เอกชนลงขัน ผุดตลาดสดสี่แยกอินโดจีน

พิษณุโลก - กลุ่มทุนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างร่วมลงขันพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ ผุดตลาด-อาคารพาณิชย์ ดึงพ่อค้าแม่ค้าเป็นเจ้าของตลาดสดฝั่งตรงข้ามศูนย์ข้อมูลของสี่แยกอินโดจีน ที่กำลังรอผู้ว่าฯพิษณุโลก สานงานต่อหลังทุ่มงบ อบจ.พิษณุโลกหวังสร้างศูนย์วัฒนธรรม 4 ชาติ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่คืบ

นายวิโรจน์ จิรัฐิติกาลโชติ รองเลขาธิการกรรมการหอการค้าไทยและกรรมการหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่ค่อยสดใสนัก แต่ก็เป็นเพราะภาคการส่งออก ปัญหาไม่หนักเหมือนกับวิกฤตการณ์การเงินปี 40 หากรัฐบาลส่งเสริมกำลังซื้อในประเทศก็สามารถพยุง จีดีพีได้ ขณะที่มูลค่าการค้าชายแดนของไทยและประเทศเพื่อนบ้านยังดีอยู่ ฉะนั้นการพัฒนาสี่แยกอินโดจีนของจังหวัดพิษณุโลกสำเร็จ ย่อมเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะการขยายถนนสาย 12 พิษณุโลก-หล่มสักให้เป็น 4 ช่องจราจรจะช่วยเร่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้แน่ กระตุ้นเมืองพิษณุโลกเศรษฐกิจคึกคัก

ล่าสุดมีนักลงทุนมองเห็นศักยภาพของสี่แยกอินโดจีนได้ลงทุนก่อสร้างอาคารพาณิชย์ จากที่ภาครัฐกำลังก่อสร้างศูนย์ข้อมูลส่งเสริมการท่องเที่ยวและลงทุนบริเวณสี่แยกอินโดจีน

แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยอินโดจีนก่อสร้าง จำกัด เปิดเผยว่า ที่ดินผืนนี้มีเนื้อที่ 31 ไร่ มีกลุ่มนักลงทุนหลายคนร่วมพัฒนาที่ดิน ทั้งพิษณุโลก นครสวรรค์ และลพบุรี เป้าหมายพัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์จำนวน 136 ห้อง และตลาดสดที่มีผู้ค้าขายไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย สามารถแบ่งเป็นตลาด 5 ประเภทๆละ 200 ล็อก ขนาด 2 คูณ 2 เมตร ซึ่งต้องการให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดในเมืองพิษณุโลกลงทุนจับจองและถือเป็นกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ ในราคาล็อกละ 80,000 บาท ส่วนอาคารพาณิชย์ได้เตรียมก่อสร้างบริเวณด้านหน้าโครงการ

อดีตประธานหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า โครงการตลาดสดสี่แยกอินโดจีน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เพียงแต่แบ่งที่ดินร่วมกันพัฒนา ลักษณะร่วมกันเป็นเจ้าของบนที่ดินกรรมสิทธิ์โฉนดแบ่งเป็นแปลงๆ อนาคตสามารถพัฒนาเป็นจุดถ่ายสินค้าหรือพักรถได้

ทั้งนี้หากสำรวจที่ดินรัศมี 1 กิโลเมตร แถบสี่แยกร้องโพธิ์หรือสี่แยกอินโดจีน พบว่า เป็นที่ดินที่เป็นแปลงใหญ่ ส่วนใหญ่ว่างเปล่า แต่มีการเปลี่ยนมือสูง คือ ถนนมิตรภาพฝั่งทิศตะวันตกของสี่แยกอินโดจีนราคาที่ดินแพงสุดราคาประเมินจากกรมที่ดินประกาศไว้ 21 ธันวาคม 2550 ตารางวาละ 20,000 บาท หรือ ไร่ละ 8,000,000 บาท ระยะ 40 เมตรจากถนนหลัก ส่งผลให้ตลอดถนนมิตรภาพ เริ่มจากในเมืองถึงสี่แยกอินโดจีนมีการเปลี่ยนมือและรอการพัฒนา

ล่าสุด ที่ดิน 7 ไร่ 2 งานเศษกำลังพัฒนาเป็นธุรกิจยางรถยนต์-ประดับยนต์ขนาดใหญ่ ส่วนที่ดินอีก 49 ไร่กำลังถมที่ดินปรับพื้นที่บนถนนมิตรภาพ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า “ห้างคาร์ฟูร์”เตรียมควานหาพื้นที่ทำเลทองเพื่อผุดสาขาขนาดใหญ่ในพิษณุโลก

ย้อนไปเมื่อมกราคม ปี 51 นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ในสมัยนั้น ได้ผลักดันโครงการสี่แยกอินโดจีนให้เป็นรูปธรรม หลังจากมีแค่ป้ายบอกทาง จึงได้ประสานไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด พิษณุโลก(อบจ.) เพื่อของบประมาณได้ 10 ล้านบาทและขอใช้พื้นที่ชั่วคราวจำนวน 9 ไร่จากกรมทางหลวง นำมาปรับภูมิทัศน์บริเวณสี่แยกอินโดจีน ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก วางเป้าหมายแล้วเสร็จในปี 51 ตามแบบแผนโยธาธิการและผังเมืองพิษณุโลก ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามที่ออกแบบกิจกรรมภายในและหลักหมุดบอกพิกัดละติจูด-ลองจิจูด ของสี่แยกอินโดจีน

ทั้งนี้ มีงานก่อสร้างอาคารศูนย์ข้อมูล ศูนย์วัฒนธรรมประเทศไทย ศูนย์ข้อมูลวัฒนธรรม 4 ประเทศ (จีน เวียดนาม พม่า และมาเลเซีย) ลานแสดงวัฒนธรรม สถานที่จำหน่ายอาหารและสินค้าโอทอปของทั้ง 5 ประเทศ เริ่มก่อสร้างต้นปี 2551 กำหนดแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ภายใต้งบประมาณจาก อบจ.พิษณุโลก คาดหมายมีผู้เข้าชมและจอดพักจำนวนมาก

แต่วันนี้ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างเปลี่ยนขั้วอำนาจของนายกอบจ. พิษณุโลกคนเก่าและคน ใหม่ ซึ่งกำลังรอนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกคนใหม่มาสานงานต่อผู้ว่าฯคนเดิม