00 การเปลี่ยนทีมสะสางคดีลอบสังหาร “สนธิ ลิ้มทองกุล” มาเป็น พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ แล้วดึง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง มาร่วมเป็นมือสืบสวนสอบสวนในเชิงลึก ขณะเดียวกันการมอบหมายให้ดูแลพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ภาคตะวันตก) กับพื้นที่นครบาล ถือว่ามีนัยสำคัญไม่น้อย เพราะแถบนี้รู้กันอยู่ว่ามี “ดงมือปืน” ซ่อนอยู่จำนวนมาก ดังนั้นเมื่อส่วนหัวเชื่อถือได้ ระดับรองลงมา ก็ไม่น่าผิดหวัง ก็ขอเอาใจช่วยให้สาวถึงต้นตอ กระชากหน้ากาก “ไอ้โม่ง-ตาอยู่” ที่นั่งตีหน้าตายอยู่เวลานี้ ให้สังคมได้เห็นกันจะจะเสียที
00 รับรู้กันภายในว่า สาเหตุหลักในการเปลี่ยนทีมคุมคดีเป็น “สายตรง” จากนายกรัฐมนตรี เพราะเหมือนกับรู้แล้วว่า ถ้ายังขืนปล่อยให้ ผบ.ตร. “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ว่ากันไปเรื่อยๆ แบบเก่า ผลจะออกมาแบบไหนก็น่าจะพอคาดเดากันได้ บอกตรงๆว่า ตอนแรกที่ตั้ง “จงรัก จุฑานนท์” มาคุมคดีหลายคนก็“ใจหวิว” ทันที ครั้นจะบอกว่าไม่ค่อยเชื่อฝีมือ ก็ดูจะแรงไป เอาเป็นว่า เมื่อขยับกันใหม่ ถือว่าโอเค แต่นาทีนี้ขอดูอาการกันไปก่อน
00 น่าสังเกตไปกว่านั้นก็คือ งานนี้ถูกกำชับให้รายงานความคืบหน้า “ส่งตรง” ถึงนายกฯอภิสิทธิ์ ไม่ต้องผ่านใครให้เรื่องมาก เพราะเหมือนกับเดาทางไว้ล่วงหน้าว่า สืบไปสืบมาต้องไป “เจอตอ” ดุ้นเบ่อเร่อ ขวางทางอยู่ค่อนข้างแน่ ขึ้นอยู่กับว่าจะใจถึง กล้าฝ่าข้ามไปหรือเปล่า ดังนั้นต้องวัดใจกันไม่น้อย
00 ในที่สุดก็ถึงคิวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ทนไม่ไหวต้องออกโรงเฉ่ง สตช. ภายใต้การบริหารของ พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อัดกันแบบตรงๆ ความหมายก็คือ ตำรวจทำงาน “ไม่เอาอ่าว” หรือไม่ตั้งใจดูแลความปลอดภัย ปล่อยให้พวกโจรยิงถล่มระเบิด เอ็ม 79 ถึง 3 ครั้ง ภายในวันเดียว ขณะที่ตุลาการ และเจ้าหน้าที่ต้องดูแลตัวเองไปตามมีตามเกิด น่าอนาถใจจริงๆ
00 พรุ่งนี้ (22 เม.ย.) เป็นกำหนดการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อหารือถึงสถานการณ์บ้านเมือง พูดไปเดี๋ยวจะหาว่า “ขัดคอ” แต่เอาเป็นว่า “ไม่ได้เรื่องได้ราว” ก็แล้วกัน เพราะจะกลายเป็นเวทีของพวกบ้าน้ำลาย ซ้ำเติมสถานการณ์เข้าไปอีก ที่สำคัญก็คือจะเข้าทาง“นช.แม้ว” ไปเต็มๆ เพราะต้องการย้ายเวทีป่วนจากกลางถนนลาก “เข้าสภา” อีกรอบ
00 เป้าหมายก็ไม่มีอะไรมาก รู้กันอยู่ว่า ทำทุกทางเพื่อบีบให้ยุบสภาเท่านั้น “หัวโจก” หลักๆ ก็หน้าเดิมเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว บางคนก็ถอดเสื้อแดงมาใส่สูทผูกเนกไท เนื้อหาการพูดก็คงไม่หนีไปจากการสร้างกระแสใส่ร้ายเรื่อง “ซุกซ่อนศพ” แล้วปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้เผาเมือง โยนความผิดให้คนอื่น ปลุกระดมให้พวก “เสื้อแดง” ที่ห่างไกลข้อมูล ออกมาป่วนเมืองอีกรอบ หลังจากใช้เวทีข้างนอกไม่ได้ผล ก็หวังว่ารัฐบาลคงไม่หลงเกมซ้ำซาก!!
00 รับรู้กันภายในว่า สาเหตุหลักในการเปลี่ยนทีมคุมคดีเป็น “สายตรง” จากนายกรัฐมนตรี เพราะเหมือนกับรู้แล้วว่า ถ้ายังขืนปล่อยให้ ผบ.ตร. “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ว่ากันไปเรื่อยๆ แบบเก่า ผลจะออกมาแบบไหนก็น่าจะพอคาดเดากันได้ บอกตรงๆว่า ตอนแรกที่ตั้ง “จงรัก จุฑานนท์” มาคุมคดีหลายคนก็“ใจหวิว” ทันที ครั้นจะบอกว่าไม่ค่อยเชื่อฝีมือ ก็ดูจะแรงไป เอาเป็นว่า เมื่อขยับกันใหม่ ถือว่าโอเค แต่นาทีนี้ขอดูอาการกันไปก่อน
00 น่าสังเกตไปกว่านั้นก็คือ งานนี้ถูกกำชับให้รายงานความคืบหน้า “ส่งตรง” ถึงนายกฯอภิสิทธิ์ ไม่ต้องผ่านใครให้เรื่องมาก เพราะเหมือนกับเดาทางไว้ล่วงหน้าว่า สืบไปสืบมาต้องไป “เจอตอ” ดุ้นเบ่อเร่อ ขวางทางอยู่ค่อนข้างแน่ ขึ้นอยู่กับว่าจะใจถึง กล้าฝ่าข้ามไปหรือเปล่า ดังนั้นต้องวัดใจกันไม่น้อย
00 ในที่สุดก็ถึงคิวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ทนไม่ไหวต้องออกโรงเฉ่ง สตช. ภายใต้การบริหารของ พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อัดกันแบบตรงๆ ความหมายก็คือ ตำรวจทำงาน “ไม่เอาอ่าว” หรือไม่ตั้งใจดูแลความปลอดภัย ปล่อยให้พวกโจรยิงถล่มระเบิด เอ็ม 79 ถึง 3 ครั้ง ภายในวันเดียว ขณะที่ตุลาการ และเจ้าหน้าที่ต้องดูแลตัวเองไปตามมีตามเกิด น่าอนาถใจจริงๆ
00 พรุ่งนี้ (22 เม.ย.) เป็นกำหนดการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อหารือถึงสถานการณ์บ้านเมือง พูดไปเดี๋ยวจะหาว่า “ขัดคอ” แต่เอาเป็นว่า “ไม่ได้เรื่องได้ราว” ก็แล้วกัน เพราะจะกลายเป็นเวทีของพวกบ้าน้ำลาย ซ้ำเติมสถานการณ์เข้าไปอีก ที่สำคัญก็คือจะเข้าทาง“นช.แม้ว” ไปเต็มๆ เพราะต้องการย้ายเวทีป่วนจากกลางถนนลาก “เข้าสภา” อีกรอบ
00 เป้าหมายก็ไม่มีอะไรมาก รู้กันอยู่ว่า ทำทุกทางเพื่อบีบให้ยุบสภาเท่านั้น “หัวโจก” หลักๆ ก็หน้าเดิมเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว บางคนก็ถอดเสื้อแดงมาใส่สูทผูกเนกไท เนื้อหาการพูดก็คงไม่หนีไปจากการสร้างกระแสใส่ร้ายเรื่อง “ซุกซ่อนศพ” แล้วปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้เผาเมือง โยนความผิดให้คนอื่น ปลุกระดมให้พวก “เสื้อแดง” ที่ห่างไกลข้อมูล ออกมาป่วนเมืองอีกรอบ หลังจากใช้เวทีข้างนอกไม่ได้ผล ก็หวังว่ารัฐบาลคงไม่หลงเกมซ้ำซาก!!