ผู้หญิงหลายคนช็อกกับข่าวเมื่อต้นเดือนที่ว่า แม้แต่ไวน์แก้วเล็กๆ ยังเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ ได้ริเริ่มการศึกษาผลกระทบจากการใช้ฮอร์โมนทดแทน (เอชอาร์ที) และความเป็นไปได้ที่เอชอาร์ทีมีส่วนเชื่อมโยงกับมะเร็งและโรคอื่นๆ ตั้งแต่ปี 1996 โดยศึกษาจากผู้หญิงกว่าล้านคน ผลศึกษานี้นำไปสู่การค้นพบสำคัญหลายอย่างเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพตั้งแต่การใช้ยาคุมกำเนิดไปจนถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการมีบุตร
บทความชิ้นนี้ยังประกอบด้วยรายงานการวิจัยสุขภาพผู้หญิงอีกหลายชิ้น รวมกันแล้วน่าจะเรียกได้ว่าเป็นร่างพิมพ์เขียวสำหรับภาวะที่เป็นสุขในอนาคตของผู้หญิง โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจคร่าวๆ ดังนี้
ไม่ต้องสะอาดให้มากนัก
การล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดอาจเพียงพอแล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดแบคทีเรียไฮเทคมากเกินไปอาจให้ผลร้ายมากกว่าดี เพราะไม่ใช่แค่ไม่สามารถป้องกันโรคหวัดและไข้ (ซึ่งมีไวรัสเป็นพาหะ ไม่ใช่แบคทีเรีย) แล้ว ยังอาจส่งผลต่อสมดุลอันละเอียดอ่อนของแบคทีเรียในร่างกายเรา
ดร.แมรี รูบัช อธิบายว่าจุลินทรีย์ส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างปัญหา แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น จุลินทรีย์ที่อยู่ในทางเดินอาหารและผลิตสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่จุลินทรีย์เหล่านี้มักถูกทำลายจากสารยับยั้งแบคทีเรีย
ใช้ยาคุมกำเนิด
การศึกษาของออกซ์ฟอร์ดระบุว่า ยาคุมกำเนิดช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ โดยมีฤทธิ์ป้องกันอย่างน้อย 30 วันแม้หยุดใช้ยา ทั้งนี้ ทุกๆ 5 ปีที่ผู้หญิงใช้ยาคุมกำเนิด ความเสี่ยงมะเร็งรังไข่จะลดลง 20% และผู้ที่ใช้นานถึง 15 ปี ความเสี่ยงจะลดลงถึงครึ่งหนึ่ง
ดื่มชาดำ
โรคเหงือกเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ เพราะเชื้อโรคในปากทำให้เส้นเลือดฝอยนับแสนเส้นขอด ส่งผลต่อเนื่องให้หลอดเลือดแดงแคบลง ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของอาการหัวใจวาย
ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องป้องกันโรคเหงือกแต่เนิ่นๆ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือป้องกันฟันผุและกำจัดคราบหินปูนในปาก ซึ่งเป็นลางบอกเหตุของโรคเหงือก ด้วยการดื่มชาดำ
นักวิจัยอเมริกันพบว่าสารประกอบในชาดำไม่เพียงฆ่าแบคทีเรียในคราบหินปูนที่เป็นตัวการทำให้ฟันผุเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อเอนไซม์ glucosyltranferase ที่แปลงน้ำตาลเป็นหินปูนเกาะติดฟัน
ชาดำจะทำให้แบคทีเรียสูญเสียความสามารถในการจับตัวกันเป็นก้อนกับแบคทีเรียอื่นๆ ในคราบหินปูน จึงลดปริมาณหินปูนโดยรวมลงได้
หลีกเลี่ยงโคล่า
ไดเอ็ตโคล่ามักประกอบด้วยฟอสเฟตในรูปของกรดฟอสโฟริกเพื่อปรุงแต่งรสชาติ แต่กรดนี้มีฤทธิ์รบกวนการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย
จากงานศึกษาฉบับหนึ่งพบความเชื่อมโยงเป็นพิเศษระหว่างโคล่ากับความหนาแน่นของกระดูกในหญิงสูงวัย กล่าวคือผู้หญิงที่ดื่มน้ำอัดลมสัปดาห์ละ 5 ขวด (ในจำนวนนี้เป็นโคล่า 4 ขวด) มีความหนาแน่นของกระดูกต่ำลง 4%
ผอมเกินไปก็ไม่ดี
ดัชนีมวลกาย (บีเอ็มไอ) ในอุดมคติอยู่ที่ราว 24 สำหรับผู้หญิงสูง 160 เซนติเมตร ซึ่งหมายถึงน้ำหนักตัว 63.5 กิโลกรัม แม้ผลลบจากภาวะน้ำหนักเกินเป็นที่รู้กันทั่วไป (เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ฯลฯ) แต่กลับไม่ค่อยมีคนรู้ว่าการที่น้ำหนักน้อยเกินไปมีผลลบอย่างไร
น้ำหนักตัวที่ต่ำกว่ามาตรฐานอาจส่งผลต่อภาวะการมีลูกยาก และโรคกระดูกพรุน
หลีกเลี่ยงฮอร์โมนทดแทน
ช่วงไม่กี่ปีมานี้มีเรื่องราวน่ากลัวมากมายเกี่ยวกับเอชอาร์ที ฝ่ายสนับสนุนบอกว่าเอชอาร์ทีช่วยป้องกันโรคบางโรค เช่น โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน แผลที่ขา และมะเร็งลำไส้
อย่างไรก็ตาม การศึกษาของออกซ์ฟอร์ดพบว่าการใช้เอสโตรเจนร่วมกับโปรเตสโตเจนกลับเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ ขณะที่เอชอาร์ทีที่ใช้เอสโตรเจนอย่างเดียวแม้ปลอดจากความเสี่ยงนี้ แต่กลับเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
อยู่ให้ไกลบุหรี่
ไม่เพียงช่วยป้องกันจากมะเร็งปอดเท่านั้น แต่การไม่สูบบุหรี่ยังช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกด้วย โดยผู้หญิงพ่นควันมีความเสี่ยงโรคนี้เพิ่มขึ้นสองเท่า
มะเร็งปากมดลูกเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อจากไวรัสที่ชื่อว่า human papilloma virus (HPV) ทฤษฎีก็คือ นิโคตินจะเข้าไปสะสมในมูกที่ปากมดลูก ส่งผลให้กลไกการป้องกัน HPV และมะเร็งอ่อนกำลังลง นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าการสูบบุหรี่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง
ยอมถูกแดดถ้าอยากมีลูก
สาเหตุสำคัญของการมีบุตรยากในผู้หญิงคือ polycystic ovary syndrome (PCOS) ที่ทำให้การตกไข่ไม่ปกติ
ซิตา เวสต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์ เปิดเผยภายหลังศึกษามานานหนึ่งปีว่า ผู้หญิงมากมายที่มีปัญหาเรื่องนี้หรือปัญหาการตกไข่ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจอธิบายได้ มักเป็นพวกที่ขาดวิตามินดี
นอกจากนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐฯ ยังพบว่าผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติและได้กินวิตามินดีช่วย มีความเสี่ยงที่จะเกิด PCOS และการตกไข่ผิดปกติลดลงถึงกว่า 90%
รังสียูวีจากแสงแดดคือแหล่งวิตามินดีสำคัญ กระนั้น การตากแดดนานๆ อาจทำให้ผู้หญิงหลายคนห่วงว่าผิวจะเสียหรือแม้แต่เป็นมะเร็งผิวหนัง สำหรับเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการถูกแดดวันละเพียง 20 นาทีเพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตวิตามินดี
กินยาต้องระวัง
ยาธรรมดาๆ บางตัว ทั้งที่แพทย์เขียนใบสั่งยาให้หรือยาที่ซื้อหาได้ทั่วไป อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดและไหม้ได้
ยาเหล่านี้รวมถึงยาปฏิชีวนะ ยาควบคุมคลอเรสเตอรอล ความดันโลหิตและเบาหวาน ยาคุมกำเนิด ยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ รวมถึงไอบูโพรเฟน หรือแม้แต่ยารักษาสิว นอกจากนั้น ยังต้องใส่ใจเป็นพิเศษเมื่อต้องตากแดดนานๆ
โด๊ปกล้วย
ผู้หญิงวัยกลางคน 1 ใน 4 มีปัญหาซึมเศร้าหรือกังวล อาการซึมเศร้านั้นเกี่ยวพันกับภาวะเซโรโทนิน หรือฮอร์โมนความสุขลดต่ำ
บ่อยครั้งที่การขาดเซโรโทนินเกิดจากการขาดแคลนกรดอะมิโน tryptophan ที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้
ดร.แคโรลีน ลองมอร์ เชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการเก็บสต็อกเซโรโทนินคือการกินอาหารที่อุดมด้วย tryptophan เช่น ไก่งวง คอตเทจชีส พลัม กล้วย สำหรับกล้วยนั้น ดร.ลองมอร์แนะนำให้กินสัปดาห์ละ 11 ใบ
อย่าแตะเครื่องดื่มมึนเมา
หนึ่งในประเด็นที่ออกซ์ฟอร์ดค้นพบคือ ไวน์แม้เพียงแก้วเดียวต่อวันสามารถเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม 9.5-10.6%
งานศึกษานี้ยังเปิดเผยถึงความเสี่ยงของโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่กระดกลงคอ กระทั่งนักวิจัยสรุปว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าน้อยเพียงใดก็ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพทั้งนั้น
มีลูกอย่างน้อย2คนก่อนอายุขึ้นเลข3
การศึกษาของออกซ์ฟอร์ดพบว่า การมีลูกระหว่างช่วงอายุ 20-29 ปี ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมลง 7%
งานวิจัยสรุปว่า หากผู้หญิงมีลูก 2.5 คนโดยเฉลี่ย และให้นมลูกแต่ละคนนาน 12 เดือน ความเสี่ยงของโรคนี้จะลดลง 11% โดยประมาณต่อปี
กุญแจสำคัญอาจมาจากการที่ระดับฮอรโมนเอสโตรเจนลดลง (ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมลูก ร่างกายจะผลิตเอสโตรเจนลดลง และฮอร์โมนชนิดนี้อาจเป็นสาเหตุของมะเร็ง) ดังนั้น ยิ่งให้นมนานเท่าไร ความเสี่ยงยิ่งลดลงเท่านั้น
จากข้อมูลของแคนเซอร์ รีเสิร์ช ยูเคระบุว่า ทุกๆ 12 เดือนที่ให้นมลูก จะทำให้แม่มีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมลดลง 4.3% นอกจากนี้ การให้นมยังลดความเสี่ยงโรคถุงน้ำดีปีละ 7%
การศึกษาจากสวีเดนยังพบว่า การให้นมลูกระยะยาว (นานกว่า 13 เดือน) ลดโอกาสที่ผู้หญิงจะเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ลงครึ่งหนึ่ง หรือให้นมแค่เดือนเดียวยังลดความเสี่ยงได้ถึง 25%
ระวังลงพุง
อาการลงพุงนอกจากไม่น่ามองและทำให้เจ้าตัวอึดอัดแล้ว ยังอาจเป็นสาเหตุของโรคลำไส้แปรปรวนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดและดูแลกันไปตลอดชีวิต นี่ยังไม่รวมถึงการเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งรังไข่
การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ของดร.แคลร์ แบงก์เฮด จากกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ พบว่า 86% ของผู้หญิงที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่ มีอาการท้องอืดถาวร
ทำการบ้านปีละ 200 ครั้ง
ศาสตราจารย์เมห์เหม็ด ออซ จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจของสหรัฐฯ แนะนำว่าการถึงจุดสุดยอดปีละเกินกว่า 200 ครั้ง จะทำให้อ่อนเยาว์ลง 6 ปี
ข้อมูลนี้มาจากการวิจัยในประเด็นความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์และสุขภาพโดยรวม
“ดูเหมือนว่ากิจกรรมทางเพศนำเสนอผลประโยชน์ด้านความอยู่รอดบางอย่างให้แก่มนุษย์” ศาสตราจารย์ออซปิดท้าย
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ ได้ริเริ่มการศึกษาผลกระทบจากการใช้ฮอร์โมนทดแทน (เอชอาร์ที) และความเป็นไปได้ที่เอชอาร์ทีมีส่วนเชื่อมโยงกับมะเร็งและโรคอื่นๆ ตั้งแต่ปี 1996 โดยศึกษาจากผู้หญิงกว่าล้านคน ผลศึกษานี้นำไปสู่การค้นพบสำคัญหลายอย่างเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพตั้งแต่การใช้ยาคุมกำเนิดไปจนถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการมีบุตร
บทความชิ้นนี้ยังประกอบด้วยรายงานการวิจัยสุขภาพผู้หญิงอีกหลายชิ้น รวมกันแล้วน่าจะเรียกได้ว่าเป็นร่างพิมพ์เขียวสำหรับภาวะที่เป็นสุขในอนาคตของผู้หญิง โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจคร่าวๆ ดังนี้
ไม่ต้องสะอาดให้มากนัก
การล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดอาจเพียงพอแล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดแบคทีเรียไฮเทคมากเกินไปอาจให้ผลร้ายมากกว่าดี เพราะไม่ใช่แค่ไม่สามารถป้องกันโรคหวัดและไข้ (ซึ่งมีไวรัสเป็นพาหะ ไม่ใช่แบคทีเรีย) แล้ว ยังอาจส่งผลต่อสมดุลอันละเอียดอ่อนของแบคทีเรียในร่างกายเรา
ดร.แมรี รูบัช อธิบายว่าจุลินทรีย์ส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างปัญหา แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น จุลินทรีย์ที่อยู่ในทางเดินอาหารและผลิตสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่จุลินทรีย์เหล่านี้มักถูกทำลายจากสารยับยั้งแบคทีเรีย
ใช้ยาคุมกำเนิด
การศึกษาของออกซ์ฟอร์ดระบุว่า ยาคุมกำเนิดช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ โดยมีฤทธิ์ป้องกันอย่างน้อย 30 วันแม้หยุดใช้ยา ทั้งนี้ ทุกๆ 5 ปีที่ผู้หญิงใช้ยาคุมกำเนิด ความเสี่ยงมะเร็งรังไข่จะลดลง 20% และผู้ที่ใช้นานถึง 15 ปี ความเสี่ยงจะลดลงถึงครึ่งหนึ่ง
ดื่มชาดำ
โรคเหงือกเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ เพราะเชื้อโรคในปากทำให้เส้นเลือดฝอยนับแสนเส้นขอด ส่งผลต่อเนื่องให้หลอดเลือดแดงแคบลง ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของอาการหัวใจวาย
ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องป้องกันโรคเหงือกแต่เนิ่นๆ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือป้องกันฟันผุและกำจัดคราบหินปูนในปาก ซึ่งเป็นลางบอกเหตุของโรคเหงือก ด้วยการดื่มชาดำ
นักวิจัยอเมริกันพบว่าสารประกอบในชาดำไม่เพียงฆ่าแบคทีเรียในคราบหินปูนที่เป็นตัวการทำให้ฟันผุเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อเอนไซม์ glucosyltranferase ที่แปลงน้ำตาลเป็นหินปูนเกาะติดฟัน
ชาดำจะทำให้แบคทีเรียสูญเสียความสามารถในการจับตัวกันเป็นก้อนกับแบคทีเรียอื่นๆ ในคราบหินปูน จึงลดปริมาณหินปูนโดยรวมลงได้
หลีกเลี่ยงโคล่า
ไดเอ็ตโคล่ามักประกอบด้วยฟอสเฟตในรูปของกรดฟอสโฟริกเพื่อปรุงแต่งรสชาติ แต่กรดนี้มีฤทธิ์รบกวนการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย
จากงานศึกษาฉบับหนึ่งพบความเชื่อมโยงเป็นพิเศษระหว่างโคล่ากับความหนาแน่นของกระดูกในหญิงสูงวัย กล่าวคือผู้หญิงที่ดื่มน้ำอัดลมสัปดาห์ละ 5 ขวด (ในจำนวนนี้เป็นโคล่า 4 ขวด) มีความหนาแน่นของกระดูกต่ำลง 4%
ผอมเกินไปก็ไม่ดี
ดัชนีมวลกาย (บีเอ็มไอ) ในอุดมคติอยู่ที่ราว 24 สำหรับผู้หญิงสูง 160 เซนติเมตร ซึ่งหมายถึงน้ำหนักตัว 63.5 กิโลกรัม แม้ผลลบจากภาวะน้ำหนักเกินเป็นที่รู้กันทั่วไป (เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ฯลฯ) แต่กลับไม่ค่อยมีคนรู้ว่าการที่น้ำหนักน้อยเกินไปมีผลลบอย่างไร
น้ำหนักตัวที่ต่ำกว่ามาตรฐานอาจส่งผลต่อภาวะการมีลูกยาก และโรคกระดูกพรุน
หลีกเลี่ยงฮอร์โมนทดแทน
ช่วงไม่กี่ปีมานี้มีเรื่องราวน่ากลัวมากมายเกี่ยวกับเอชอาร์ที ฝ่ายสนับสนุนบอกว่าเอชอาร์ทีช่วยป้องกันโรคบางโรค เช่น โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน แผลที่ขา และมะเร็งลำไส้
อย่างไรก็ตาม การศึกษาของออกซ์ฟอร์ดพบว่าการใช้เอสโตรเจนร่วมกับโปรเตสโตเจนกลับเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ ขณะที่เอชอาร์ทีที่ใช้เอสโตรเจนอย่างเดียวแม้ปลอดจากความเสี่ยงนี้ แต่กลับเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
อยู่ให้ไกลบุหรี่
ไม่เพียงช่วยป้องกันจากมะเร็งปอดเท่านั้น แต่การไม่สูบบุหรี่ยังช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกด้วย โดยผู้หญิงพ่นควันมีความเสี่ยงโรคนี้เพิ่มขึ้นสองเท่า
มะเร็งปากมดลูกเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อจากไวรัสที่ชื่อว่า human papilloma virus (HPV) ทฤษฎีก็คือ นิโคตินจะเข้าไปสะสมในมูกที่ปากมดลูก ส่งผลให้กลไกการป้องกัน HPV และมะเร็งอ่อนกำลังลง นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าการสูบบุหรี่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง
ยอมถูกแดดถ้าอยากมีลูก
สาเหตุสำคัญของการมีบุตรยากในผู้หญิงคือ polycystic ovary syndrome (PCOS) ที่ทำให้การตกไข่ไม่ปกติ
ซิตา เวสต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์ เปิดเผยภายหลังศึกษามานานหนึ่งปีว่า ผู้หญิงมากมายที่มีปัญหาเรื่องนี้หรือปัญหาการตกไข่ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจอธิบายได้ มักเป็นพวกที่ขาดวิตามินดี
นอกจากนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐฯ ยังพบว่าผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติและได้กินวิตามินดีช่วย มีความเสี่ยงที่จะเกิด PCOS และการตกไข่ผิดปกติลดลงถึงกว่า 90%
รังสียูวีจากแสงแดดคือแหล่งวิตามินดีสำคัญ กระนั้น การตากแดดนานๆ อาจทำให้ผู้หญิงหลายคนห่วงว่าผิวจะเสียหรือแม้แต่เป็นมะเร็งผิวหนัง สำหรับเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการถูกแดดวันละเพียง 20 นาทีเพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตวิตามินดี
กินยาต้องระวัง
ยาธรรมดาๆ บางตัว ทั้งที่แพทย์เขียนใบสั่งยาให้หรือยาที่ซื้อหาได้ทั่วไป อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดและไหม้ได้
ยาเหล่านี้รวมถึงยาปฏิชีวนะ ยาควบคุมคลอเรสเตอรอล ความดันโลหิตและเบาหวาน ยาคุมกำเนิด ยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ รวมถึงไอบูโพรเฟน หรือแม้แต่ยารักษาสิว นอกจากนั้น ยังต้องใส่ใจเป็นพิเศษเมื่อต้องตากแดดนานๆ
โด๊ปกล้วย
ผู้หญิงวัยกลางคน 1 ใน 4 มีปัญหาซึมเศร้าหรือกังวล อาการซึมเศร้านั้นเกี่ยวพันกับภาวะเซโรโทนิน หรือฮอร์โมนความสุขลดต่ำ
บ่อยครั้งที่การขาดเซโรโทนินเกิดจากการขาดแคลนกรดอะมิโน tryptophan ที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้
ดร.แคโรลีน ลองมอร์ เชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการเก็บสต็อกเซโรโทนินคือการกินอาหารที่อุดมด้วย tryptophan เช่น ไก่งวง คอตเทจชีส พลัม กล้วย สำหรับกล้วยนั้น ดร.ลองมอร์แนะนำให้กินสัปดาห์ละ 11 ใบ
อย่าแตะเครื่องดื่มมึนเมา
หนึ่งในประเด็นที่ออกซ์ฟอร์ดค้นพบคือ ไวน์แม้เพียงแก้วเดียวต่อวันสามารถเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเต้านม 9.5-10.6%
งานศึกษานี้ยังเปิดเผยถึงความเสี่ยงของโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่กระดกลงคอ กระทั่งนักวิจัยสรุปว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าน้อยเพียงใดก็ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพทั้งนั้น
มีลูกอย่างน้อย2คนก่อนอายุขึ้นเลข3
การศึกษาของออกซ์ฟอร์ดพบว่า การมีลูกระหว่างช่วงอายุ 20-29 ปี ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมลง 7%
งานวิจัยสรุปว่า หากผู้หญิงมีลูก 2.5 คนโดยเฉลี่ย และให้นมลูกแต่ละคนนาน 12 เดือน ความเสี่ยงของโรคนี้จะลดลง 11% โดยประมาณต่อปี
กุญแจสำคัญอาจมาจากการที่ระดับฮอรโมนเอสโตรเจนลดลง (ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมลูก ร่างกายจะผลิตเอสโตรเจนลดลง และฮอร์โมนชนิดนี้อาจเป็นสาเหตุของมะเร็ง) ดังนั้น ยิ่งให้นมนานเท่าไร ความเสี่ยงยิ่งลดลงเท่านั้น
จากข้อมูลของแคนเซอร์ รีเสิร์ช ยูเคระบุว่า ทุกๆ 12 เดือนที่ให้นมลูก จะทำให้แม่มีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมลดลง 4.3% นอกจากนี้ การให้นมยังลดความเสี่ยงโรคถุงน้ำดีปีละ 7%
การศึกษาจากสวีเดนยังพบว่า การให้นมลูกระยะยาว (นานกว่า 13 เดือน) ลดโอกาสที่ผู้หญิงจะเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ลงครึ่งหนึ่ง หรือให้นมแค่เดือนเดียวยังลดความเสี่ยงได้ถึง 25%
ระวังลงพุง
อาการลงพุงนอกจากไม่น่ามองและทำให้เจ้าตัวอึดอัดแล้ว ยังอาจเป็นสาเหตุของโรคลำไส้แปรปรวนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดและดูแลกันไปตลอดชีวิต นี่ยังไม่รวมถึงการเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งรังไข่
การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ของดร.แคลร์ แบงก์เฮด จากกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ พบว่า 86% ของผู้หญิงที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่ มีอาการท้องอืดถาวร
ทำการบ้านปีละ 200 ครั้ง
ศาสตราจารย์เมห์เหม็ด ออซ จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจของสหรัฐฯ แนะนำว่าการถึงจุดสุดยอดปีละเกินกว่า 200 ครั้ง จะทำให้อ่อนเยาว์ลง 6 ปี
ข้อมูลนี้มาจากการวิจัยในประเด็นความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์และสุขภาพโดยรวม
“ดูเหมือนว่ากิจกรรมทางเพศนำเสนอผลประโยชน์ด้านความอยู่รอดบางอย่างให้แก่มนุษย์” ศาสตราจารย์ออซปิดท้าย