xs
xsm
sm
md
lg

"ธานี"เร่งสางลอบสังหาร"สนธิ"ได้พยานเห็นมือปืนยิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV/ผู้จัดการรายวัน-"ธานี"ยันทำคดีลอบสังหาร"สนธิ"ให้เร็วที่สุด ระบุคืบหน้า แต่ยังเจาะจงกลุ่มคนร้ายไม่ได้ ผบช.น.ไม่ยืนยันยิงถล่มศาลธรน.เชื่อมโยงยิง"สนธิ"เร่งตรวจภาพจากวงจรปิดหลักฐานสำคัญ เผยตำรวจได้พยานเห็นมือปืนยิงสนธิ "สุเทพ"ลั่นไม่เด้ง ผบ.ทบ.-ผบ.ตร.

"สุริยะใส"ขีดเส้นสิ้นเดือนจับมือยิง แพทย์เผย “สนธิ” ไม่มีอาการแทรกซ้อน คาดศุกร์นี้กลับบ้านได้ “อดุลย์” มีลุ้น! ทำตามคำสั่งได้ สัญญาณชีพปกติ

วานนี้(20 เม.ย.)เวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมสรุปความคืบหน้าคดีคนร้ายยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผบช.กมส. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี จตร.(สบ 8)พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รองผบช.น.พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.ศสส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

พล.ต.อ.ธานี เปิดเผยหลังการประชุมว่าคดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร มีการสอบปากคำพยานไปหลายปากแล้ว โดยในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐานก็มีความคืบหน้าไปพอสมควร ซึ่งหลักฐานสำคัญในคดีนี้คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด และของกลางที่พบในที่เกิดเหตุ ซึ่งทำให้สืบสวนต่อไปได้ ส่วนภาพรถกระบะต้องสงสัยที่พบในกล้องวงจรปิดว่าเป็นของคนร้ายหรือไม่นั้น ต้องดูให้ละเอียดรอบคอบก่อนยืนยันว่าใช่หรือไม่ใช่

“ขณะนี้ยังไม่สามารถเจาะจงกลุ่มคนร้ายที่ลงมือได้ ส่วนประเด็นการสังหารเรายังไม่ตัดทุกประเด็น ซึ่งเราต้องนำพยานหลักฐานมาพิจารณาเป็นประเด็นไป ทุกคนจะพยายามทำงานให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องอาวุธปืนของคนร้ายก็ตรวจสอบอยู่ พยายามทำให้เร็ว ทุกคนตั้งใจทำงานให้รวดเร็วอยู่แล้ว”รอง ผบ.ตร.กล่าว และว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้จัดกำลังรักษาความปลอดภัยนายสนธิ ซึ่งหากแกนนำคนอื่น เกรงจะไม่ปลอดภัยก็ร้องขอกำลังตำรวจคุ้มครองได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า คดียิงนายสนธิ จะเกี่ยวข้องกับคดียิงศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานของทั้ง 2 คดี ว่ามีความสอดคล้องใกล้เคียงกันหรือไม่ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างละเอียด

**ตร.ได้พยานเห็นมือปืนยิงสนธิ**

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.ธานี กำชับให้ทางกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบรอยกระสุนปืนคดียิงนายสนธิ เพื่อหาวิถีของกระสุนคนร้ายใช้ปืนยิงมาลักษณะแนวใดบ้าง เพื่อจะได้เห็นภาพการทำงานของคนร้าย

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสืบสวนหากลุ่มคนร้ายที่ลงมือยิงนายสนธิ โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มบุคคลมีสีที่มีลูกน้องในกลุ่มเคยไปก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ ล่าสุดชุดสืบสวนได้พยานปากสำคัญที่เห็นเหตุการณ์ขณะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุได้นำไปสอบสวนรายละเอียดตำหนิรูปพรรณที่ชัดเจนของคนร้าย

**สอบ79ถล่มศาลรธน.โยงยิง"สนธิ"**

พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากบริษัท เวิร์คพอยท์ จำกัด (มหาชน) ได้ส่งนายประจวบ หรือ โจ บุญคูณ แชมป์แฟนพันธุ์แท้รถมือสองประจำปี 2007 และอีกรายซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ เป็นแชมป์แฟนพันธุ์แท้รถมือสองเช่นเดียวกัน มาช่วยกันตรวจสอบภาพรถกระบะต้องสงสัยที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดทั้ง 2 จุด คือ บริเวณศาลรัฐธรรมนูญ และจุดเกิดเหตุที่นายสนธิ โดนยิง เพื่อหาความเชื่อมโยงกันของทั้ง 2 คดี ในเรื่องของยานพาหนะ ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่ารถกระบะต้องสงสัยทั้ง 2 จุด เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ เหมือนกัน แต่การตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเป็นรถคนละคัน ส่วนเรื่องของอาวุธที่ใช้ของทั้ง 2 จุด คือ มีการใช้ระเบิดชนิดเอ็ม 79 ยังเป็นชนิดเดียวกัน แต่เราไม่สามารถตรวจสอบล็อตนัมเบอร์ได้

**เน้นตรวจกล้องวงจรปิดทุกตัว**

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนอีกเรื่องที่มีความคืบหน้ากรณีกล้อง CCTV ที่บริเวณแยกบางขุนพรหมซึ่งเสีย เดิมทีมีข่าวว่ามีคนไปตัด จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบว่าตัวกล้องดังกล่าวไม่ได้เสีย สามารถดูภาพเหตุการณ์ แต่ที่เสียคือตัวบันทึก ซึ่งกล้องดังกล่าวเป็นของ กทม. ตัวควบคุมอยู่ที่เขตพระนคร ส่วนกล่องบันทึกอยู่ใกล้กับตัวกล้อง ซึ่งตัวบันทึกได้ถูกยิงไป 2 นัด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวบันทึกเสีย เมื่อวันที่เจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ กทม.ได้เชิญให้บริษัทที่ทำหน้าที่ดูแลบำรุงรักษามาซ่อมก็สามารถบันทึกได้ ปรากฏว่าใช้บันทึกไป 4-5 ชั่วโมงก็เสียอีก ซึ่งเป็นเรื่องของตัวระบบ ซึ่งเท่าที่ทราบมีกล้องหลายตัวที่ไม่ได้บันทึก ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ กทม.จะไม่ได้มาตรวจสอบว่ามีการบันทึกหรือไม่ จะดูแต่ว่ากล้องนั้นมองเห็นหรือไม่เท่านั้น ซึ่งจากข้อเท็จจริงดังกล่าวตำรวจจึงได้ตัดประเด็นการรู้เห็นเป็นใจของเจ้าหน้าที่ที่คุมกล้อง

ผบช.น.กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเราได้ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมด 206 กล้อง ในวันเกิดเหตุได้เลือกดูเป็นกล้องๆ ไป ส่วนใหญ่จะดูที่กล้องบริเวณแยกต่างๆ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล เช่น แยกวังแดง แยกสวนมิสกวัน แยกพระบรมรูปทรงม้า นอกจากนี้ได้มีการประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ธนาคาร และทางด่วนทุกจุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า รถต้องสงสัยสามารถบอกได้หรือไม่ว่ามีกี่คัน ผบช.น.กล่าวว่า ตอนนี้ที่ยืนยันได้คือ โตโยต้าวีโก้ สีดำ อีกคันไม่ชัดเจนระหว่างฟอร์ดกับมาสด้า เพราะภาพไม่ชัด แต่ทั้งหมดเป็นเพียงรถต้องสงสัยเท่านั้น ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นรถของคนร้าย

**"เทพ"ยันไม่เด้ง"ผบ.ทบ.-ผบ.ตร"**

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึง ความคืบหน้าของคดีต่างๆ ในขณะนี้ว่า คนที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบจะเป็นผู้แถลงเอง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ซึ่งคงเป็นอย่างนี้ไปอีกระยะหนึ่ง เมื่อถามว่าตอนนี้มีการ เสนอให้ปรับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานด้านความมั่นคงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คำถามอย่างนี้เป็นตัวอย่างของความสับสนอย่างหนึ่ง เพราะความจริงไม่มี

ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุที่เกิดกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ทำให้เกิดภาพที่ไม่ดีกับรัฐบาล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนคงไม่พูดอะไรเพราะไม่ต้องการให้เป็นประเด็น โต้แย้งอะไรกันอีก และในฐานะที่รับผิดชอบฝ่ายความมั่นคงก็จะพยายามดูแล ให้ทุกคนทุกภาคส่วนทำงานได้อย่างเต็มที่ 

ต่อข้อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าขณะนี้การทำงานของฝ่ายความมั่นคงและกองทัพ ไม่ได้มีความหวาดระแวงอย่างที่มีความพยายามสร้างกระแส นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีอย่างแน่นอน ภายใต้รัฐบาลที่นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี การทำงานมีเอกภาพเต็มที่ ส่วนข่าวลือที่ออกมาตนไม่สามารถไปตอบแทนได้ เพราะแล้วแต่คนลือ แต่ตนยืนยันว่าเรามีเอกภาพในการทำงานด้วยกันตลอดมา

เมื่อถามว่ายืนยันจะไม่มีการปรับตำแหน่ง ผบ.ทบ และ ผบ.ตร.ใช่หรือไม่  รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวถามว่าในพรรคร่วมรัฐบาลทำไมยังมีกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการปรับรัฐมนตรีบางคนออก นายสุเทพ ยืนยันว่า ไม่มี ไม่มีอะไร ทุกอย่างเป็นข่าวลือหมด

**พธม.จี้จับมือยิงภายในสิ้นเดือนนี้**

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยถึงกระแสข่าวถูกตั้งค่าหัว 3 ล้านบาท ว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่าข้อเท็จจริง เป็นอย่างไร คิดว่าเป็นการข่มขวัญและไม่ได้หวั่นไหวอะไร แต่ต้องระวังตัวเอาไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงเรื่องความปลอดภัยของแกนนำพันธมิตรฯ ทุกคนมีสิทธิ์ถูกปองร้ายได้ตลอดเวลา

นายสุริยะใส กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล จนได้รับบาดเจ็บ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่า เหตุลอบสังหารนายสนธิ เกิดจากฝีมือของกลุ่มคนใด เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้เกมแห่งอำนาจมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ขอรอดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ว่าจะสรุปคดีไปในทิศทางใด

ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีที่มีการเปลี่ยนตัวทีมดูแลคดีความและนครบาล จาก พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.ให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ดูแลแทนว่า ส่วนตัวแล้วค่อนข้างที่จะมั่นใจการทำงานของ พล.ต.อ.ธานี แต่หากยังไม่มีความคืบหน้ากรณีการจับตัวคนร้ายอย่างช้าที่สุดภายในเดือน เม.ย.นี้คาดว่าพันธมิตรฯ คงจะมีมาตรการที่ชัดเจนออกมาว่าจะทำอย่างไรต่อไป

**

เสธ.แดงปูดพล.อ.สั่งยิง**

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน  ซึ่งทราบว่า หลังจากเกิดคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ปรากฎ มีคนเฝ้าติดตาม พล.อ.พัลลภ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนคดียิงนายสนธิ ทั้งนี้ พล.อ.พัลลภ บอกกับตนว่า ไม่เกี่ยวข้องคดียิงนายสนธิ และตนก็ยืนยันเช่นนั้น ส่วนการที่ พล.อ.พัลลภ ต้องเก็บตัวเงียบ เพราะไม่อยากติดคุกตอนแก่

พล.ต.ขัตติยะ ยังปฏิเสธว่า ตนถูกเฝ้าจับตานั้นไม่เป็นความจริง เพราะคงไม่มีตำรวจคนไหนกล้ามายุ่ง เพราะรู้ว่า เสธ.แดง เป็นคนอย่างไร หากมาจับตารับรองว่าโดนยิงกลับหมดแน่

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า คดีของนายสนธิ ตนพอทราบว่า เป็นฝีมือของคนมีสี อย่างแน่นอน ส่วนที่ระบุว่า เป็นนายทหารนอกราชการยศพลเอกนั้นก็เป็นความจริง เพราะทหารชั้นประทวนทำไม่ได้


**คาด “สนธิ”ศุกร์นี้กลับบ้านได้

วันเดียวกันเวลา 11.15 น. รศ.น.พ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับ อาการทั่วไปของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าผู้ป่วยรู้สึกตัวดีและช่วยเหลือตัวเองได้ บาดแผลดีไม่มีอาการติดเชื้อ ไม่มีอาการแทรกซ้อน รับประทานอาหารได้ โดยทีมแพทย์ขอดูอาการสักระยะหนึ่ง

สำหรับนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ ขณะนี้รู้สึกตัวดี ลืมตาเองได้ในบางครั้ง ทำตามคำบอกได้ ซึ่งคณะแพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ แขนข้างซ้ายมีแรงดีขึ้น สามารถเคลื่อนไหวยกลอยได้ สำหรับแขนข้างขวาใส่เหล็กดามไว้ มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ขอบแผลไม่ตึง สามารถกำมือ แบมือได้ สายระบายเลือดจากช่องอกด้านขวาไม่มีเลือดออก แต่ขาข้างซ้ายยังขยับไม่ได้ ขาข้างขวามีแรงเท่าเดิม สัญญาณชีพปกติ และยังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียูต่อไป ส่วนนายวาร์ยุภักดิ์ มังคละสินธุ์ ผู้ป่วยบาดแผลดีขึ้น ไม่มีไข้ อาการทั่วไปสบายดี

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมแพทย์คาดว่านายสนธิ จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ภายในวันศุกร์นี้ ขณะที่ภาวะสมองบวมของนายอดุลย์มีอาการดีขึ้น แต่ยังไม่ 100%

**กำลังใจยังแน่นรพ.จุฬาฯ**

สำหรับบรรยากาศการลงชื่อและมอบแจกัน-กระเช้าดอกไม้ให้ นายสนธิ ที่บริเวณด้านล่างของตึก ส.ก.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นวันที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้เปิดโต๊ะรับลงชื่อเยี่ยมตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยมีประชาชนเดินทางมาลงชื่อเยี่ยมอย่างต่อเนื่องในจำนวนนี้มีประชาชนที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจาก จ.ขอนแก่น เพื่อลงชื่อเยี่ยมนายสนธิ และบริจาคเงินช่วยค่ารักษานายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ โดยเฉพาะด้วย ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งที่มาออกกำลังกายช่วงเช้าในสวนลุมพินีเสร็จแล้วได้เดินทางมาลงชื่อเยี่ยมนายสนธิด้วย

สำหรับช่วงเช้ามีบุคคลสำคัญส่งกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมอาการนายสนธิ อย่างต่อเนื่องได้แก่ ดร.วีณา เชิดบุญชาติ อดีต ส.ว. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์, ดร.รัชดา ธนาดิเรก, นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.ประชาธิปัตย์ พธม.ยูเอสเอ รัฐเวอร์จิเนีย ฯลฯ นอกจากนี้ พ่อ แม่ และลูกของนายอดุลย์ ได้เดินทางเข้าไปเยี่ยมอาการของนายอดุลย์ พร้อมด้วยนายชวนนท์ อินทรโกมารย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้วย

นางเพลินตา พัฒนสุวรรณ อายุ 63 ปี เจ้าของธุรกิจกล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้น่าจะไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ตนไม่ได้คาดหวังอะไรมาก อีกทั้งเมื่อรู้ข่าวว่านายสนธิ ปลอดภัยแล้วเรื่องนี้ก็คงหายไป

**"แดง"ทะเล่อทะล่าโผล่ ร.พ.จุฬาฯ

ส่วนช่วงบ่ายก็ยังคงมีพันธมิตรฯ จากใน กทม. และต่างจังหวัด เดินทางมาลงชื่อเยี่ยมนายสนธิ อย่างต่อเนื่อง และบางคนได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักศึกษา และนักเรียนจากหลากหลายสถาบันมาร่วมลงชื่อเยี่ยมด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณภายนอกอาคาร สก.ซึ่งใกล้กับจุดลงรายชื่อเยี่ยมนายสนธิ ได้มีชายสวมเสื้อแดงเขียนว่า “แดงทั้งแผ่นดิน”ที่หน้าอกเสื้อและมีสัญลักษณ์ “ความจริงวันนี้” ถือถุงพลาสติกบรรจุกล่องกระดาษมายืนอยู่บริเวณดังกล่าว เมื่อประชาชนที่มาลงชื่อเยี่ยมนายสนธิพบเห็น ต่างก็แสดงความมึนงง และตกใจว่าชายคนดังกล่าวมาที่โรงพยาบาลด้วยจุดประสงค์ใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถามจึงได้ทราบว่า ชายคนดังกล่าวเดินทางมาส่งของ แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่มารับของอยู่ระหว่างพักเที่ยง เลยมายืนรออยู่ด้านหน้าอาคาร โดยไม่ทราบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นจุดลงชื่อเยี่ยมนายสนธิ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวชายดังกล่าวไปส่งของให้แก่ผู้รับ และเดินทางออกจากโรงพยาบาลไปอย่างปลอดภัย

** “ลุงจำลอง-น.ต.ประสงค์” เข้าเยี่ยม

ต่อมาเวลา 13.40 น. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการ นายสนธิ โดยหลังใช้เวลาเยี่ยมประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า นายสนธิ เป็นตัวแทนของคนที่สู้เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ประเทศชาติ และสถาบันสูงสุด ฉะนั้น นายสนธิจึงเป็นบุคคลตัวอย่างคนหนึ่งที่ตนรู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับเป็นการเสียสละจากงานที่ทำ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเพื่อให้ได้รับข้อมูลข่าวสารในฐานะของการเป็นสื่อ ซึ่งตัวนายสนธิเองก็ได้รับการบาดเจ็บจากการทำงานเพื่อส่วนรวม และการที่รอดชีวิตมาได้นี้ก็เป็นเพราะความดีที่ช่วยป้องกัน

ต่อมาในเวลา 14.05 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ พร้อมภรรยาได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายสนธิ โดยใช้เวลาเข้าเยี่ยมประมาณ 5 นาที และปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “คุณสนธิสบายดี” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพันธมิตรฯ จะออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า “ต้องมีการหารือกับแกนนำทุกคนก่อน”

สำหรับในช่วงบ่ายยังคงมีบุคคลสำคัญส่งกระเช้าดอกไม้เยี่ยมอาการนายสนธิอย่างต่อเนื่อง เช่น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย, รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์, กัปตันจักรี จงศิริ กัปตันการบินไทย, ผู้บริหารสื่อในเครือฐานเศรษฐกิจ, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.ที่เป็นตัวแทนของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น