xs
xsm
sm
md
lg

คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินหวั่นป่วนอีก "ไทม์ส"ชูมาร์คเหนือนช.แม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "อภิสิทธิ์" ชี้แจงประชาชนหลังสลายกองโจรเสื้อแดง แต่จำเป็นต้องตรึงกำลังพลบางส่วนในกทม.ไว้ หวั่นเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกครั้ง ระบุยังคงประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เร่งคลี่คลายสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติได้โดยสะดวก ด้านนิตยสาร"ไทม์ส" ยกย่อง"มาร์ค"นำชาติพ้นอนาธิปไตย แถมมีชัยชนะเหนือ"นช.แม้ว" ในสงครามสื่อ ระบุตอบโต้ CNN , BBC อย่างมีเหตุมีผล อดทน และชัดถ้อยชัดคำ ตรงข้ามกับนักโทษหนีคดี ที่ตอบคำถามอย่างเลื่อนลอย และไม่น่าเชื่อถือ

เมื่อเวลา 17.26น. วานนี้ (14เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หลังการสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง และแกนนำบางส่วนเข้ามอบตัว

นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลจะพยายามนำความสงบสุข กลับคืนสู่สังคม บ้านเมืองของเรา เพื่อให้เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย และได้มีการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อที่จะคลี่คลายเหตุการณ์ต่างๆนั้น ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายไปจนเกือบหมดสิ้นแล้ว ทั้งการปิดถนนตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะการชุมนุมบริเวณรอบทำเนียบฯ ซึ่งทางรัฐบาลได้ส่งประชาชนที่มาชุมนุมกลับภูมิลำเนาแล้ว

"ขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ ทั้งพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป ที่ทำให้เราสามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้"

อย่างไรก็ตาม ภารกิจของการดำเนินการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังไม่เสร็จสิ้น มีภารกิจที่จะต้องดำเนินการต่อ และรัฐบาลจะไม่ตั้งอยู่บนความประมาท เราจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังในเรื่องเหตุการณ์ต่างๆ ต่อไปเนื่องจากมีผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงรวมตัวกันอยู่ โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม แต่ก็มีจำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ดังนั้นจะยังคงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ก่อน เพื่อที่จะให้การเร่งนำทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่ภาวะปกติ เป็นไปได้สะดวก รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการ เพิ่มวันหยุดราชการอีก 2 วัน คือในวันที่ 16 และ17 เม.ย. เนื่องจาก จากสภาพพื้นที่ที่มีการชุมนุมนั้น ยังจำเป็นที่จะต้องเข้าไปปฏิบัติการ เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวนั้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ให้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และหวังว่าจะเป็นโอกาสที่พี่น้องประชาชนจะได้ผ่อนคลาย หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่ตึงเครียดตลอดระยะเวลาที่ผ่านม

สำหรับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องในทางกฎหมาย และทางการเมืองนั้น จะต้องมีการดำเนินคดีกับแกนนำ ที่ได้มีส่วนในการนำความไม่สงบในการยุยงให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งแม้ว่าจะเป็นในช่วงที่อยู่ในการประกาศใช้กฎหมายพิเศษ แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว การดำเนินคดีทั้งหมดนั้นก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามปกติในที่สุด และยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย ไม่มีการตั้งธงว่าคนนั้นผิด คนนี้ไม่ผิด

ส่วนที่มีการออกหมายจับผู้ที่หลบหนีนั้น ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ใครที่ทราบเบาะแส ก็ขอความกรุณาให้ได้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย

นายกรัฐมนตรียืนยันว่า แม้ว่าเหตุการณ์จะได้คลี่คลายไปในลักษณะนี้ แต่ตนไม่ได้ถือเลยว่า สิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ของฝ่ายใด สิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าจะเป็นชัยชนะ ก็คือชัยชนะของสังคม ที่สามารถกลับเข้าสู่ความสงบได้

"สำหรับผู้ชุมนุมซึ่งได้ก่อเหตุต่างๆ การกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับทางตัวผม รัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ หรือสิ่งที่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการไปในการปฏิบัติการ ผมอยากจะเรียนว่า เราอย่าถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เราอย่าถือเป็นเรื่องที่จะต้องเก็บมาเป็นอารมณ์โกรธเคืองกันครับ ความขัดแย้งที่ผ่านมาอาจจะเกิดจากคนกลุ่มเล็กๆ ที่สร้างความเข้าใจผิด และทำให้เราต้องมาเผชิญหน้ากัน วันนี้ผมไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องของชัยชนะของฝ่ายใด ผมมองเพียงแต่ว่า ถ้าเราร่วมกันทำให้สังคมสงบลง เรามาพูดคุยกันได้ง่ายขึ้นครับ ปัญหาทางการเมืองก็มาคุยกันในเวทีทางการเมือง การเมืองก็มีทั้งระบบรัฐสภา มีทั้งการเมืองภาคประชาชน ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องของการประท้วง หรือการเผชิญหน้ากันบนท้องถนน และที่สำคัญก็คือ ต้องไม่มีความรุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้อง" นายกรัฐมนตรี กล่าว

**"ไทม์ส"ชู"มาร์ค"เหนือ"นช.แม้ว"

นิตยสารไทม์ส ออกบทวิเคราะห์กรณีการการจัดการกับผู้ชุมนุมประท้วงในประเทศไทย ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีชัยชนะเหนือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการทำสงครามสื่อสารมวลชนอย่างชัดเจน รวมทั้งยังสามารถนำพาประเทศให้รอดพ้นจากภาวะอนาธิปไตยมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งที่เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เกือบจะเพลี่ยงพล้ำ ทำให้ประเทศไทยต้องกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าผู้นำประเทศมหาอำนาจเอเชีย จากความวุ่นวายที่พัทยาจนต้องยกเลิกการจัดประชุมอาเซียน +3 และ +6

ไทม์ส วิเคราะห์ว่า การแก้ปัญหาของนายอภิสิทธิ์ ทำให้ข่าวการชุมนุม ซึ่งตามปกติมักจะเป็นความหายหะ กลับออกมาในเชิงที่ค่อนข้างเป็นบวก และตามรายงานข่าวที่ออกมามีผู้เสียชีวิตเพียง 2 คน จากการที่ผู้ประท้วงต่อสู้กับชาวบ้าน ทำให้มองเห็นว่าประเทศไทย คงจะออกจากปัญหานี้อย่างไม่ยากเย็นนัก เมื่อทหารในสภาพกดดัน ถือปืนกลมือเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงที่บ้าคลั่งพร้อมระเบิดขวดอยู่ในมือ ความหายนะย่อมจะเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่วินาที แต่ทหารไทยก็ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และมุ่งที่จะสลายการชุมนุมมากกว่าที่จะมุ่งทำร้ายผู้ประท้วง โดยการยิงกระสุนเปล่าขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่เท่านั้น

การมีชัยชนะเหนือ พ.ต.ท.ทักษิณ นักโทษหนีคดี ของนายกรัฐมนตรี ในสงครามสื่อครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่านายกรัฐมนตรี สามารถตอบโต้ข้อกล่าวหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องการใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง และเรื่องการกล่าวอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุวุ่นวายในกรุงเทพมหานครได้ในทุกประเด็น ซ้ำร้าย ในการให้สัมภาษณ์สดตอบโต้กันผ่านสำนักข่าว CNN และ BBC นายกรัฐมนตรีสามารถตอบคำถามได้อย่างมีเหตุมีผล อดทน และชัดถ้อยชัดคำ ซึ่งแตกต่างจากพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ตอบคำถามอย่างเลื่อนลอย และไม่น่าเชื่อถือ
กำลังโหลดความคิดเห็น