ผู้บริหารฯ ปตท.เตรียมพิจารณาปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอีกครั้ง ภายในสัปดาห์นี้ หลังราคาน้ำมันโลกทำสถิติเป็นรายวัน โดยเมื่อคืนนี้ ปิดที่ 120 ดอลลาร์/บาเรล "บางจาก" คาดราคาขายปลีกอาจทะลุลิตรละ 40 บาท ได้ในเร็วๆ นี้ ขณะที่ "คลัง" เร่งประชุมลดภาษีน้ำมัน พรุ่งนี้ คาดจะช่วยได้บ้างเล็กน้อยในระยะสั้น
วันนี้ (23 เม.ย.) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ปตท.มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอีกรอบหากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก เมื่อคืนนี้ ปรับขึ้นไปแตะที่ระดับ 120 ดอลลาร์สหรัฐบาร์เรล เนื่องจากค่าการตลาดยังอยู่ในภาวะที่ติดลบอยู่ โดยราคาเบนซินควรจะต้องปรับขึ้นอีกลิตรละ 1 บาท และดีเซลลิตรละ 2-3 บาท
ล่าสุด ราคาขายปลีกราคาน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 36.09 บาท, เบนซิน 91 ลิตรละ 34.99 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 32.09 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 31.29 บาท ส่วนราคาดีเซลยังแตกต่างกัน โดย ปตท.และบางจาก อยู่ที่ลิตรละ 32.44 บาท ต่ำกว่าเชลล์ซึ่งอยู่ที่ลิตรละ 33.44 บาท
สำหรับกรณีที่รัฐบาลเตรียมพิจารณาปรับลดภาษีสรรสามิตน้ำมันเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจบางสาขานั้น นายประเสริฐ มองว่าเป็นเรื่องที่ดี และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ แต่อยากให้รัฐบาลหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหล
**บางจาก ผวาน้ำมันทะลุ 40 บ.เร็วๆ นี้
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปริโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ประเมินว่า ราคาเฉลี่ยน้ำมันขายปลีกในประเทศภายในปีนี้ มีโอกาสขึ้นไปที่ระดับลิตรละ 40 บาท โดยคาดว่าราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยที่ลิตรละ 40 บาท และดีเซลเฉลี่ยที่ลิตรละ 38 บาท หลังสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกทำ New High อย่างต่อเนื่อง
"เดิมเราคิดว่าเบนซินเฉลี่ยที่ 35 บาท ดีเซลที่ 32-33 บาท แต่วันนี้คงมีโอกาสเกินกว่านั้น เบนซินมีโอกาส 40 บาทเป็นไปได้มาก ส่วนดีเซลก็น่าจะใกล้ ๆ กัน คือประมาณ 38 บาทก็น่าเป็นไปได้"
นายอนุสรณ์ ยอมรับว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนี้เป็นเรื่องหนักใจของผู้ค้าน้ำมันที่ราคาตลาดโลกปรับตัวขึ้นไปเร็วมาก ในขณะที่ผู้ค้าไม่สามารถปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศได้อย่างรวดเร็ว
ล่าสุด ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินของ BCP อยู่ที่ลิตรละประมาณ 1.10 บาท ส่วนดีเซลยังติดลบอยู่ที่ 1.50 บาท
นายอนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทำสถิติสูงสุดใหม่ทุกวัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่แน่นอนว่าในปีนี้เป็นปีที่ราคาน้ำมันจะต้องอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาซื้อขายล่วงหน้าก็ปรับตัวสูงขึ้น และเชื่อว่าการซื้อขายระหว่างวันในช่วง 1-2 วันนี้มีโอกาสสูงที่จะเห็นราคาน้ำมันทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 120 เหรียญ/บาร์เรล ได้ไม่ยากนัก
ทั้งนี้ หากมีเหตุการณ์ที่จะเข้ามากระทบต่อการผลิตน้ำมันก็จะยิ่งมีโอกาสให้ทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกถีบตัวสูงขึ้นได้อีก ส่วนปัจจัยที่อาจจะช่วยลดความร้อนแรงของสถานการณ์ราคาน้ำมันลงได้นั้น อาจจะมาจากอัตราการขยายตัวของจีนในปีนี้ไม่เติบโตสูงมาก ประกอบกับปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐ ยังคงไม่คลี่คลาย ซึ่งจะเป็นผลพวงให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันของโลกปรับตัวลดลง
"อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนถ้าไม่สูงจนเกินไปนักในปีนี้ และสหรัฐ ยังมีปัญหาซับไพร์มอย่างต่อเนื่อง ทั้งโลกก็อาจจะประเมินว่าการใช้น้ำมันอาจไม่ได้มากดังที่คาดการณ์ ก็น่าจะทำให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงได้บ้าง หรือระยะสั้นถ้าสต๊อกน้ำมันในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นไป ราคาก็มีโอกาสลดลงได้"
โดยวานนี้ ปตท.และบางจาก ได้ประกาศปรับราคาน้ำมันเฉพาะเบนซินขึ้นอีกลิตรละ 50 สตางค์ ในขณะที่ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นปรับขึ้นทั้งเบนซินและดีเซลอีกลิตรละ 50 สตางค์
**ผู้เชี่ยวชาญชี้ ดอลลาร์อ่อนค่า-ต้นเหตุสำคัญ
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและอุตสาหกรรมน้ำมัน กล่าวว่า สัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องที่อาจทะลุ 120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังปรับตัวสูงขึ้นจะกระทบต่อราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ด้วย ส่งผลให้ราคาน้ำมันทุกชนิดของตลาดสิงคโปร์ทำลายสถิติสูงสุดทั้งหมด ทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป
ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแรง เกิดจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงนี้มีการก่อการร้ายในประเทศไนจีเรีย โดยเฉพาะการถูกโจมตีบริเวณท่อน้ำมัน ทำให้การส่งออกน้ำมันจากไนจีเรียลดลง รวมถึง ปัญหาโรงกลั่นน้ำมันในยุโรปกลั่นน้ำมันดีเซลได้น้อยลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดอียูปรับตัวสูงขึ้น โดยคาดว่าราคาน้ำมันเบนซินหน้าร้อนปีนี้จะทำสถิติสูงถึง 4 เหรียญสหรัฐต่อแกลลอน ซึ่งจะส่งผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศ โดยราคาเบนซินจะอยู่ที่ 40 บาทต่อลิตรในช่วงเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป
นายมนูญ ศิริวรรณ กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซลขณะนี้มีค่าการตลาดอยู่ในระดับต่ำ จึงมีแนวโน้มปรับราคาขึ้น 2-3 ครั้ง เพื่อให้ค่าการตลาดดีเซลกลับมาอยู่ในภาวะปกติที่ประมาณ 1 บาทต่อลิตร ซึ่งหากดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2-3 ครั้ง จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศพุ่งสูงอีก 2 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาดีเซลอยู่ที่ 38 บาทต่อลิตร
**คลังเล็งหั่นภาษีสรรพสามิตรน้ำมัน พรุ่งนี้
นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.51) กระทรวงการคลัง จะหารือร่วมกับอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจพลังงาน โดยมีนายศุภรัตน์ ควัฒกุล ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานการประชุม เพื่อหาแนวทางในการลดหย่อนการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ให้กับภาคขนส่งตามนโยบายรัฐบาล เพราะภาคการขนส่งถือเป็นต้นทุนของอุตสาหกรรมเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการลดภาษีเฉพาะกลุ่ม ไม่ค่อยเป็นธรรม แต่หากพิจารณาแล้ว ได้ประโยชน์มากกว่าคงต้องเร่งดำเนินการให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว
สำหรับมาตรการช่วยเหลือภาคการขนส่ง โดยการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันจะเป็นมาตรการช่วยเหลือระยะยาวหรือไม่นั้น ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยขอหารือกับกรมพัฒนาธุรกิจพลังงานก่อน