แม่ทัพภาคที่ 1 ยันกองทัพไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวชี้นำการเลือกตั้ง พร้อมให้เชื่อมั่นไม่มีปฏิวัติ ตามที่ ผบ.ทบ.ให้สัญญา เตือนคนปล่อบข่าวเลิกใส่ร้ายกองทัพ ทำแตกความสามัคคี ด้านญาติเหยื่อวัดปทุมฯ มอบน้ำยาบ้วนปากให้ “เสธ.ไก่อู” ท้าสาบานวัดพระแก้ว ทหารไม่ได้ยิงประชาชน
พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในการเลือกตั้งว่า กองทัพภาคที่ 1 ยังไม่ได้รับการร้องขอ เราให้ความร่วมมือในการส่งเสริมประชาธิปไตย คือการไปเลือกตั้ง ซึ่งตนได้เน้นย้ำไปยังหน่วยต่างๆ และพบปะพูดคุยกับผู้บังคับหน่วย โดยสอบถามปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร ทุกหน่วยยืนยันที่จะรับนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.สนับสนุนให้ทหารลงไปใช้สิทธิได้เต็มที่ และรวมทั้งนโยบายความเป็นกลางพร้อมให้สิทธิเสรีภาพกับกำลังพลทุกระดับในการเลือกพรรคการเมืองขึ้นมาบริหารประเทศ ไม่ได้มีการชี้นำหรือบังคับ
ส่วนในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งเราก็ยังติดตามสถานการณ์ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาได้รับข่าวว่ามีการวางระเบิดใน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ประสานกับผู้ว่าฯ เพราะมีความรุนแรงหลายจุด แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้ในส่วนของจังหวัดสามารถดูแลได้ เราได้พยายามวางเครือข่ายด้านการข่าวในพื้นที่ต่างๆ
พล.ท.อุดมเดชกล่าวว่า ในฐานะ ผอ.รมน.ภาคที่ 1 ได้ประสานกับผู้ว่าฯ จังหวัดที่มีแนวโน้มความรุนแรง ได้พยายามติดต่อให้ข้อมูลข่าวสารตลอดเวลา ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติบางจุดบ้าง แต่อยู่ในเกณฑ์ที่ทางจังหวัดรับผิดชอบได้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทหารต้องหนักแน่นกับข้อกล่าวหาว่าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ พล.ท.อุดมเดชกล่าวว่า ผบ.ทบ.ได้พูดไปแล้วว่าไม่มี ตนก็ยืนยันว่าไม่มี ในฐานะที่คุมกำลัง เราไม่มีการลงไปชี้นำ หรือให้บุคคลภายนอกเข้ามา เพราะเรารู้หน้าที่ของเราดีว่าทหารต้องวางตัวอย่างไร ไม่สามารถเอียงเอนไปทางหนึ่งทางใดได้ ฉะนั้น การกล่าวหาว่ามีการชี้นำหรือเข้ามาพูดคุยต่อรอง ขอความร่วมมือต่างๆ ที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง เราไม่สามารถดำเนินการได้ ดังนั้นใครก็ตามที่พูดเช่นนี้เราต้องอดทน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่แต่ละคนอาจจะคิดมาก หวาดระแวงแต่ขอให้เชื่อมั่นในคำพูดของพวกเราว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ให้ความมั่นใจได้หรือไม่ว่าจะไม่มีการปฏิวัติ พล.ท.อุดมเดชกล่าวว่า ชัดเจนแล้วจากที่ ผบ.ทบ.ได้ออกมาพูดและยืนยันชัดเจนว่าไม่ต้องกังวลใจ ซึ่งตนก็ปฏิบัติตาม นโยบายของ ผบ.ทบ.อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ประชาชนก็อย่าหลงเชื่อข่าวลือ ซึ่งจากสภาพการปัจจุบันจะเข้าสู่แนวทางประชาธิปไตย หลังจากที่มีการยุบสภาจนมาถึงขณะนี้ทหารเองก็ไม่ได้เคลื่อนไหวที่ผิดปกติ แต่อาจมีการตรวจสภาพความพร้อมรบก็เป็นความจำเป็นตามห้วงเวลา ซึ่งไม่น่าตกใจ
ต่อข้อถามว่าต่างประเทศแสดงความเป็นห่วงถึงกับขู่จะตัดความสัมพันธ์หากมีการปฏิวัติ พล.ท.อุดมเดชกล่าวว่า เราทราบดีว่าถ้าไปทำในสิ่งต่างๆ ที่ร่ำลือกันก็จะเกิดผลเสีย เป็นที่รู้อยู่ อยากให้ประชาชนมั่นใจเพราะทุกอย่างเรารับฟังจากรอบๆ ตัว รวมทั้ง ผบ.ทบ.ยืนยันชัดเจนแล้ว
ส่วนบุคคลที่ให้ร้ายกองทัพมีเจตนาที่ไม่ดีนั้น พล.ท.อุดมเดชกล่าวว่า แน่นอนคนที่พูดอย่างนั้นไม่น่าปรารถนาดี ถ้าปรารถนาดีคงไม่ออกมาสร้างความวิตกกังวลให้ประชาชน ควรสร้างความสบายใจให้สังคม เพราะสังคมต้องการความรักสามัคคี ไม่ต้องการสิ่งที่จะทำให้เกิดความหวาดระแวงการแตกความสามัคคี ใครก็ตามที่กำลังดำเนินการให้แตกความสามัคคีควรยุติลง
เมื่อถามว่า หากเกิดความวุ่นวายทหารจะวางตัวอย่างไร พล.ท.อุดมเดชกล่าวว่า ต้องดูเป็นระดับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะตนไม่สามารถคาดการณ์ได้ เราต้องช่วยกัน อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างน่าจะเป็นไปด้วยวามเรียบร้อย เพราะขณะนี้เดินมาดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ห้องรับรองภายในสำนักงานเลขานุการกองทัพบก นางพะเยาว์ อัคฮาด หนึ่งในญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อ 19 พ.ค.ที่วัดปทุมวนาราม พร้อมกับญาติผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ได้เข้ารับหนังสือตอบรับจากที่เคยยื่นหนังสือถึงกองทัพบกให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดีผู้เสียชีวิต ซึ่งทางสำนักงานเลขานุการกองทัพบกได้ติดต่อให้มารับหนังสือ โดยหนังสือระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในกระบวนการสอบสวน หากให้ข้อมูลอะไรไปจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรม จึงขอให้รอผลการสอบสวนยุติลงเสียก่อน
ทั้งนี้ พ.ต.เบญจะ ปลุกอร่าม นายทหารประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก เป็นผู้มอบหนังสือให้นางพะเยาว์ โดยนางพะเยาว์กล่าวว่า ตนจะนำหนังสือฉบับดังกล่าวไปมอบให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพะเยาว์ได้นำกระเช้าซึ่งมีน้ำยาบ้วนปากชนิดขจัดคราบหินปูนอย่างแรงจำนวน 3 ขวด พลาสเตอร์ปิดปากจำนวนหนึ่ง พร้อมซีดีที่ได้สรุปเหตุการณ์การเสียชีวิต 6 ศพที่วัดปทุมวนารามของ คอป. โดยเขียนข้อความว่า “หุบปากสกปรกซะไก่อู” ฝากให้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกองทัพบก เนื่องจาก พ.อ.สรรเสริญเคยให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงกรณีการเสียชีวิต 91 ศพจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทหารไม่ได้เป็นผู้กระทำโดยบางกลุ่มพยายามยัดเยียดให้ทหารกระทำ ซึ่งนางพะเยาว์กล่าวว่าเป็นคำพูดที่ไม่รับผิดชอบ ไม่สนใจญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งจะรู้สึกอย่างไรหากคราวหน้าคราวหลังจะพูดอะไรควรคิดเสียก่อน ขอให้สำรวจช่องปากและฟันด้วย เพื่อสุขภาพปากที่ดีควรบ้วนปากวันละสองครั้ง ทั้งนี้ นางพะเยาว์ ยังท้า พ.อ.สรรเสริญให้ไปสาบานที่วัดพระแก้วว่าทหารไม่ได้มีส่วนต่อการเสียชีวิต ก่อนจะเดินทางกลับไป