วิกฤตเศรษฐกิจกระทบ มหาสงกรานต์ ข้าวสาร ปีนี้เงินสะพัด 300ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนกวาด 400-500ล้านบาท ระบุนักท่องเที่ยวต่างชาติมั่นใจสถานการณ์ จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ลดแต่หั่นค่าใช้จ่ายลง 40% เฮโลภาครัฐไฟเขียวขายน้ำเมา หวังโกยยอดขาย หลัง 6เดือนที่ผ่านรายได้วูบ ผู้ประกอบการปิดกิจการกว่า 100ราย ทั้งปีเงินสะพัดข้าวสารกว่า 1,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 3,000 ล้านบาท
นายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า สมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร ได้จัดงาน“มหาสงกรานต์ ถนนข้าวสาร”ขึ้นภายใต้สโลแกน “สนุกสนานอย่างมีวัฒนธรรม” ในระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน นี้ โดยประเมินสถานการณ์ปีนี้ว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ถนนข้าวสารประมาณกว่า 1ล้านคน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 3แสนราย ส่วนนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 6-7แสนราย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย จึงงดการเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดและมาเที่ยวสถานที่ที่จัดงานในกรุงเทพฯ แทน
อย่างไรก็ตามเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าเงินสะพัดในช่วง 4วัน ลดลง จากปีก่อน 400-500ล้านบาท เหลือเป็นไม่เกิน 300ล้านบาท เพราะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศลดค่าใช้จ่ายลง อาทิ นักท่องเที่ยวต่างประเทศจากมีค่าใช้จ่าย 10,000-15,000บาทต่อระยะเวลา 5 วัน เหลือเป็น 8,000-10,000บาท และเพื่อกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวประเทศไทย ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกับสมาชิกจัดโปรโมชันลดราคาที่พัก 10-20% ระยะเวลา 3เดือนในช่วงหน้าร้อนและช่วงเทศกาลสงกรานต์
ขณะนี้พบว่าปริมาณนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมาการเมืองประเทศไทยขาดสเถียรภาพ กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างประเทศหายไป 80% แต่พบว่าในช่วงเดือนมกราคม กระทั่งปัจจุบัน นักท่องเที่ยวเริ่มทางเดินกลับมา อาทิ อิสราเอล, ญี่ปุ่น ,อเมริกา, อิตาลี และ ฝรั่งเศส โดยขณะนี้อัตราการจองห้องพัก 90% หลังจากก่อนหน้านี้ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการถนนข้าวสารประสบกับปัญหารายได้ลดลงอย่างมาก กระทั่งปิดกิจการไป 115ราย แต่ก็มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาดำเนินกิจการต่อ 95%
“การชุมชุนของม็อบเสื้อแดง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และหากไม่มีสถานการณ์รุนแรง มั่นใจว่าการท่องเที่ยวจะกลับคืนสู่ภาวะปกติช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นพอดี แต่สิ่งที่ทางสมาคมฯ กังวล คือ กำลังซื้อของมากกว่า จากปกติเงินสะพัดบนถนนข้าวสารทั้งปีประมาณ 2,000-3,000ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยว 10ล้านคนต่อปี แต่ปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวลดค่าใช้จ่ายถึง 40% หรือประเมินว่ามีเงินสะพัดกว่า 1,000ล้านบาท ก็ถือว่าดีแล้ว”
ทั้งนี้การจัดงานมหาสงกรานต์ ถนนข้าวสาร เป็นหนึ่งในกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและร่วมสร้างความคึกคักทางด้านการท่องเที่ยวให้กลับคืนมาอีกครั้ง โดยทางสมาคมฯได้ร่วมประชุมหารือ ถึงแนวทางในการร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งแนะแนวทางต่าง ๆให้กับ ร้านค้า และผู้ประกอบการ อาทิ ทำการโปรโมทร้านตัวเอง ผ่านเว็บไซต์ นอกจากนี้ทางสมาคมฯยังต้องการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ความสำคัญกับการโปรโมตด้านการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์บนถนนข้าวสารให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นสถานที่ที่เป็นแม่เหล็กดึงนักท่องเที่ยวได้ส่วนหนึ่ง
ร้านค้าเฮโลรัฐไฟเขียวขายน้ำเมา
นายสุรัตน์ กล่าวว่า กรณีที่ภาครัฐอนุญาติให้ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มองว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ประกอบการถนนข้าวสาร เพราะพบว่ายอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คิดเป็นสัดส่วน 40% เมื่อเทียบกับกลุ่มอาหารและที่พัก อีกทั้งตอบสนองพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวต้องการมาผ่อนคลาย กิน ดื่ม เที่ยว อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามภายในงานเทศกาลถนนข้าวสาร จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เท่านั้น ส่วนหาบเร่ แผงลอย ทางสมาคมฯ ห้ามนำมาจำหน่ายอย่างเด็ดขาด
สำหรับภายในเทศกาลสงกรานต์ถนนข้าวสาร ทางสมาคมฯ เข้มงวดมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างมาก โดยร่วมมือกับ สน. ชนะสงคราม , ตำรวจในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ รวมทั้งตำรวจท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกกับชาวต่างชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่รวม300คน พร้อมทั้งมีการรณรงค์เรื่องการแต่งกายแบบไทยให้รัดกุม ไม่แต่งตัวโป้ ไม่เล่นแป้ง ไม่ใช้ปืนฉีดน้ำที่รุนแรง เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีงามสมกับความเป็นงานประเพณีที่สำคัญของบ้านเรา
นายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า สมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร ได้จัดงาน“มหาสงกรานต์ ถนนข้าวสาร”ขึ้นภายใต้สโลแกน “สนุกสนานอย่างมีวัฒนธรรม” ในระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน นี้ โดยประเมินสถานการณ์ปีนี้ว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ถนนข้าวสารประมาณกว่า 1ล้านคน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 3แสนราย ส่วนนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 6-7แสนราย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย จึงงดการเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดและมาเที่ยวสถานที่ที่จัดงานในกรุงเทพฯ แทน
อย่างไรก็ตามเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าเงินสะพัดในช่วง 4วัน ลดลง จากปีก่อน 400-500ล้านบาท เหลือเป็นไม่เกิน 300ล้านบาท เพราะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศลดค่าใช้จ่ายลง อาทิ นักท่องเที่ยวต่างประเทศจากมีค่าใช้จ่าย 10,000-15,000บาทต่อระยะเวลา 5 วัน เหลือเป็น 8,000-10,000บาท และเพื่อกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวประเทศไทย ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกับสมาชิกจัดโปรโมชันลดราคาที่พัก 10-20% ระยะเวลา 3เดือนในช่วงหน้าร้อนและช่วงเทศกาลสงกรานต์
ขณะนี้พบว่าปริมาณนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมาการเมืองประเทศไทยขาดสเถียรภาพ กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างประเทศหายไป 80% แต่พบว่าในช่วงเดือนมกราคม กระทั่งปัจจุบัน นักท่องเที่ยวเริ่มทางเดินกลับมา อาทิ อิสราเอล, ญี่ปุ่น ,อเมริกา, อิตาลี และ ฝรั่งเศส โดยขณะนี้อัตราการจองห้องพัก 90% หลังจากก่อนหน้านี้ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการถนนข้าวสารประสบกับปัญหารายได้ลดลงอย่างมาก กระทั่งปิดกิจการไป 115ราย แต่ก็มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาดำเนินกิจการต่อ 95%
“การชุมชุนของม็อบเสื้อแดง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และหากไม่มีสถานการณ์รุนแรง มั่นใจว่าการท่องเที่ยวจะกลับคืนสู่ภาวะปกติช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นพอดี แต่สิ่งที่ทางสมาคมฯ กังวล คือ กำลังซื้อของมากกว่า จากปกติเงินสะพัดบนถนนข้าวสารทั้งปีประมาณ 2,000-3,000ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยว 10ล้านคนต่อปี แต่ปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวลดค่าใช้จ่ายถึง 40% หรือประเมินว่ามีเงินสะพัดกว่า 1,000ล้านบาท ก็ถือว่าดีแล้ว”
ทั้งนี้การจัดงานมหาสงกรานต์ ถนนข้าวสาร เป็นหนึ่งในกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและร่วมสร้างความคึกคักทางด้านการท่องเที่ยวให้กลับคืนมาอีกครั้ง โดยทางสมาคมฯได้ร่วมประชุมหารือ ถึงแนวทางในการร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งแนะแนวทางต่าง ๆให้กับ ร้านค้า และผู้ประกอบการ อาทิ ทำการโปรโมทร้านตัวเอง ผ่านเว็บไซต์ นอกจากนี้ทางสมาคมฯยังต้องการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ความสำคัญกับการโปรโมตด้านการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์บนถนนข้าวสารให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นสถานที่ที่เป็นแม่เหล็กดึงนักท่องเที่ยวได้ส่วนหนึ่ง
ร้านค้าเฮโลรัฐไฟเขียวขายน้ำเมา
นายสุรัตน์ กล่าวว่า กรณีที่ภาครัฐอนุญาติให้ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มองว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ประกอบการถนนข้าวสาร เพราะพบว่ายอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คิดเป็นสัดส่วน 40% เมื่อเทียบกับกลุ่มอาหารและที่พัก อีกทั้งตอบสนองพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวต้องการมาผ่อนคลาย กิน ดื่ม เที่ยว อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามภายในงานเทศกาลถนนข้าวสาร จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เท่านั้น ส่วนหาบเร่ แผงลอย ทางสมาคมฯ ห้ามนำมาจำหน่ายอย่างเด็ดขาด
สำหรับภายในเทศกาลสงกรานต์ถนนข้าวสาร ทางสมาคมฯ เข้มงวดมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างมาก โดยร่วมมือกับ สน. ชนะสงคราม , ตำรวจในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ รวมทั้งตำรวจท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกกับชาวต่างชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่รวม300คน พร้อมทั้งมีการรณรงค์เรื่องการแต่งกายแบบไทยให้รัดกุม ไม่แต่งตัวโป้ ไม่เล่นแป้ง ไม่ใช้ปืนฉีดน้ำที่รุนแรง เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีงามสมกับความเป็นงานประเพณีที่สำคัญของบ้านเรา