xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมประชุมอาเซียน+3+6ใหม่เอกชนหนุนดึงเชื่อมั่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“อลงกรณ์”เผยรัฐบาลไทยเตรียมประชุมอาเซียน +3 +6 ได้ปลายพ.ค.นี้ หลังถูกม๊อบเสื้อแดงทำป่วนจนต้องล้มเลิกไปก่อนหน้านี้ หอการค้าไทยหนุนจัดประชุมโดยเร็ว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ด้านศิริพลสั่ง 3 กรมในสังกัดเร่งสร้างความเชื่อมั่นในตลาดต่างประเทศดันส่งออก

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังเตรียมความพร้อมจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจาในกรอบ +3 +6 ร่วมกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย อีกครั้ง หลังจากต้องล้มเลิกไปเมื่อ 10-12 เม.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถกำหนดจัดการประชุมได้ในปลายเดือนพ.ค.นี้ และกำลังดูว่าประเทศคู่เจรจามีความพร้อมที่จะมาร่วมประชุมตามกำหนดการใหม่หรือไม่

“ขณะนี้ ปัญหาการเมืองภายในประเทศ รัฐบาลได้คลี่คลายสถานการณ์ลงไปแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรที่จะทำให้การประชุมเกิดปัญหาอีก เนื่องจากสิ่งที่ผ่านมา ก็เห็นแล้วว่าเป็นความสูญเสียของคนไทยทุกคน”นายอลงกรณ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ไทยยังคงกำหนดการประชุมเดิมในเดือนส.ค.นี้ โดยวาระการประชุมจะเน้นการหารือถึงความร่วมมือภายในอาเซียน รวมไปถึงประเด็นวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่อาเซียนจะร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหา

นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า รัฐบาลไทยควรเร่งจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนโดยเร็วที่สุด ภายใน 1-2 เดือนจากนี้ โดยพิจารณาสถานการณ์การเมืองภายในให้มีความสงบ ซึ่งอาจมีการประท้วงคัดค้านรัฐบาลได้ แต่ต้องอยู่ในวงจำกัดและเป็นไปตามกฎหมาย

“การประชุมผู้นำอาเซียน ถ้าจัดได้เร็วและเรียบร้อยดี จะเป็นประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ประเทศ สร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักท่องเที่ยว นักลงทุนและนักธุรกิจต่างชาติ มองประเทศไทยว่าปลอดภัย ผมสนับสนุนให้เร่งดำเนินการจัดการประชุมโดยเร็วที่สุด”นายสมเกียรติกล่าว

เร่งสร้างความเชื่อมั่นในตลาดต่างประเทศ

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกันจัดคณะผู้แทนทางการค้าไทยให้มากขึ้น เพื่อเดินทางไปสร้างความเชื่อมั่นในประเทศต่างๆ รวมถึงใช้เป็นโอกาสขยายการส่งออกสินค้าไทยให้มากขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศ จนทำให้ภาพพจน์ และความเชื่อมั่นของไทยลดลง

“ขอให้ทั้ง 3 กรมเร่งจัดคณะผู้แทนทางการค้าเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในตลาดใหม่ อย่างรัสเซีย ก็ต้องมีระดับรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะ รวมถึงในตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยเฉพาะใน 2 ภูมิ ภาคหลังที่ปัจจุบันให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียมากขึ้น” นายศิริพลกล่าว

สำหรับสินค้าที่จะเร่งขยายการส่งออกในขณะนี้ ได้แก่ ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา ผลไม้ต่างๆ รวมถึงอาหารแช่เย็นแช่แข็งต่างๆ ทั้งกุ้ง ไก่ เป็นต้น ซึ่งเห็นว่าในไตรมาส 2 และ 3 เป็นโอกาสที่จะขยายการส่งออกได้มากขึ้น เพราะความต้องการเริ่มกลับมาแล้ว ต่างจากช่วงไตรมาสแรกที่แทบไม่มีคำสั่งซื้อเลย โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ที่ไม่มีแรงกดดันต่อราคา เพราะราคาน้ำมันเริ่มปรับสูงขึ้นอีก ทั่วโลกจึงหันมาให้ความสำคัญกับการผลิตพลังงานทดแทนอีกครั้ง และจากการเดินทางไปเยือนจีนของนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เมื่อต้นเดือนเม..ย.ที่ผ่านมา จีนมีความต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยเพื่อผลิตพลังงานทดแทนมากถึง 1-2 ล้านตัน

นายศิริพลกล่าวยอมรับว่า หนักใจกับการส่งออกของไทยในปีนี้ เพราะนอกจากจะต้องประสบกับปัญหาเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักตกต่ำแล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหาความไม่สงบในประเทศอีก แม้ว่าในขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้วก็ตาม แต่ภาพพจน์ประเทศเสียหายมาก จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อสินค้าไทยในประเทศต่างๆ พร้อมกับได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ไทยในประเทศต่างๆ เข้าถึงลูกค้าให้ และชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์ในไทยมากขึ้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น