ผู้ประกอบการค้าดิ้นเฮือกสุดท้าย เรียกสมาชิกถกด่วนหาวิธีแก้ไขเล็งจับมือรับและเอกชนอัดโปรโมชั่นสุดเหวี่ยง หวังใช้เป็นสิ่งจูงใจเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวต่างชาติหวนกลับมาเที่ยวถนนข้าวสารโดยเร็ว เหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาสถานการณ์ทางการเมืองไทยทำนักท่องเที่ยวกร่อย เหลือรายได้แค่ 130 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่าเท่าตัว ยอมรับขณะนี้ผู้ประกอบการหลายรายเลิกกิจการเหตุทนแบกภาระขาดทุนที่ต่อเนื่องมาเกือบปีไม่ไหวแล้ว
นายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 เม.ย.ศกนี้จะประชุมกับสมาชิก หารือที่จะจัดทำโปรโมชั่น หรือกิจกรรมบนถนนข้าวสารอีกครั้ง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้เดินทางมาเที่ยวที่ถนนข้าวสารเหมือนเดิม ทั้งนี้เพราะปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวย่านถนนข้าวสารมีจำนวนไม่ถึง 10% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์คือเดือนเมษายน ซึ่งน่าจะเป็นผลจากปัจจัยลบหลายด้านทั้งปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทยตลอดจนการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวใหม่ๆเข้ามา ส่วนนักท่องเที่ยวเก่าก็เริ่มทยอยเช็คเอาท์ออกไป
สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา(12-15เม.ย.52)มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมงานที่จัดขึ้นบนถนนข้าวสารราว4.5-5.5แสนคน สร้างรายได้ราว 130 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะได้ 300ล้านบาท แต่ยังต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมาซึ่งจะมีเงินสะพัดราว 400-500 ล้านบาท
"ช่วงเหตุความรุนแรงระหว่างทหารกับม็อบเสื้อแดง ทำให้สมาคมต้องประกาศยกเลิกการจัดงานในบ่ายวันที่ 13 เมษายน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทำให้เราต้องเสียโอกาสในการสร้างรายได้นับร้อยล้านบาทที่เดียว โดยจำนวนผู้มาเล่นสาดน้ำที่ถนนข้าวสารปีนี้เป็นชาวต่างชาติประมาณ 18% จากทุกปีจะมีประมาณ 20% และส่วนใหญ่ยังเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาจากย่านสุขุมวิท สีลม และพัทยา ส่วนนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ในย่านถนนข้าวสารจริงๆมีไม่ถึง 10%"
ปัจจุบันยอมรับว่ามีผู้ประกอบการในถนนข้าวสารรายหลายที่ต้องเลิกกิจการไป เนื่องจากรายได้น้อยไม่พอกับรายจ่าย ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีนี้ผู้ประกอบการต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ และเชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้สภาพตลาดที่ถนนข้าวสารก็ยังไม่น่าจะดีขึ้นมากนัก บางรายอยู่ในภาวะขาดทุนต่อเนื่องมานาน 7-8 เดือนแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังเจ้าของตึกให้ลดค่าเช่าลง 10-20%ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยลำดับต่อไปสมาคมฯเตรียมเสนอเรื่องไปยังภาครัฐและกรมสรรพากรขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกอบการบนถนนข้าวสารบ้าง เช่น ขอลดหย่อนภาษีสรรพากรเป็นต้น นอกจากนั้น จะประสานไปยังสถานทูต หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยวและ ตัวแทนจำหน่ายทัวร์ เพื่อหารือร่วมกันจัดทำโปรโมชั่นครั้งใหญ่ ให้การท่องเที่ยวบนถนนข้าวสารกลับมาคึกคักอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจพบว่าผู้ประกอบการบนถนนข้าวสารที่ประสบปัญหามากที่สุดได้แก่ กลุ่มโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักลดลงมาก รองมาคือ บริษัทนำเที่ยวตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน และกลุ่มธุรกิจขายสินค้าฟุ่มเฟื่อย เช่น ของที่ระลึก ร้านตัดสูท ร้านขายเหล้า เบียร์ ส่วนกลุ่มร้านอาหารได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
นายสุรัตน์ กล่าวทิ้งทายว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ประกอบการบนถนนข้าวสารและร้านค้า ได้ประกาศจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวบนถนนข้าวสารไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยเริ่มตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค เน้นจัดแคมเปญโปรโมชั่นลดราคาสินค้าและบริการลง 10-20% โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้ามาพักที่ถนนข้าวสาร โดยทำประชาสมัพันธ์ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต เครือข่ายโทรทัซน์ช่องCNN แต่เมื่อเหตุการณ์ในประเทศไทยเป็นเช่นนี้ เราคงต้องร่วมมือกันทำแคมเปญให้ยิ่งใหญ่และน่าสนใจยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามา
นายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 เม.ย.ศกนี้จะประชุมกับสมาชิก หารือที่จะจัดทำโปรโมชั่น หรือกิจกรรมบนถนนข้าวสารอีกครั้ง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้เดินทางมาเที่ยวที่ถนนข้าวสารเหมือนเดิม ทั้งนี้เพราะปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวย่านถนนข้าวสารมีจำนวนไม่ถึง 10% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์คือเดือนเมษายน ซึ่งน่าจะเป็นผลจากปัจจัยลบหลายด้านทั้งปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทยตลอดจนการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวใหม่ๆเข้ามา ส่วนนักท่องเที่ยวเก่าก็เริ่มทยอยเช็คเอาท์ออกไป
สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา(12-15เม.ย.52)มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมงานที่จัดขึ้นบนถนนข้าวสารราว4.5-5.5แสนคน สร้างรายได้ราว 130 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะได้ 300ล้านบาท แต่ยังต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมาซึ่งจะมีเงินสะพัดราว 400-500 ล้านบาท
"ช่วงเหตุความรุนแรงระหว่างทหารกับม็อบเสื้อแดง ทำให้สมาคมต้องประกาศยกเลิกการจัดงานในบ่ายวันที่ 13 เมษายน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทำให้เราต้องเสียโอกาสในการสร้างรายได้นับร้อยล้านบาทที่เดียว โดยจำนวนผู้มาเล่นสาดน้ำที่ถนนข้าวสารปีนี้เป็นชาวต่างชาติประมาณ 18% จากทุกปีจะมีประมาณ 20% และส่วนใหญ่ยังเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาจากย่านสุขุมวิท สีลม และพัทยา ส่วนนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ในย่านถนนข้าวสารจริงๆมีไม่ถึง 10%"
ปัจจุบันยอมรับว่ามีผู้ประกอบการในถนนข้าวสารรายหลายที่ต้องเลิกกิจการไป เนื่องจากรายได้น้อยไม่พอกับรายจ่าย ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีนี้ผู้ประกอบการต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ และเชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้สภาพตลาดที่ถนนข้าวสารก็ยังไม่น่าจะดีขึ้นมากนัก บางรายอยู่ในภาวะขาดทุนต่อเนื่องมานาน 7-8 เดือนแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังเจ้าของตึกให้ลดค่าเช่าลง 10-20%ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยลำดับต่อไปสมาคมฯเตรียมเสนอเรื่องไปยังภาครัฐและกรมสรรพากรขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกอบการบนถนนข้าวสารบ้าง เช่น ขอลดหย่อนภาษีสรรพากรเป็นต้น นอกจากนั้น จะประสานไปยังสถานทูต หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยวและ ตัวแทนจำหน่ายทัวร์ เพื่อหารือร่วมกันจัดทำโปรโมชั่นครั้งใหญ่ ให้การท่องเที่ยวบนถนนข้าวสารกลับมาคึกคักอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจพบว่าผู้ประกอบการบนถนนข้าวสารที่ประสบปัญหามากที่สุดได้แก่ กลุ่มโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักลดลงมาก รองมาคือ บริษัทนำเที่ยวตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน และกลุ่มธุรกิจขายสินค้าฟุ่มเฟื่อย เช่น ของที่ระลึก ร้านตัดสูท ร้านขายเหล้า เบียร์ ส่วนกลุ่มร้านอาหารได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
นายสุรัตน์ กล่าวทิ้งทายว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ประกอบการบนถนนข้าวสารและร้านค้า ได้ประกาศจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวบนถนนข้าวสารไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยเริ่มตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค เน้นจัดแคมเปญโปรโมชั่นลดราคาสินค้าและบริการลง 10-20% โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้ามาพักที่ถนนข้าวสาร โดยทำประชาสมัพันธ์ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต เครือข่ายโทรทัซน์ช่องCNN แต่เมื่อเหตุการณ์ในประเทศไทยเป็นเช่นนี้ เราคงต้องร่วมมือกันทำแคมเปญให้ยิ่งใหญ่และน่าสนใจยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามา
