"นช.แม้ว"ยังดันทุรังให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศต่อไป แล้วก็ต้องแก้ตัวพัลวัน เมื่อถูกทั้งสื่ออาหรับ "อัลญะซีเราะห์" และสื่อเมืองอังกฤษ "เดลี่เทเลกราฟ" ตั้งคำถามเรื่องการเป็นหัวหน้าม็อบเสื้อแดงที่ก่อการจลาจล พร้อมกับแสดงความกังขาเมื่อ "ทักษิณ" ยังพยายามแพร่ข่าวที่ยังหาหลักฐานมายืนยันไม่ได้ว่าทหารสังหารคนเสื้อแดงไปมากมาย ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ก็ออกบทวิเคราะห์ชี้ว่า การลุกฮือของพวกเสื้อแดงครั้งนี้ น่าจะเป็นความพยายามแบบจนตรอกครั้งสุดท้ายของเขา ในการหวนกลับคืนสู่อำนาจการเมืองในประเทศไทย
ในบทสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อัลญะซีเราะห์ สถานีโทรทัศน์ด้านข่าวชื่อดังของอาหรับ นำออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของตนเมื่อวันอังคาร(14) ผู้ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถามว่า "คุณเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาแบบสันติวิธี ในสิ่งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ แต่กระนั้น มันไม่ใช่กลุ่มผู้สนับสนุนคุณหรอกหรือ ที่ออกไปตามท้องถนน ยึดและจุดไฟเผารถ ขับรถใส่ทหารตำรวจ จุดไฟเผายาง นอกจากนั้นคุณยังเคยพูดว่าต้องการล้มรัฐบาล บางทีการพูดเช่นนั้น มันก็เหมือนเป็นการยุยงพวกเขา
ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "ตัวนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์) ได้เคยพูดต่อรัฐสภาเมื่อตอนที่เขาเป็นฝ่ายค้านว่า ถ้ามีการประท้วง ไม่ว่าจะมีผู้ประท้วงเพียงคนเดียวหรือนับแสนคน เขาก็จะรับฟัง ดังนั้น เราก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน เราหวังว่าเขาจะจดจำในสิ่งที่เขาพูดต่อสภาได้"
อัลญะซีเราะห์จึงได้ซักไซ้ต่อว่า "คุณพยายามยุงยง แม้กระทั่งต่อทหาร คุณเคยพูดว่า "ทหารจงออกมา และร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อช่วยให้เราได้ประชาธิปไตยของประชาชน" จริงๆ แล้วคุณต้องการยั่วยุทหารให้ทำรัฐประหารรัฐบาลชุดนี้ใช่หรือไม่
พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "ไม่ ไม่ ผมไม่เคยขอให้ทหารทำรัฐประหาร ผมบอกว่าถ้าพวกเขาทำรัฐประหาร ประชาชนก็จะออกมาต่อต้าน มันไม่ควรจะมีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก"
สื่ออาหรับได้รุกต่อไปว่า "คุณไม่เห็นเป็นความผิดกับสิ่งที่เราได้เห็นจากการกระทำของผู้สนับสนุนคุณหรือ ทั้งการกระทำที่เกิดบริเวณกระทรวงศึกษาธิการ หรือแม้แต่การกระทำที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ขอนายกรัฐมนตรี
พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า "สื่อมวลชนไทยไม่สามารถรายงานเรื่องราวที่แท้จริงที่เกิดขึ้น และโฆษกของกองทัพก็ออกมาโกหกประชาชน ทหารออกมาพร้อมปืนเอ็ม16 พวกเขายิงที่กลางหัวใจของประชาชน และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ทหารเอาศพไปซ่อน"
อัลญะซีเราะห์ "นั่นมันเป็นแค่ข้อกล่าวหาของคุณ...ที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มผู้สนับสนุนของคุณซึ่งมันยังไม่สามารถยืนยันได้ในตอนนี้"
พ.ต.ท.ทักษิณ "ผมอยากเชิญหน่วยงานอิสระนานาชาติเข้าไปยังประเทศไทย เพื่อตรวจสอบเรื่องจริงทั้งหมด อย่าไปเชื่อแหล่งข่าวของรัฐบาล แล้วคุณจะได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น"
ทางด้านรายงานการสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ของหนังสือพิมพ์เดลี่เทเลกราฟของอังกฤษ ซึ่งนำออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในวันอังคาร(14)เช่นกัน ได้ระบุว่า มิสเตอร์ทักษิณบอกว่า เขาไม่ได้ออกคำสั่งให้กลุ่มคนเสื้อแดงยอมจำนน แต่เขาได้เคยเตือนพวกผู้นำเสื้อแดงว่าจะต้องระมัดระวัง และต้อง "ห่วงใยชีวิต" ภายหลังทหารเข้าขับไล่พวกเสื้อแดงที่ก่อการจลาจลตามท้องถนน
เทเลกราฟรายงานต่อไปว่า มิสเตอร์ทักษิณยังปฏิเสธว่า การสิ้นสุดของการชุมนุมประท้วงคราวนี้ เป็นความพ่ายแพ้ส่วนตัวของเขา โดยเขายังยืนยันว่า เขาให้ "ความสนับสนุนทางศีลธรรม" แก่ผู้ชุมนุม ไม่ได้เป็นผู้ชี้นำกิจกรรมของคนเหล่านั้น
พ.ต.ท.ทักษิณยังคุยว่า "ถ้าผมเป็นคนต่อสู้จริงๆ มันจะไม่เป็นแบบนี้หรอก ผมจะต้องมียุทธศาสตร์มากกว่านี้" แล้วก็บอกต่อไปว่า ในขณะนี้ "ผมยังไม่มียุทธศาสตร์ใดๆ"
ถึงตรงนี้รายงานของเทเลกราฟกล่าวต่อไปว่า "คำกล่าวอ้างนี้ช่างขัดแย้งกับพฤติกรรมของเขาในช่วง 3 สัปดาห์หลังนี้ เมื่อเขากล่าวปราศรัยสดอันเสมือนเป็นระเบิดร้อนแรงผ่านทางวิดีโออย่างต่อเนื่องต่อฝูงชนในกรุงเทพฯ ซึ่งได้สั่งสมจวบจนกระทั่งถึงการเรียกร้องให้ทำ "การปฏิวัติ" ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา"
เทเลกราฟรายงานต่อไปว่า พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า มีตำรวจบอกกับพวกผู้สนับสนุนของเขาว่ามีคนอย่างน้อย 5 คนถูกยิงเสียชีวิต และทหารได้นำศพของพวกเขาไป ทั้งนี้เทเลกราฟให้ภูมิหลังตรงนี้ว่า ทางรัฐบาลยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพียง 2 คน และก็เป็นการเสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างพลเรือนที่เป็นปรปักษ์กัน
หนังสือพิมพ์อังกฤษฉบับนี้รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า "มันเป็นเรื่องเหี้ยมโหดมาก" และเวลานี้เขารู้สึก "โล่งใจ" ที่การประท้วงยุติลง "ผมรู้สึกโล่งใจที่จะไม่มีใครตายหรือเจ็บอีกต่อไปแล้ว" เขาบอก เราเศร้ามากกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น"
เทเลกราฟบอกว่า มิสเตอร์ทักษิณยังได้เรียกร้องให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแทรกแซง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ารัฐบาลจะดำเนินควาพยายามเพื่อให้เกิดความปรองดดอง พร้อมกันนั้นเขาก็พูดว่า การใช้แต่กำลังอย่างเดียว มีแต่จะทำให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น
ในการให้สัมภาษณ์อัลญะซีเราะห์ พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับกลุ่มเสื้อแดง
อัลญะซีเราะห์ "คุณเคยบอกว่าถ้ามีการใช้กำลังกับผู้สนับสนุนของคุณ คุณจะเดินทางกลับประเทศไทย แล้วเมื่อไหร่คุณจะกลับไป"
พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "ใช่ ผมกำลังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ และผมก็ได้พูดอย่างนั้นกับผู้สนับสนุนผม แต่ตอนนี้พวกเขากังวลต่อความปลอดภัยของผม ผมกำลังขบคิดเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่ได้วางแผนอะไร ผมต้องแน่ใจก่อนว่า เมื่อผมกลับไปแล้วจะไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และการกลับไปของผมต้องสามารถทำให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างสันติ"
ก่อนหน้านี้ นักโทษที่หลบหนีโทษจำคุกจากประเทศผู้นี้ ก็ได้ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นและบีบีซีเมื่อคืนวันจันทร์(13) หลังจากรัฐบาลส่งทหารออกไปสลายการก่อจลาจลของพวกกลุ่มผู้สนับสนุนเขา โดยที่ถูกผู้ดำเนินรายการตั้งคำถามรุกไล่จนตอบผิดตอบถูก แถมทั้งสองสถานีโทรทัศน์ข่าวระดับโลกยังตามไปสัมภาษณ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้พูดตอบโต้และแก้ต่าง จนเป็นที่ฮือฮาในบรรดาเว็บข่าวทั้งหลาย
ความพยายามครั้งสุดท้าย
ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ได้เสนอบทวิเคราะห์ เขียนโดย บิลล์ ทาร์แรนต์ ใช้ชื่อว่า "เสียงไชโยสุดท้ายของทักษิณหลังการลุกฮือของคนเสื้อแดง?" โดยระบุว่า การลุกฮือที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ อาจจะเป็นความพยายามแบบจนตรอกครั้งสุดท้ายของเขา ที่ต้องการกลับคืนสู่อำนาจทางการเมืองในไทยอีก ในเมื่อหลังจากการโฟลอินและใช้วิดีโอลิงก์เข้ามาชักชวนกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ท้ายที่สุด การชุมนุมนานถึง 3 สัปดาห์ก็ต้องยุติลง พร้อมกับคำถามตามมาว่า เขาพ่ายแพ้แล้วใช่หรือไม่
"หากทั้งหมดนี้เป็นเกมเดิมพันของทักษิณแล้ว ก็เป็นการเล่นที่มีโอกาสชนะน้อยมาก" บทวิเคราะห์นี้ระบุ
บทวิเคราะห์ของรอยเตอร์ยังอ้างรายงานของ "สแตรตฟอร์" สำนักที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมือง ที่ระบุว่า "ถึงแม้จะเกิดการจลาจลซึ่งทักษิณสามารถที่จะอำนวยการประสานให้เกิดขึ้น แต่เขาก็กำลังปฏิบัติการจากจุดยืนแห่งความอ่อนแอโดยพื้นฐาน"
"นอกเหนือจากทรัพย์สินของเขาจะถูกยึด, ศาลไทยก็กำลังตัดสินลงโทษเขาแล้ว เขายังกำลังเสี่ยงที่จะต้องถูกจำคุก และรัฐบาลที่เขากำลังหาทางสั่นคลอนเสถียรภาพนั้น กลับยังคงรักษาการสนับสนุนทั้งจากกองทัพ, สถาบัน, และข้าราชการ" สแตรตฟอร์ระบุ
บทวิเคราะห์ของรอยเตอร์กล่าวด้วยว่า ไพ่ทีเด็ดของ พ.ต.ท.ทักษิณเท่าที่ผ่านมาคือความสามารถที่จะชนะการเลือกตั้ง แต่อย่างน้อยในการสำรวจครั้งล่าสุดครั้งหนึ่ง ก็ชี้ว่าความนิยมของเขากำลังหดหายลงไป นั่นคือ ผลสำรวจของเอแบคโพล ที่ระบุว่า 55% ของผู้ตอบคำถามจาก 18 จังหวัดทั่วประเทศ ต้องการให้พวกเสื้อแดงยุติการประท้วง และปล่อยให้นายอภิสิทธิ์บริหารประเทศต่อไป มีเพียง 11% ที่ต้องการให้นายอภิสิทธิ์ลาออก
ในบทสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่อัลญะซีเราะห์ สถานีโทรทัศน์ด้านข่าวชื่อดังของอาหรับ นำออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของตนเมื่อวันอังคาร(14) ผู้ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถามว่า "คุณเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาแบบสันติวิธี ในสิ่งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ แต่กระนั้น มันไม่ใช่กลุ่มผู้สนับสนุนคุณหรอกหรือ ที่ออกไปตามท้องถนน ยึดและจุดไฟเผารถ ขับรถใส่ทหารตำรวจ จุดไฟเผายาง นอกจากนั้นคุณยังเคยพูดว่าต้องการล้มรัฐบาล บางทีการพูดเช่นนั้น มันก็เหมือนเป็นการยุยงพวกเขา
ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "ตัวนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์) ได้เคยพูดต่อรัฐสภาเมื่อตอนที่เขาเป็นฝ่ายค้านว่า ถ้ามีการประท้วง ไม่ว่าจะมีผู้ประท้วงเพียงคนเดียวหรือนับแสนคน เขาก็จะรับฟัง ดังนั้น เราก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน เราหวังว่าเขาจะจดจำในสิ่งที่เขาพูดต่อสภาได้"
อัลญะซีเราะห์จึงได้ซักไซ้ต่อว่า "คุณพยายามยุงยง แม้กระทั่งต่อทหาร คุณเคยพูดว่า "ทหารจงออกมา และร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อช่วยให้เราได้ประชาธิปไตยของประชาชน" จริงๆ แล้วคุณต้องการยั่วยุทหารให้ทำรัฐประหารรัฐบาลชุดนี้ใช่หรือไม่
พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "ไม่ ไม่ ผมไม่เคยขอให้ทหารทำรัฐประหาร ผมบอกว่าถ้าพวกเขาทำรัฐประหาร ประชาชนก็จะออกมาต่อต้าน มันไม่ควรจะมีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก"
สื่ออาหรับได้รุกต่อไปว่า "คุณไม่เห็นเป็นความผิดกับสิ่งที่เราได้เห็นจากการกระทำของผู้สนับสนุนคุณหรือ ทั้งการกระทำที่เกิดบริเวณกระทรวงศึกษาธิการ หรือแม้แต่การกระทำที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ขอนายกรัฐมนตรี
พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า "สื่อมวลชนไทยไม่สามารถรายงานเรื่องราวที่แท้จริงที่เกิดขึ้น และโฆษกของกองทัพก็ออกมาโกหกประชาชน ทหารออกมาพร้อมปืนเอ็ม16 พวกเขายิงที่กลางหัวใจของประชาชน และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ทหารเอาศพไปซ่อน"
อัลญะซีเราะห์ "นั่นมันเป็นแค่ข้อกล่าวหาของคุณ...ที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มผู้สนับสนุนของคุณซึ่งมันยังไม่สามารถยืนยันได้ในตอนนี้"
พ.ต.ท.ทักษิณ "ผมอยากเชิญหน่วยงานอิสระนานาชาติเข้าไปยังประเทศไทย เพื่อตรวจสอบเรื่องจริงทั้งหมด อย่าไปเชื่อแหล่งข่าวของรัฐบาล แล้วคุณจะได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น"
ทางด้านรายงานการสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ของหนังสือพิมพ์เดลี่เทเลกราฟของอังกฤษ ซึ่งนำออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในวันอังคาร(14)เช่นกัน ได้ระบุว่า มิสเตอร์ทักษิณบอกว่า เขาไม่ได้ออกคำสั่งให้กลุ่มคนเสื้อแดงยอมจำนน แต่เขาได้เคยเตือนพวกผู้นำเสื้อแดงว่าจะต้องระมัดระวัง และต้อง "ห่วงใยชีวิต" ภายหลังทหารเข้าขับไล่พวกเสื้อแดงที่ก่อการจลาจลตามท้องถนน
เทเลกราฟรายงานต่อไปว่า มิสเตอร์ทักษิณยังปฏิเสธว่า การสิ้นสุดของการชุมนุมประท้วงคราวนี้ เป็นความพ่ายแพ้ส่วนตัวของเขา โดยเขายังยืนยันว่า เขาให้ "ความสนับสนุนทางศีลธรรม" แก่ผู้ชุมนุม ไม่ได้เป็นผู้ชี้นำกิจกรรมของคนเหล่านั้น
พ.ต.ท.ทักษิณยังคุยว่า "ถ้าผมเป็นคนต่อสู้จริงๆ มันจะไม่เป็นแบบนี้หรอก ผมจะต้องมียุทธศาสตร์มากกว่านี้" แล้วก็บอกต่อไปว่า ในขณะนี้ "ผมยังไม่มียุทธศาสตร์ใดๆ"
ถึงตรงนี้รายงานของเทเลกราฟกล่าวต่อไปว่า "คำกล่าวอ้างนี้ช่างขัดแย้งกับพฤติกรรมของเขาในช่วง 3 สัปดาห์หลังนี้ เมื่อเขากล่าวปราศรัยสดอันเสมือนเป็นระเบิดร้อนแรงผ่านทางวิดีโออย่างต่อเนื่องต่อฝูงชนในกรุงเทพฯ ซึ่งได้สั่งสมจวบจนกระทั่งถึงการเรียกร้องให้ทำ "การปฏิวัติ" ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา"
เทเลกราฟรายงานต่อไปว่า พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า มีตำรวจบอกกับพวกผู้สนับสนุนของเขาว่ามีคนอย่างน้อย 5 คนถูกยิงเสียชีวิต และทหารได้นำศพของพวกเขาไป ทั้งนี้เทเลกราฟให้ภูมิหลังตรงนี้ว่า ทางรัฐบาลยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพียง 2 คน และก็เป็นการเสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างพลเรือนที่เป็นปรปักษ์กัน
หนังสือพิมพ์อังกฤษฉบับนี้รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า "มันเป็นเรื่องเหี้ยมโหดมาก" และเวลานี้เขารู้สึก "โล่งใจ" ที่การประท้วงยุติลง "ผมรู้สึกโล่งใจที่จะไม่มีใครตายหรือเจ็บอีกต่อไปแล้ว" เขาบอก เราเศร้ามากกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น"
เทเลกราฟบอกว่า มิสเตอร์ทักษิณยังได้เรียกร้องให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแทรกแซง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ารัฐบาลจะดำเนินควาพยายามเพื่อให้เกิดความปรองดดอง พร้อมกันนั้นเขาก็พูดว่า การใช้แต่กำลังอย่างเดียว มีแต่จะทำให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น
ในการให้สัมภาษณ์อัลญะซีเราะห์ พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับกลุ่มเสื้อแดง
อัลญะซีเราะห์ "คุณเคยบอกว่าถ้ามีการใช้กำลังกับผู้สนับสนุนของคุณ คุณจะเดินทางกลับประเทศไทย แล้วเมื่อไหร่คุณจะกลับไป"
พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "ใช่ ผมกำลังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ และผมก็ได้พูดอย่างนั้นกับผู้สนับสนุนผม แต่ตอนนี้พวกเขากังวลต่อความปลอดภัยของผม ผมกำลังขบคิดเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่ได้วางแผนอะไร ผมต้องแน่ใจก่อนว่า เมื่อผมกลับไปแล้วจะไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และการกลับไปของผมต้องสามารถทำให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างสันติ"
ก่อนหน้านี้ นักโทษที่หลบหนีโทษจำคุกจากประเทศผู้นี้ ก็ได้ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นและบีบีซีเมื่อคืนวันจันทร์(13) หลังจากรัฐบาลส่งทหารออกไปสลายการก่อจลาจลของพวกกลุ่มผู้สนับสนุนเขา โดยที่ถูกผู้ดำเนินรายการตั้งคำถามรุกไล่จนตอบผิดตอบถูก แถมทั้งสองสถานีโทรทัศน์ข่าวระดับโลกยังตามไปสัมภาษณ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้พูดตอบโต้และแก้ต่าง จนเป็นที่ฮือฮาในบรรดาเว็บข่าวทั้งหลาย
ความพยายามครั้งสุดท้าย
ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ได้เสนอบทวิเคราะห์ เขียนโดย บิลล์ ทาร์แรนต์ ใช้ชื่อว่า "เสียงไชโยสุดท้ายของทักษิณหลังการลุกฮือของคนเสื้อแดง?" โดยระบุว่า การลุกฮือที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ อาจจะเป็นความพยายามแบบจนตรอกครั้งสุดท้ายของเขา ที่ต้องการกลับคืนสู่อำนาจทางการเมืองในไทยอีก ในเมื่อหลังจากการโฟลอินและใช้วิดีโอลิงก์เข้ามาชักชวนกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ท้ายที่สุด การชุมนุมนานถึง 3 สัปดาห์ก็ต้องยุติลง พร้อมกับคำถามตามมาว่า เขาพ่ายแพ้แล้วใช่หรือไม่
"หากทั้งหมดนี้เป็นเกมเดิมพันของทักษิณแล้ว ก็เป็นการเล่นที่มีโอกาสชนะน้อยมาก" บทวิเคราะห์นี้ระบุ
บทวิเคราะห์ของรอยเตอร์ยังอ้างรายงานของ "สแตรตฟอร์" สำนักที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมือง ที่ระบุว่า "ถึงแม้จะเกิดการจลาจลซึ่งทักษิณสามารถที่จะอำนวยการประสานให้เกิดขึ้น แต่เขาก็กำลังปฏิบัติการจากจุดยืนแห่งความอ่อนแอโดยพื้นฐาน"
"นอกเหนือจากทรัพย์สินของเขาจะถูกยึด, ศาลไทยก็กำลังตัดสินลงโทษเขาแล้ว เขายังกำลังเสี่ยงที่จะต้องถูกจำคุก และรัฐบาลที่เขากำลังหาทางสั่นคลอนเสถียรภาพนั้น กลับยังคงรักษาการสนับสนุนทั้งจากกองทัพ, สถาบัน, และข้าราชการ" สแตรตฟอร์ระบุ
บทวิเคราะห์ของรอยเตอร์กล่าวด้วยว่า ไพ่ทีเด็ดของ พ.ต.ท.ทักษิณเท่าที่ผ่านมาคือความสามารถที่จะชนะการเลือกตั้ง แต่อย่างน้อยในการสำรวจครั้งล่าสุดครั้งหนึ่ง ก็ชี้ว่าความนิยมของเขากำลังหดหายลงไป นั่นคือ ผลสำรวจของเอแบคโพล ที่ระบุว่า 55% ของผู้ตอบคำถามจาก 18 จังหวัดทั่วประเทศ ต้องการให้พวกเสื้อแดงยุติการประท้วง และปล่อยให้นายอภิสิทธิ์บริหารประเทศต่อไป มีเพียง 11% ที่ต้องการให้นายอภิสิทธิ์ลาออก