแทรกแซงศาล การขัดรัฐธรรมนูญ การละเมิดกฎหมาย การทำลายธรรมาภิบาล การละเมิดสิทธิมนุษยชน การทำลายกลไกตรวจสอบถ่วงดุล
สิ่งเหล่านี้ก็คือลักษณะที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่ดำรงอยู่ในระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ของเราที่เราต้องการก็คือ เราต้องการให้ประชาธิปไตยมีลักษณะเนื้อหาที่เป็นประชาธิปไตย ให้มากที่สุด เพราะฉะนั้นเวลาเราบอกว่า ในสหรัฐฯ เหมือนกัน ยกตัวอย่างง่ายๆ เขามีความเป็นประชาธิปไตยสูง เนื้อหาด้วย รูปแบบด้วย แต่เขาก็มีรูปแบบไม่เป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน เช่น บางรัฐมีการประหารชีวิตโทษคน อันนี้ก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย หรือวุฒิสภาของสหรัฐฯ ในสหรัฐฯ มี 50 รัฐ ทุกรัฐได้วุฒิสมาชิก 1 คน แค่นั้น อันนี้ก็ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะแคลิฟอร์เนียมีประชากรหลายล้านคน ในขณะที่เดลาแวร์มีน้อยกว่า ตั้ง 20 เท่า แต่เดลาแวร์ก็ 1 คน แคลิฟอร์เนียก็ 1 คน นี่คือลักษณะที่ไม่เป็นประชาธิปไตยภายในระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นถ้าเรามองว่ามันเป็นกระบวนการ ในการเมืองใหม่เราก็ต้องการให้สิ่งต่างๆ ที่ผมพูดไปเมื่อตะกี้ เราไม่ต้องการให้ดำรงอยู่ในสังคมไทย เราต้องการให้มันมีอยู่ในสังคมไทยเพื่อให้ประชาธิปไตยของเรามีเนื้อหามากขึ้น
ท้ายสุดที่ผมอยากจะพูดคือว่า ต่างประเทศเขามองเราอย่างไรในขณะนี้ เขาเห็นแล้วเอาละพันธมิตรฯ ได้ยุติการชุมนุมแล้ว แล้วรัฐบาลสมชายก็ออกไปแล้ว แต่เขาก็เห็นว่า มันก็เป็นการ จะเรียกว่า เสถียรภาพชั่วครู่ชั่วคราว เพราะเขาเห็นว่ายังไม่มีรัฐบาลในประเทศไทยตอนนี้ จะมีการฟอร์มรัฐบาลผสม เพราะฉะนั้นขั้วของอำนาจก็ยังกำกวมอยู่มาก
ตอนนี้ไม่รู้ว่าใคร อำนาจอธิปไตย อำนาจของรัฐบาลจะอยู่กับรัฐบาลผสมขั้วไหน เพราะฉะนั้นท่าทีของเขา ฝ่ายต่างประเทศ ประเทศตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพราะประเทศพวกนี้มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับประเทศไทยมาก ขณะนี้เราจะเห็นได้จากรายงานของสื่อต่างๆ ของประเทศตะวันตก ยังเป็นรายงานที่เป็นความเท็จอยู่มากเกี่ยวกับการเมืองไทย เพราะเขาเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจในประเทศไทยยังไม่มีความชัดเจน
ถามว่า เขายังต้องการให้คุณทักษิณกลับมาไหม ผมเชื่อเลยครับว่า เขายังต้องการให้คุณทักษิณกลับมา เพราะระบอบทักษิณยังตอบสนองผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้เขาดีกว่า แต่เมื่อใดมันมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน โดยระบอบทักษิณหมดอำนาจอย่างแท้จริงแล้ว เมื่อนั้นแล้วประเทศเหล่านี้จะเริ่มรายงานเหตุการณ์การเมืองไทยตามข้อเท็จจริงมากขึ้น เพราะเขาก็ต้องตัดสินใจบนพื้นฐานผลประโยชน์เขา เมื่อเขารู้ว่าระบอบทักษิณไม่มีแล้ว เขาก็ต้องเข้ามามีความสัมพันธ์กับรัฐบาลใหม่ของประเทศไทย
เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงอันนี้ พ่อแม่พี่น้องอย่างไปกังวลว่า การเมืองใหม่ที่เราต้องการ ความเปลี่ยนแปลงที่เราต้องการ อย่าไปกังวลว่า ฝรั่งหรือต่างชาติเขาคิดอย่างไร ถามตัวเราเองว่าเราคิดอย่างไร ถ้าเราต้องการความเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่านี้ เพราะคำว่า ประชาธิปไตย ความหมายที่แท้จริง ก็คือ สิทธิของประชาชนที่จะทำความเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้ นี่คือความหมายที่แท้จริง ถ้าเป็นความต้องการของคนในชาติ และรัฐบาลที่เราจะได้มาเป็นรัฐบาลที่เรายอมรับได้ ก็ไม่ต้องไปกลัวต่างชาติ เพราะอันนี้คือประเทศไทย
สุดท้าย ผมอยากจะพูดนิดหนึ่งนะครับ 1 นาทีแค่นั้นว่า เรื่องของสิทธิมนุษยชน เรื่องของธรรมาภิบาล เรื่องของการตรวจสอบถ่วงดุล เรื่องของประชาสังคม เรื่องของหลักนิติรัฐนิติธรรม เรื่องของเสรีภาพของสื่อ เรื่องของเสรีภาพส่วนบุคคล สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตยเลยนะครับ สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับเลือกตั้งเลยนะครับ ประเทศตะวันตกก่อนเขามีประชาธิปไตย เขามี 5-6 อย่างนี้ก่อน เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ของเราต้องคำนึงให้ 5-6 อย่างที่ผมพูด ให้มันมีให้ได้ในสังคมไทย เลือกตั้งมันเรื่องปลีกย่อยมากเลยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ