โฆษกตำรวจนครบาล ประกาศเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงให้สลายตัวโดยพลัน เพราะทหารและตำรวจได้สนธิกำลังกันเตรียมที่จะสลายม็อบแล้ว
วันนี้ (14 เม.ย.) ที่บริเณหน้ากองทัพภาคที่ 1 ถนนราชดำเนินนอก พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น. โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำรถเครื่องขยายเสียงประกาศให้ผู้ชุมนุมที่มีความประสงค์จะกลับภูมิลำเนาให้ออกมา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมรถของขสมก.ไว้ประมาณ 10 คัน และจอดรออยู่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
พล.ต.ต.สุพร ยังประกาศด้วยว่าขอให้ผู้ชุมนุมสลายตัว ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการฉุกเฉิน ซึ่งมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น ขอให้ผู้ชุมนุมได้ทราบว่ากำลังจะมีการสลายม็อบ ซึ่งขณะนี้มีกำลังทหารจำนวน 2 กองร้อย ประมาณ 300 นาย พร้อมอาวุธครบมือ โดยกำลังทหารจะสนธิกำลังกับตำรวจนครบาลเพื่อทำการสลายม็อบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศดังกล่าวเป็นไปตามหลักการสลายการชุมนุมอย่างสากล ที่จะมีการประกาศแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมได้ทราบ จากนั้นจะทำการฉีดน้ำเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม สลับการยิงแก๊งน้ำตา โดยทหาร ได้สั่งห้ามไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปใกล้ในรัศมี 100 เมตรแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงในบริเวณทางด่วนยมราช ถนนพิษณุโลก ทหารยังคงตรึงกำลังหลายกองร้อย พร้อมนำรถดับเพลิงของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจอดอยู่บริเวณแยกทางด่วนยมราช เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ โดยขณะนี้ที่บริเวณหน้าสนามม้านางเลิ้ง จุดที่อยู่ตรงข้าม รพ.มิชชัน ได้มีการจุดไฟเผารถยูโรปรับอากาศ สาย 509 โดยเพลิงได้ลุกไหม้ท่วมคันรถและมีเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ซึ่งมีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งหนาแน่นมาก ชึ่งขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟได้
ขณะเดียวกัน ในบริเวณใกล้เคียงจุดที่รถยูโรถูกเผา ได้มีการนำถังแก๊สหุงต้มมาจุดไฟเผา ซึ่งทำให้มีเปลวไฟตลอดเวลา ทำให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบได้ถอยห่างออกไป เกรงจะเกิดระเบิดและเป็นอันตรายได้
ล่าสุด นายวีระ มุสิกพงศ์ ได้ออกมาประกาศเลิกการชุมนุมแล้ว แต่ขอให้นายตำรวจระดับสูงเข้าไปเจรจา โดยให้ดูแลความปลอดภัยให้กับพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งทหารและตำรวจยังคงตรึงกำลังอยู่อย่างเข้มแข็งและมีการสั่งเตรียมพร้อมแล้ว ในขณะที่ทางทหารมีคำสั่งไม่ให้เข้าออกบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล แต่หากผู้ชุมนุมจะเดินทางออกมาให้ออกทางแยกวังแดงเท่านั้น
ต่อมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. และพล.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.ตปพ. นำกำลังตำรวจปราบจลาจล 3 กองร้อย สสนธิกำลังจากตำรวจนครบาลของ สน.ต่างๆ อีก 2 กองร้อย เดินทางเข้าไปยังสถานที่ชุมนุม หลังจากที่แกนนำ นปช.ได้ติดต่อมา เพื่อขอยกเลิกการชุมนุม และขอมอบตัวในคดีที่บุกพัทยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบริเวณถนนเส้นทางที่อยู่ด้านหน้าสนามม้านางเลิ้ง ได้มีการจุดไฟเผารถขสมก.ปรับอากาศสาย 503 อีกหนึ่งคัน ขณะเดียวกันก็เกิดการชุลมุนวุ่ยวายเนื่องจากประชาชนบางส่วนยืนต่อว่าเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ทำให้ประชาชนอีกส่วนหนึ่งเกิดความไม่พอใจจึงเข้าตะลุมบอนกัน
เวลา 11.20 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ว่ายังไม่ได้รับการประสานที่แกนนำจะมามอบตัว ต้องขอรอดูก่อน จากนั้นเดินขึ้นไปยังตึกบัญชาการทันที ล่าสุด พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.วรพงษ์ ได้เดินทางด้วยรถตู้ มุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีรายงานว่าเพื่อไปรับตัวแกนนำผู้ชุมนุมทั้ง 5 คน
ขณะที่บริเวณแยกนางเลิ้ง ซึ่งมีการเผารถเมล์ไป 2 คัน และบริเวณปากซอยพิษณุโลก 1 กลุ่มคนเสื้อแดงทำการยึดรถน้ำของหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และขับรถพุ่งเข้าชนกลุ่มทหารที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านในย่านนั้นกรูกันเข้าไปเพื่อจับกลุ่มผู้ชุมนุม
