เหตุกลุ่มคนร้ายกลุ่มหนึ่งใช้อาวุธปืนและระเบิดสงครามรุมถล่มยิง คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อเวลา 5.45 น.บนถนนสามเสน สี่แยกบางขุนพรหม บริเวณหน้าวัดเอี่ยมวรนุช เป็นปฏิบัติการลอบสังหารบุคคลที่อุกอาจสะเทือนขวัญของประชาชนคนไทยมากที่สุดอีกครั้งหนึ่ง
แน่นอน กลุ่มคนร้ายลงมือกระทำการครั้งนี้สะท้อนว่า ไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้นในขณะที่วันนี้เขตกรุงเทพฯยังอยู่ภายใต้การประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์ “กบฏเสื้อแดง” แต่กฎหมายทั้งปวงก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่กลุ่มคนร้ายเหล่านี้ให้ความยำเกรงเลย กล้าลงมือหยามหน้ารัฐบาลถึงใจกลางเมืองหลวง
ย่อมสันนิษฐานเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากว่า คนร้ายกลุ่มนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังที่มีอำนาจรัฐ หรืออำนาจการเมืองอย่างแน่นอน
หลักฐานการลอบสังหารคุณสนธิที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามหลากหลายชนิด ที่พบปลอกกระสุน ก็มีอาวุธปืนเอ็ม 16 เอชเค และอาก้า และที่สร้างความตื่นตระหนกตกใจอย่างมาก ก็เป็นกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ที่ตกหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุ
เป็นระเบิดเอ็ม79 ชนิดที่ใช้ในการสงคราม และได้มีการนำมาใช้ยิงใส่การชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล จนส่งผลให้ชาวพันธมิตรฯ เสียชีวิตไปหลายคน พิษสงของระเบิดชนิดนี้มีอานุภาพทำลายล้างชีวิตได้อย่างฉมัง
ยิงเข้าใส่ตรงไหน ต้องทำลายล้างชีวิตดับดิ้นไปตรงนั้น
ทว่าระเบิดเอ็ม79 ทั้งสองลูกที่พบในเขตสังหารคุณสนธิไม่ทำงาน ระเบิดทั้งสองลูกด้าน ทำให้คุณสนธิ รอดชีวิตออกมาจากสมรภูมิฆ่าเขาได้ราวปาฏิหาริย์
แต่ปาฏิหาริย์ยิ่งกว่า คือกระสุนเพชรฆาตของปืนเอ็ม16 เอชเค และอาก้า ที่สาดเข้ามาเหมือนห่าฝน กลับไม่อาจปลิดชีวิตของคุณสนธิได้
คุณสนธิพร้อมด้วยคนขับรถ และคนติดตามอีกหนึ่งคน นั่งรถยนต์ส่วนตัวเพื่อมาทำหน้าที่สื่อมวลชน ที่สถานี เอเอสทีวี ตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน คุณสนธิจัดรายการ “Good Morning Thailand ” ออกอากาศสดในเวลา 6 โมงเช้า ขณะที่รถคุณสนธิเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายที่อยู่ในรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ก็โผล่ออกมาจากที่ซ่อนแสดงตัวเป็นเพชฌฆาตทันที
รุมกระหน่ำยิงใส่รถคุณสนธิต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 นาที เป็นเวลาที่นานพอสำหรับการลอบกัดฆ่าคนมือเปล่า บวกกับห่ากระสุนที่ถล่มเข้าไปนั้น มันมั่นใจกันว่า เหยื่อไม่รอดชีวิตแน่ จึงบึ่งรถจากไป
แต่หลังเสียงปืนสงบ นาทีนั้นรถยนต์เป้าหมายพรุนไปด้วยรูกระสุนปืนอันเป็นฤทธิ์ทำลายของอาวุธสงคราม นาทีนั้นย่อมไม่มีใครเชื่อว่า จะมีคนรอดชีวิตได้ ท่ามกลางควันปืนที่ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
คุณสนธิเดินออกมา ร่างอาบไปด้วยเลือด
เป็นเรื่องเหลือเชื่อ คุณสนธิได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มีบาดแผลกระสุนปืนเจาะเข้าที่หัว หน้าอก และแขนเท่านั้น ขณะนี้ได้รับการรักษาพยาบาล ซึ่งแพทย์ยืนยันว่าชีวิต คุณสนธิปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ทำให้คนรักและศรัทธาตัวคุณสนธิ โล่งอกไปได้
หากดูจากสภาพเหตุการณ์รุมถล่มปลิดชีวิตคุณสนธิแล้ว คนร้ายลงมือเพื่อหมายเอาชีวิตคุณสนธิ อย่างไม่ต้องสงสัย แต่การรอดชีวิตมาได้นั้น เป็นเรื่องที่ต้องเรียกว่า ปาฏิหาริย์ และต้องยอมรับด้วยว่า อภินิหารนั้นมีจริง
คุณสนธิไม่ใช่ผู้วิเศษที่มีคาถาอาคมในทางไสยศาสตร์ ที่จะทำให้ตนเองมีความคงกระพัน หนังเหนียวยิง แทงไม่เข้า แต่เราเชื่อว่าสิ่งที่ปกปักรักษาชีวิตคุณสนธิรอดพ้นมาจากเงื้อมมือมัจจุราชครั้งนี้ เกิดจาก“บุญบารมี” ที่ตัวคุณสนธิได้ทำ และสะสมไว้ตลอดชีวิต
เป็น“บุญ”ที่คุณสนธิได้ “ทำความดี”แก่แผ่นดิน และเพื่อนพี่น้องชาวไทยทุกคน
ย่อมเป็น“บารมี”ที่คุณสนธิ “ให้”แก่แผ่นดิน และเพื่อนพี่น้องชาวไทยทุกคน โดยการเสียสละไม่หวังผลตอบแทนใด
ใครเป็น “ผู้บงการ”? คือคำถามที่ตามมาหลังเหตุลอบสังหารโหดคุณสนธิครั้งนี้ และเป็นโจทย์ที่ทางการทั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องเร่งหาคำตอบให้แก่สังคมให้ได้
คดีลอบฆ่าคุณสนธิ จะเป็นบทพิสูจน์ความเป็น “ผู้นำ” ของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์อีกครั้ง ว่าจะแสดงความกล้า ที่จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังเข้ามาทำงานคลี่คลายให้ได้ความจริงออกมาโดยเร็ว จนถึงจับตัวคนร้าย และสาวไปถึงไอ้โม่งจอมบงการที่ออกคำสั่งฆ่า
เพราะเราเชื่อว่าคนสั่งฆ่าคุณสนธิ เป็นคนที่มีอำนาจรัฐ และอำนาจการเมือง อย่างแน่นอน
เหตุที่กล้าฟันธงชี้ตรงๆเช่นนี้ ก็เนื่องจากคุณสนธิไม่มีความขัดแย้งในเรื่องอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ หรือเรื่องส่วนตัวอื่นๆ จะเหลือความขัดแย้งก็เพียงแต่ในเรื่อง“การเมือง” เท่านั้น จากการทำหน้าที่และบทบาทของคุณสนธิในฐานะสื่อมวลชน และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
การทำหน้าที่ทั้งฐานะสื่อมวลชน และแกนนำพันธมิตรฯ เป็นไปอย่างเข้มข้น ไม่ยอมปิดปากหรือหลับตาให้กับสิ่งชั่วร้าย บนพื้นฐานเพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์แก่ประเทศและสถาบันฯ แน่นอนย่อมมีคนเสียผลประโยชน์จากการเปิดโปงความชั่ว จนคิดที่จะลงมือกำจัดให้คุณสนธิพ้นไปจากโลกนี้เสีย
หลังจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯยุติลงเมื่อต้นเดือนธันวาคม ซึ่งผลพวงจากการนำประชาชนพี่น้องพันธมิตรฯ ออกมาต่อสู้เรียกร้องให้ “รัฐบาลนอมินีทักษิณ” ลาออก จนสำเร็จโดยรัฐบาลสมัคร สนุทรเวช และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องมีอันพ้นจากอำนาจรัฐไป
คุณสนธิได้กลับเข้ามาทำงานตามปกติที่หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ และเป็นผู้จัดรายการให้สถานีโทรทัศน์ ASTV หลายรายการ
และคลอดรายการใหม่“Good Morning Thailand ” คุณสนธิ เป็นผู้จัดรายการเอง ออกอากาศสดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 6-7 โมงเช้า ซึ่งขณะที่เกิดเหตุก็กำลังเดินทางมาจัดรายการนี้
ในรายการ“Good Morning Thailand ” คุณสนธิ ดำเนินรายการโดยยึดมั่นในอุดมการณ์ของตน ที่เคยประกาศแก่สังคมว่า “สื่อต้องเป็นเทียนส่องนำให้แก่สังคม ไม่ใช่เป็นเพียงแค่กระจก” เนื้อหาในรายการจึงเป็นการวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นในปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา และบ่อยครั้งที่มีการเปิดโปง “คนมีอำนาจ” ในรัฐบาล และข้าราชการบางหน่วยงาน ที่ละเลยและย่อหย่อนต่อหน้าอย่างมีวาระซ่อนเร้น
ชกหมัดตรงเข้าใส่ นักการเมือง ทหาร และตำรวจ อย่างไม่ไว้หน้าตามสไตล์ สนธิ ลิ้มทองกุล
คุณสนธิไม่ใช่ไม่รู้ว่าเรื่องที่ตนนำมาเปิดโปงออกไป หรือแสดงความคิดเห็นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ทำให้กลุ่มคนมีอำนาจบางกลุ่มเสียประโยชน์ แต่ความกล้าและเสียสละที่ยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศ สถาบันฯ และประชาชนเป็นหลัก
ทำให้คุณสนธิไม่กลัวต่อภัยใดๆที่จะมาถึง
ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวในทางลับว่า มีคนจะลอบฆ่า แม้คุณสนธิจะได้รู้ และเชื่อข่าวทำนองนี้ แต่ก็ยังคงทำหน้าที่สื่อมวลชนที่มีอุดมการณ์เพื่อชาติและสถาบันฯต่อไป แม้แต่วันถูกลอบสังหาร คุณสนธิ ก้าวลงรถมามือยังถือกระดาษสคริปต์ที่จะนำมาออกรายการ
การลอบสังหารคุณสนธิ เป็นการคุกคามสื่อโดยอำนาจมืด ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม เบาะแสสาเหตุการลอบสังหารคุณสนธิ เมื่อตัดประเด็นอื่นทิ้งไป เหลือแต่ประเด็นการเมือง ขณะเดียวกันย่อมเหลือ “กลุ่มคนที่น่าสงสัย” เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
คนที่แค้นฝังใจกับคุณสนธิ เพราะถูกเปิดโปงความชั่วร้ายออกมา ตั้งแต่เวทีพันธมิตรฯ จนถึงรายการทีวีในวันนี้ ก็มีอยู่แค่ไม่กี่คนเช่นกัน
ไม่ยากที่จะสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่า ใครเป็นคนสั่งฆ่า!
เรื่องประเด็นเหตุขัดแย้งดูจะชัดเจน แต่ยิ่งพิจารณาการลงมือปฏิบัติงานของกลุ่มคนร้ายมือปืนลั่นไกแล้ว ก็ยิ่งง่ายต่อการที่จะฟันธงใครเป็นผู้สั่งการเบื้องหลัง
ทั้งนี้ ทีมงานสืบสวนคดีเห็นฝีมือการใช้อาวุธสงครามของกลุ่มมือปืน เชื่อมั่นว่าฝีมือทีมลอบสังหารคุณสนธิเป็น “คนมีสี” อย่างแน่นอน เพราะกลุ่มกระสุนเกาะกลุ่มไม่แตกกระจาย ทำให้ทิ้งร่องรอยว่า คนยิงมือไม่ธรรมดา ทีมงานสืบสวนยังบอกด้วยว่า คนสีกากีนั้นตัดออกไปได้แน่ เพราะถึงจะมีกลุ่มมือยิงปืนอาวุธสงครามชั้นดีอยู่บ้าง แต่ยังไม่อาจเทียบชั้นได้ระดับนี้
เมื่อประเด็นความขัดแย้งบอกชัด แคบอยู่กับคนไม่กี่คน และเมื่อวิเคราะห์การใช้กลุ่มมือปืนกลุ่มนี้ ตามข้อสังเกตุของทีมงานสืบสวนตำรวจ ก็พอจะเห็นเค้าลางแล้ว ใครที่มีลูกน้องในแถวเป็นมือพระกาฬระดับนี้บ้าง จึงเป็นการง่าย ที่จะสืบหาตัวคนบงการเบื้องหลังมาสำเร็จโทษได้
แต่ที่ยาก ก็เพราะว่า ใครจะกล้าทำคดีนี้
เราจึงหวังว่า คุณสนธิ รอดตายมาแล้วเพราะ “บุญบารมี” ที่ได้ทำความดี และทำงานให้แก่ประเทศและสถาบันฯ จะได้บังเกิด “บุญบารมี” ขึ้นอีกสักครั้ง เพื่อเอาคนชั่ว พวกหมาลอบกัด มาชดใช้กรรม
แน่นอน กลุ่มคนร้ายลงมือกระทำการครั้งนี้สะท้อนว่า ไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้นในขณะที่วันนี้เขตกรุงเทพฯยังอยู่ภายใต้การประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์ “กบฏเสื้อแดง” แต่กฎหมายทั้งปวงก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่กลุ่มคนร้ายเหล่านี้ให้ความยำเกรงเลย กล้าลงมือหยามหน้ารัฐบาลถึงใจกลางเมืองหลวง
ย่อมสันนิษฐานเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากว่า คนร้ายกลุ่มนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังที่มีอำนาจรัฐ หรืออำนาจการเมืองอย่างแน่นอน
หลักฐานการลอบสังหารคุณสนธิที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามหลากหลายชนิด ที่พบปลอกกระสุน ก็มีอาวุธปืนเอ็ม 16 เอชเค และอาก้า และที่สร้างความตื่นตระหนกตกใจอย่างมาก ก็เป็นกระสุนระเบิดเอ็ม 79 ที่ตกหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุ
เป็นระเบิดเอ็ม79 ชนิดที่ใช้ในการสงคราม และได้มีการนำมาใช้ยิงใส่การชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล จนส่งผลให้ชาวพันธมิตรฯ เสียชีวิตไปหลายคน พิษสงของระเบิดชนิดนี้มีอานุภาพทำลายล้างชีวิตได้อย่างฉมัง
ยิงเข้าใส่ตรงไหน ต้องทำลายล้างชีวิตดับดิ้นไปตรงนั้น
ทว่าระเบิดเอ็ม79 ทั้งสองลูกที่พบในเขตสังหารคุณสนธิไม่ทำงาน ระเบิดทั้งสองลูกด้าน ทำให้คุณสนธิ รอดชีวิตออกมาจากสมรภูมิฆ่าเขาได้ราวปาฏิหาริย์
แต่ปาฏิหาริย์ยิ่งกว่า คือกระสุนเพชรฆาตของปืนเอ็ม16 เอชเค และอาก้า ที่สาดเข้ามาเหมือนห่าฝน กลับไม่อาจปลิดชีวิตของคุณสนธิได้
คุณสนธิพร้อมด้วยคนขับรถ และคนติดตามอีกหนึ่งคน นั่งรถยนต์ส่วนตัวเพื่อมาทำหน้าที่สื่อมวลชน ที่สถานี เอเอสทีวี ตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน คุณสนธิจัดรายการ “Good Morning Thailand ” ออกอากาศสดในเวลา 6 โมงเช้า ขณะที่รถคุณสนธิเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายที่อยู่ในรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ก็โผล่ออกมาจากที่ซ่อนแสดงตัวเป็นเพชฌฆาตทันที
รุมกระหน่ำยิงใส่รถคุณสนธิต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 นาที เป็นเวลาที่นานพอสำหรับการลอบกัดฆ่าคนมือเปล่า บวกกับห่ากระสุนที่ถล่มเข้าไปนั้น มันมั่นใจกันว่า เหยื่อไม่รอดชีวิตแน่ จึงบึ่งรถจากไป
แต่หลังเสียงปืนสงบ นาทีนั้นรถยนต์เป้าหมายพรุนไปด้วยรูกระสุนปืนอันเป็นฤทธิ์ทำลายของอาวุธสงคราม นาทีนั้นย่อมไม่มีใครเชื่อว่า จะมีคนรอดชีวิตได้ ท่ามกลางควันปืนที่ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
คุณสนธิเดินออกมา ร่างอาบไปด้วยเลือด
เป็นเรื่องเหลือเชื่อ คุณสนธิได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มีบาดแผลกระสุนปืนเจาะเข้าที่หัว หน้าอก และแขนเท่านั้น ขณะนี้ได้รับการรักษาพยาบาล ซึ่งแพทย์ยืนยันว่าชีวิต คุณสนธิปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ทำให้คนรักและศรัทธาตัวคุณสนธิ โล่งอกไปได้
หากดูจากสภาพเหตุการณ์รุมถล่มปลิดชีวิตคุณสนธิแล้ว คนร้ายลงมือเพื่อหมายเอาชีวิตคุณสนธิ อย่างไม่ต้องสงสัย แต่การรอดชีวิตมาได้นั้น เป็นเรื่องที่ต้องเรียกว่า ปาฏิหาริย์ และต้องยอมรับด้วยว่า อภินิหารนั้นมีจริง
คุณสนธิไม่ใช่ผู้วิเศษที่มีคาถาอาคมในทางไสยศาสตร์ ที่จะทำให้ตนเองมีความคงกระพัน หนังเหนียวยิง แทงไม่เข้า แต่เราเชื่อว่าสิ่งที่ปกปักรักษาชีวิตคุณสนธิรอดพ้นมาจากเงื้อมมือมัจจุราชครั้งนี้ เกิดจาก“บุญบารมี” ที่ตัวคุณสนธิได้ทำ และสะสมไว้ตลอดชีวิต
เป็น“บุญ”ที่คุณสนธิได้ “ทำความดี”แก่แผ่นดิน และเพื่อนพี่น้องชาวไทยทุกคน
ย่อมเป็น“บารมี”ที่คุณสนธิ “ให้”แก่แผ่นดิน และเพื่อนพี่น้องชาวไทยทุกคน โดยการเสียสละไม่หวังผลตอบแทนใด
ใครเป็น “ผู้บงการ”? คือคำถามที่ตามมาหลังเหตุลอบสังหารโหดคุณสนธิครั้งนี้ และเป็นโจทย์ที่ทางการทั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องเร่งหาคำตอบให้แก่สังคมให้ได้
คดีลอบฆ่าคุณสนธิ จะเป็นบทพิสูจน์ความเป็น “ผู้นำ” ของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์อีกครั้ง ว่าจะแสดงความกล้า ที่จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังเข้ามาทำงานคลี่คลายให้ได้ความจริงออกมาโดยเร็ว จนถึงจับตัวคนร้าย และสาวไปถึงไอ้โม่งจอมบงการที่ออกคำสั่งฆ่า
เพราะเราเชื่อว่าคนสั่งฆ่าคุณสนธิ เป็นคนที่มีอำนาจรัฐ และอำนาจการเมือง อย่างแน่นอน
เหตุที่กล้าฟันธงชี้ตรงๆเช่นนี้ ก็เนื่องจากคุณสนธิไม่มีความขัดแย้งในเรื่องอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ หรือเรื่องส่วนตัวอื่นๆ จะเหลือความขัดแย้งก็เพียงแต่ในเรื่อง“การเมือง” เท่านั้น จากการทำหน้าที่และบทบาทของคุณสนธิในฐานะสื่อมวลชน และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
การทำหน้าที่ทั้งฐานะสื่อมวลชน และแกนนำพันธมิตรฯ เป็นไปอย่างเข้มข้น ไม่ยอมปิดปากหรือหลับตาให้กับสิ่งชั่วร้าย บนพื้นฐานเพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์แก่ประเทศและสถาบันฯ แน่นอนย่อมมีคนเสียผลประโยชน์จากการเปิดโปงความชั่ว จนคิดที่จะลงมือกำจัดให้คุณสนธิพ้นไปจากโลกนี้เสีย
หลังจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯยุติลงเมื่อต้นเดือนธันวาคม ซึ่งผลพวงจากการนำประชาชนพี่น้องพันธมิตรฯ ออกมาต่อสู้เรียกร้องให้ “รัฐบาลนอมินีทักษิณ” ลาออก จนสำเร็จโดยรัฐบาลสมัคร สนุทรเวช และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องมีอันพ้นจากอำนาจรัฐไป
คุณสนธิได้กลับเข้ามาทำงานตามปกติที่หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ และเป็นผู้จัดรายการให้สถานีโทรทัศน์ ASTV หลายรายการ
และคลอดรายการใหม่“Good Morning Thailand ” คุณสนธิ เป็นผู้จัดรายการเอง ออกอากาศสดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 6-7 โมงเช้า ซึ่งขณะที่เกิดเหตุก็กำลังเดินทางมาจัดรายการนี้
ในรายการ“Good Morning Thailand ” คุณสนธิ ดำเนินรายการโดยยึดมั่นในอุดมการณ์ของตน ที่เคยประกาศแก่สังคมว่า “สื่อต้องเป็นเทียนส่องนำให้แก่สังคม ไม่ใช่เป็นเพียงแค่กระจก” เนื้อหาในรายการจึงเป็นการวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นในปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา และบ่อยครั้งที่มีการเปิดโปง “คนมีอำนาจ” ในรัฐบาล และข้าราชการบางหน่วยงาน ที่ละเลยและย่อหย่อนต่อหน้าอย่างมีวาระซ่อนเร้น
ชกหมัดตรงเข้าใส่ นักการเมือง ทหาร และตำรวจ อย่างไม่ไว้หน้าตามสไตล์ สนธิ ลิ้มทองกุล
คุณสนธิไม่ใช่ไม่รู้ว่าเรื่องที่ตนนำมาเปิดโปงออกไป หรือแสดงความคิดเห็นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ทำให้กลุ่มคนมีอำนาจบางกลุ่มเสียประโยชน์ แต่ความกล้าและเสียสละที่ยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศ สถาบันฯ และประชาชนเป็นหลัก
ทำให้คุณสนธิไม่กลัวต่อภัยใดๆที่จะมาถึง
ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวในทางลับว่า มีคนจะลอบฆ่า แม้คุณสนธิจะได้รู้ และเชื่อข่าวทำนองนี้ แต่ก็ยังคงทำหน้าที่สื่อมวลชนที่มีอุดมการณ์เพื่อชาติและสถาบันฯต่อไป แม้แต่วันถูกลอบสังหาร คุณสนธิ ก้าวลงรถมามือยังถือกระดาษสคริปต์ที่จะนำมาออกรายการ
การลอบสังหารคุณสนธิ เป็นการคุกคามสื่อโดยอำนาจมืด ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม เบาะแสสาเหตุการลอบสังหารคุณสนธิ เมื่อตัดประเด็นอื่นทิ้งไป เหลือแต่ประเด็นการเมือง ขณะเดียวกันย่อมเหลือ “กลุ่มคนที่น่าสงสัย” เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
คนที่แค้นฝังใจกับคุณสนธิ เพราะถูกเปิดโปงความชั่วร้ายออกมา ตั้งแต่เวทีพันธมิตรฯ จนถึงรายการทีวีในวันนี้ ก็มีอยู่แค่ไม่กี่คนเช่นกัน
ไม่ยากที่จะสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่า ใครเป็นคนสั่งฆ่า!
เรื่องประเด็นเหตุขัดแย้งดูจะชัดเจน แต่ยิ่งพิจารณาการลงมือปฏิบัติงานของกลุ่มคนร้ายมือปืนลั่นไกแล้ว ก็ยิ่งง่ายต่อการที่จะฟันธงใครเป็นผู้สั่งการเบื้องหลัง
ทั้งนี้ ทีมงานสืบสวนคดีเห็นฝีมือการใช้อาวุธสงครามของกลุ่มมือปืน เชื่อมั่นว่าฝีมือทีมลอบสังหารคุณสนธิเป็น “คนมีสี” อย่างแน่นอน เพราะกลุ่มกระสุนเกาะกลุ่มไม่แตกกระจาย ทำให้ทิ้งร่องรอยว่า คนยิงมือไม่ธรรมดา ทีมงานสืบสวนยังบอกด้วยว่า คนสีกากีนั้นตัดออกไปได้แน่ เพราะถึงจะมีกลุ่มมือยิงปืนอาวุธสงครามชั้นดีอยู่บ้าง แต่ยังไม่อาจเทียบชั้นได้ระดับนี้
เมื่อประเด็นความขัดแย้งบอกชัด แคบอยู่กับคนไม่กี่คน และเมื่อวิเคราะห์การใช้กลุ่มมือปืนกลุ่มนี้ ตามข้อสังเกตุของทีมงานสืบสวนตำรวจ ก็พอจะเห็นเค้าลางแล้ว ใครที่มีลูกน้องในแถวเป็นมือพระกาฬระดับนี้บ้าง จึงเป็นการง่าย ที่จะสืบหาตัวคนบงการเบื้องหลังมาสำเร็จโทษได้
แต่ที่ยาก ก็เพราะว่า ใครจะกล้าทำคดีนี้
เราจึงหวังว่า คุณสนธิ รอดตายมาแล้วเพราะ “บุญบารมี” ที่ได้ทำความดี และทำงานให้แก่ประเทศและสถาบันฯ จะได้บังเกิด “บุญบารมี” ขึ้นอีกสักครั้ง เพื่อเอาคนชั่ว พวกหมาลอบกัด มาชดใช้กรรม